ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ตุลาคม 02, 2025, 04:49:13 PM »


NER จับมือ กยท.เซ็น MOU บริหารยางพารา 200,000 ตัน/ปีสร้างเสถียรภาพตลาด-ยกระดับเกษตรกรไทย


ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 2, 2025 15:14 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

NER จับมือ กยท.เซ็น MOU บริหารยางพารา 200,000 ตัน/ปีสร้างเสถียรภาพตลาด-ยกระดับเกษตรกรไทย

NER จับมือ กยท.เซ็น MOU บริหารยางพารา 200,000 ตัน/ปีสร้างเสถียรภาพตลาด-ยกระดับเกษตรกรไทย

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ [NER] เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อความร่วมมือด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพารา โดยมี นายเพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรไทยในระยะยาว พร้อมสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราอย่างยั่งยืน ณ การยางแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) กรุงเทพมหานคร
สำหรับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือครั้งนี้ คือ การบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมส่งเสริมการรวมตัวของเกษตรกร สถาบันเกษตรกร การยางแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการ เพื่อใช้เป็นกลไกในการบริหารจัดการผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือต้องอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี โดยมุ่งสร้างเครือข่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมยางสังคมและประเทศชาติ โดยการดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติ กฎ ระเบียบ และนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งสองฝ่ายมีเจตนาร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามข้อตกลงอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ทั้งนี้ ในส่วนของความรับผิดชอบต่อความร่วมมือในครั้งนี้ของบริษัทเช่น ส่งเสริมและรวบรวมผลผลิตยางพารา ที่จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางมีแหล่งรองรับผลผลิตยางพารา ที่เป็นธรรม ตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่เป็นธรรม และได้รับการยอมรับ รวมถึงปฏิบัติตามกฎระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย

ขณะที่ในส่วน กยท.จะมีหน้าที่และรับผิดชอบคือ ต้องรวบรวมผลผลิตยางพาราอย่างน้อย 200,000 ตันต่อปี จากตลาดกลางยางพาราจังหวัด และตลาดเครือข่ายของตลาดกลางยางพาราจังหวัด ตรวจสอบแหล่งผลิต ประเมินความเสี่ยง ตามมาตรการ EUDR (ถ้ามี) และออกเอกสารข้อมูลการซื้อขายยางให้แก่ผู้ซื้ออย่างครบถ้วน หรือมาตรฐานอื่น หากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับคุณสมบัติยาง ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

"การลงนามทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในครั้งนี้ เพื่อความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปี นับถัดจากวันที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามร่วมกัน เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ทั้งสองฝ่ายอาจตกลงกันเพื่อขยายระยะเวลาต่อไป"นายชูวิทย์ กล่าว