ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: กันยายน 08, 2020, 07:56:52 PM »

เกษตรกรชาวสวนยาง เดือดร้อนหนัก หลังนายทุนจับมือกันทุบราคายาง
 
สยามรัฐออนไลน์  8 กันยายน 2563 13:05 น.  ภูมิภาค ตรัง




เกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้แปรรูปน้ำยางสดเป็นยางแผ่นรมควันตรัง เดือดร้อนหนัก หลังนายทุนจับมือกันทุบราคายาง

วันที่8กันยายน 2563 ที่จังหวัดตรัง นายถนอมเกียรติ  ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้แปรรูปน้ำยางสดเป็นยางแผ่นรมควัน เดือดร้อนหนักจากการถูกนายทุนจับมือกันทุบราคายางพารา ซ้ำเติมสถานการณ์โควิดหลังหยุดผลิตยางแผ่นรมควันไปนาน ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด เนื่องจากแรงงานต่างด้าวกลับประเทศ จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ราคาน้ำยางสดห่างจากราคายางแผ่นรมควัน ทำให้เกิดแรงจูงใจในการกลับมาแปรรูปอีกครั้ง แต่ถูกบริษัทผู้ส่งออกยางจับมือกันทุบราคา และเปิดตลาดสัปดาห์นี้จะจับมือกันไม่เข้าประมูลยาง หรือประมูลต่ำกว่าราคากลาง ทำตลาดล่ม วอนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย

"ก่อนหน้านี้ ?เอาหน้า? ออกมาประกาศข่าวดีราคายางขึ้นกิโลกรัมกลับละ 62 บาท แต่ได้เพียงวันเดียว กลับดิ่งลง ขณะนี้เหลือกิโลกรัมละ 54 บาท สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ขอให้เร่งตัดสินใจเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ก่อนทำตลาดยางพัง ผู้แปรรูปยางไม่มีตลาดจำหน่าย  และขอคัดค้านการขายยางในสต๊อก จำนวน 1 แสนตัน ตามมติของเครือข่ายและมติของบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย ไม่ให้นำยางออกมาขายตีตลาด แต่ให้นำยางไปใช้ในหน่วยงานภาครัฐแทน  และเรียกร้อง เปิดตลาด 3 ประสาน คือ ตลาดท้องถิ่นโดยให้สถาบันเกษตรกรเป็นคนรวบรวมยาง เสนอขายน้ำหนักยางในตลาดกลางภายในประเทศ และเปิดตลาดไทยคอม แทนตลาดซื้อขายยางในตลาดซื้อขายล่วงหน้า"นายถนอมเกียรติ กล่าว

นายถนอมเกียรติ  กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เดือนก.พ - เมย เป็นช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้มีความต้องการน้ำยางสดไปใช้ในการผลิตถุงมือยางจำนวนมาก จึงทำให้ราคาน้ำยางสดมีราคาพุ่งสูงขึ้น สูงกว่าราคายางแผ่นรมควัน  จึงทำให้ยางแผ่นรมควันขาดตลาด ขณะที่ตลาดโลกยังมีความต้องการสูง แม้จะน้อยกว่าในปีที่ผ่านๆมา แต่มีความต้องการจึงทำให้ขาดตลาด พอขาดตลาดทางบริษัทผู้ส่งออกก็หาวิธีการอัพราคาขึ้นแบบผิดปกติ ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา  จนกระทั่งราคายางแผ่นรมควันพุ่งสูงสุดไปถึงราคากิโลกรัมละ 62 บาท ราคาน้ำยางสดยังต่ำอยู่ที่ 43 - 45 บาท  ส่วนต่างดังกล่าวทำให้มีการแปรรูปยางรมควันในระบบมากขึ้น

"ขณะเดียวกันสถานการณ์โควิดคลี่คลายผู้แปรรูปจึงเร่งผลิตอย่างเต็มที่  แต่ปรากฎว่าผู้ส่งออกทราบแล้วว่าขณะนี้มียางรมควันอยู่ในระบบของประเทศแล้วจำนวนเท่าไร  และผู้ส่งออกก็จะทราบว่าน้ำยางสดจะเข้าสู้ระบบน้ำยางข้นเท่าไร ส่งออกเท่าไร ก็เกิดปรากฎการณ์ทุบราคาลงมาอีกครั้ง วันละ 2 บาท เพราะมีระเบียบของการยางแห่งประเทศไทยกำหนดเอาไว้เกี่ยวกับราคาในตลาดกลางต้องลงได้ไม่เกินวันละ 2 บาท บริษัทจึงไม่สามารถจะลงได้ไปมากกว่านี้

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาลงอีกะ 2 วัน  ทำให้ราคายางแผ่นรมควันลดลงฮวบฮาบ โดยหลายบริษัทประกาศไม่รับราคาในตลาดกลาง จะเอาราคาหน้าโรงงาน ดังนั้น จากราคาหน้าโรงงานจึงลดลงมาเหลือแค่กิโลกรัมละ 54 บาทเท่านั้น  แสดงว่ายางลงมา 8 บาทต่อกิโลกรัม  ถือเป็นความผิดปกติ และสัปดาห์นี้จะไม่มีใครเข้าประมูลยาง หรือหากประมูลก็จะประมูลราคาต่ำกว่าราคากลาง จะทำให้ตลาดล่ม  จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย  เร่งเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ ก่อนตลาดจะล่ม  และยางแผ่นรมควันที่เข้าระบบวันละ 5 แสนกิโลกรัม จะถูกนายทุนกดราคาต่ำสุด สร้างความเดือดร้อนอีกระลอก ซ้ำเติมสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา และเป็นช่วงฤดูฝนชาวสวนกรีดยางได้น้อย ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว ขณะที่ราคายางลดต่ำลงอีกระลอก"นายถนอมเกียรติ กล่าว