ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2019, 07:30:40 AM »

กยท. ขู่ ผู้ส่งออกยางต้องรายงานปริมาณซื้อ-ขายทุกเดือน ไม่งั้นเจอโทษอาญา

นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศให้ผู้ส่งออกยางพารา รายงานปริมาณการซื้อขายยางในแต่ละเดือน เนื่องจากยางพาราเป็นสินค้าและบริการควบคุม ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมีบทบัญญัติกำหนดห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการใดๆ โดยจงใจ ที่จะทำให้ราคาสินค้าและบริการต่ำเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วน ซึ่งราคาสินค้าและบริการนั้น ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการฯ ต้องระวางโทษทางอาญา
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบกิจการยางพารา ได้รับทราบและขอความร่วมมือให้ซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยางในราคาที่เป็นธรรม
?การรายงานของผู้ส่งออกนี้จะเป็นกลุ่มที่ซื้อขายยางตั้งแต่ 5,000 ตันต่อเดือน ซึ่งเป็นปริมาณมากพอจะนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา ว่าขึ้นลงผิดปกติหรือไม่ ปริมาณออกสู่ตลาดเท่าไร เพื่อที่กยท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะวางแผนรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันถ่วงที โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนก.พ. นี้ เป็นต้นไป?

รายงานจากกยท. แจ้งว่า ในช่วงนี้ราคายางในตลาดจีนหยุดการเคลื่อนไหวเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยราคายางของไทย ประเภทยางแผ่นดิบอยู่ที่ 44.13 บาทต่อกก. ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 47.15 บาทต่อก.ก. ส่วนราคาประมูล ณ ตลาดกลางยางพารา ราคายางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 43.52 บาทต่อก.ก. แผ่นรมควันเฉลี่ยอยู่ที่ 45.28 บาทต่อก.ก.
ราคายางปรับตัวตามตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนราคายางจากราคาน้ำมัน มีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากมีแนวโน้มลดต่ำลงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการคว่ำบาตรประเทศเวเนซุเอลาโดยสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคายางได้รับปัจจัยกดดันปัญหาสงครามทางการค้า ระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงมีความตึงเครียดอยู่ ถึงแม้ว่าจะลดลงบ้างแล้วก็ตาม ล่าสุดผลกระทบจากปัญหาสงครามทางการค้าได้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต ทำให้กำไรการจากภาคอุตสาหกรรมการผลิต ของจีนลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
อีกทั้งสหรัฐได้ตอบโต้ รัฐบาลจีนด้วยการตั้งข้อกล่าวหาบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี จำนวน 20 ข้อหา ทำให้นักลงทุนมีความกังวลจากปัญหาสงครามทางการค้าและมาตรการที่สหรัฐ ใช้ตอบโต้รัฐบาลจีนส่งผลให้ชะลอการซื้อยางพารา เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต อีกทั้งเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และปริมาณยางเข้าสู่ตลาดมากทำให้ผู้ส่งออกไม่เร่งซื้อยางเพื่อการส่งออกในช่วงนี้
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/economics/news_2173770
   
 
  06/02/2019