ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: มิถุนายน 20, 2022, 05:32:24 PM »

สยท.-เอกชน วอนรัฐเร่งปราบโกง ส่งออกถุงมือยาง หวั่นทำลายเชื่อมั่น

วันที่ 17 มิถุนายน 2565 - 00:09 น.




สยท. เครือข่ายเอกชน วอนรัฐเร่งปราบโกง ส่งออกถุงมือยาง หวั่นดับฝันไทย HUB กระทบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม เผยอุตสาหกรรมถุงมือยางรายเล็ก ? โรงงานบรรจุภัณฑ์ไทยได้รับผลกระทบหนัก เหตุนักธุรกิจต่างชาติไม่เชื่อมั่น

วันที่ 16 มิถุนายน 2565 นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมผลิตถุงมือยางและโรงงานบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กของไทย จำนวน 25 โรงงานได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหานายหน้าฉ้อโกงและหลอกลวงนักลงทุนต่างชาติ ให้โอนเงินมัดจำค่าถุงมือยาง แต่กลับได้สินค้าไม่ครบและไม่ได้มาตรฐาน จนทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น มาตรฐานถุงมือยางไทย ชะลอการนำเข้า  บางรายต้องถูกระงับการส่งออกเพราะต่างประเทศขาดความเชื่อม

โดยในเรื่องนี้ ได้นำเสนอปัญหาต่อคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเรียบร้อยแล้ว และที่ประชุมได้มอบหมายให้ร่วมกันแก้ปัญหาและหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมยางพาราและการลงทุนในประเทศไทย

นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของนักธุรกิจเฉพาะรายที่ถูกหลอกและฉ้อโกง แต่ความจริงแล้วผลกระทบเกิดขึ้นในวงกว้างเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ทำให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น กระทบต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามที่วางที่ไว้

ทั้งนี้ นักธุรกิจที่ได้รับความเสียหายจากขบวนการนายหน้าหลอกขายถุงมือยาง ขณะนี้พบว่า มีหลายบริษัท แต่บริษัท เอช แอนด์เอช เมดิคอล ซับพลาย จำกัด ซึ่งเป็นของนักธุรกิจชาวฮ่องกงได้รับความเสียหายมากกว่า100 ล้านบาท และได้แจ้งความดำเนินคดีกับขบวนการนายหน้าที่หลอกขายถุงมือยาง โดยขณะนี้รออัยการสั่งฟ้อง

?ผมคิดว่าหากเหตุการณ์บานปลายต่างชาติไม่นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาง ก็จะส่งผลกระทบไปถึงเกษตรกรชาวสวนยางได้ เพราะยางดิบถือเป็นต้นน้ำ ขณะที่โรงงานแปรรูปน้ำยางข้น เป็นกลางน้ำ และสุดท้ายคือ ส่งออกถุงมือยางเป็นปลายน้ำ ดังนั้นหากปลายน้ำเสียหายไม่ได้รับความเชื่อถือ ก็จะส่งผลกระทบมาถึงต้นน้ำในที่สุด? นายอุทัยกล่าว

นางสาวพิยดา วุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮับ พาราโกลฟส์ โปรเจ็ค จำกัด ในฐานะตัวแทนเครือข่าย 25 บริษัทถุงมือยางประเภทบรรจุภัณฑ์ กล่าวว่า อยากให้คดีของนักลงทุนชาวฮ่องกงเป็นตัวอย่างที่ประเทศไทยออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยการเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้วงการอุตสาหกรรมถึงมือยางประเทศไทยกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาหลังจากทีกรณีนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงถูกระงับการส่งออก

ด้านนางเฮเล็น เชิงยูลิง ประธานบริษัท บริษัท เอช แอนด์เอช เมดิคอล ซับพลาย จำกัด จาก ฮ่องกง เปิดเผยว่า รู้สึกขาดความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจกับประเทศไทย เดิมตั้งแต่ใจจะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC เพราะว่าไทยเป็นดินแดนที่มีน้ำยางมีคุณภาพในการผลิตถุงมือยางที่มีคุณภาพ

ดังนั้น เมื่อปี 2563 บริษัทจากสหรัฐได้ติดต่อเพื่อให้สั่งซื้อถุงมือยางก็มองมาที่ประเทศไทยเป็นอันดับแรกจนได้ทำสัญญาสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทในไทยมูลค่า 80 ล้านบาท จำนวนสินค้า 2 ล้านกล่อง และได้ชำระค่ามัดจำสินค้าล่วงหน้าไป จำนวน 62 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดส่งมอบกลับได้สินค้าเพียง 4 หมื่นกล่อง และสินค้าไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนั้นยังพบว่า สินค้าใช้ใบรับรองมาตรฐานปลอม ทำให้ถูกเก็บไว้กักไว้ที่สหรัฐ หากรัฐบาลไทยยังไม่สามารถใช้กฎหมายดำเนินการกับกลุ่มบริษัทเหล่านี้ได้อย่างจริงจังเพิ่อนักลงทุนต่างประเทศก็จะต้องหันไปลงทุนประเทศอื่นแทน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติหลายรายตั้งใจจะเข้ามาลงทุนประเทศเมียนมา  แต่เกิดความไม่สงบทางการเมือง จึงเปลี่ยนใจและหันเข้ามาลงทุนในไทยแทน รวมทั้งสิทธิประโยชน์ภาษีการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเวลา 13 ปี  และสิทธิเช่าที่ดินได้นาน 99 ปี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ทางบริษัทได้แต่งตั้งบริษัทตัวแทนในไทยแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทเหล่านั้นแล้ว 

?หากรัฐบาลไทยสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับคนเหล่านี้ ก็จะสร้างความเชื่อมั่นกลับมาให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนได้ โดยขณะนี้ทั้งสหรัฐและยุโรป มีคำสั่งซื้อถุงมือยางธรรมชาติเข้ามาจำนวนมาก แต่ประไทยจะทำอย่างไรที่จะให้ความมั่นใจกับนักลงทุนเหล่านี้ว่าจะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอย และเราจะเสียโอกาสนี้ไปถ้ารัฐบาลใม่เข้ามาช่วยเหลือ?

นายชัยโรจน์ ธรรมรัตน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง กล่าวว่า ปัญหาถุงมือยางขาดความเชื่อถือ เนื่องจากขาดระบบการจัดการที่ดี ขาดการดูแล จากภาครัฐอย่างทั่วถึง ซึ่งมูลค่าอุตสาหกรรมถุงมือยางที่ส่งออกในขณะนี้มีมากถึง 94,000 ล้านบาท หากไม่ได้รับการดูแลจะสร้างความเสียหายมากขึ้นโดยความการช่วยเหลือของรัฐ มักจะมุ่งช่วยเหลือไปยังผู้ผลิตถุงมือที่มีโรงงานขนาดใหญ่ มีกำลังผลิตมาก โรงงานเหล่านี้มีผลกระทบน้อยไม่เดือดร้อน เพราะมีลูกค้าประจำคำสั่งซื้อระยะยาวอยู่ในมือแล้ว แต่โรงงานผลิตถุงมือยางธรรมชาติขนาดเล็ก ได้รับผลกระทบมาก ส่งออกไม่ได้

ทางสมาคมจึงได้พยายามเข้าไปประสานความช่วยเหลือ หาทางฟื้นฟูและสร้างความเชื่อถือให้เกิดขึ้นใหม่โดยทางสมาคมฯได้ ประสานงานโรงงานที่ได้รับผลกระทบ ช่วยให้มีการควบคุมสายการผลิตถุงมือยางธรรมชาติแบบได้มาตรฐาน ตามระเบียบโรงงานการผลิตถุงมือยางธรรมชาติของไทย ซึ่งจัดเป็นวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ จะต้องมีการ ตรวจสอบการผลิต ตามมาตรฐานวัสดุทางการแพทย์

ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีห้องปฏิบัติการที่ให้บริการตรวจสอบตัวอย่างถุงมือยางที่ต้องการใบรับรองเพื่อการส่งออก และยังมีหน่วยงานบริการห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์บริการและสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมจากกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือบริการการตรวจสอบสินค้าตัวอย่างและออกใบรับรองสินค้าที่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบ สามารถส่งออกสินค้าที่ได้มาตรฐาน ช่วยฟื้นฟูความความถือให้ดีขึ้น

นายสมบูรณ์พงษ์ พุกกะเวส ผู้เชี่ยวชาญด้านศุลกากร สมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง  กล่าวว่า คำตอบคือ ผู้ประกอบการต้องผลิตให้ได้ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 35% ของราคาส่งออก FOB และได้สิทธิพิเศษทางภาษีอากร 0 % หรือ จีเอสพี ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงยังได้รับยกเว้นภาษีสินค้าผลิตภัณฑ์ยางส่งออก จากเขตการค้าเสรี หรือFTA กับ 13 ประเทศดังนั้นใครรู้เรื่องแหล่งกำเนิดสินค้าดีกว่ากันก็จะได้เปรียบ เพราะคนรู้จะทำได้ดีกว่าคนไม่รู้

นายวิทยา ผุดผาด ทนายความ บริษัท เอช แอนด์เอช เมดิคอล ซับพลาย จำกัด กล่าวว่า บริษัท เอชแอนด์เอชฯ ได้แจ้งดำเนินคดีกับกลุ่มนายหน้าและบริษัทผู้ถูกกล่าวหาแล้วทั้งสองคดี โดยแจ้งความคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการนำความอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ 

?สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัท เอช แอนด์เอชฯ เสียหายกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างสรุปสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ คดีนี้ถือว่าสร้างความเสียหายต่อวงการอุตสาหกรรมยางเมืองไทยมาก? ทนายวิทยากล่าว