My Community
ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ พฤษภาคม 28, 2014, 04:37:46 PM
-
จันทบุรีฝนแล้ง เกษตรกรอ่วมขาดทุนยับ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 พ.ค. 2557 15:49
กลุ่มเกษตรกร ชาวไร่ ชาวสวนยางอ่วม ร้องสื่อขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หลังประสบปัญหาภัยแล้งแถมโดนกระหน่ำซ้ำโรคพืชรุม ขาดทุนย่อยยับ
ช่วงสายวันนี้ (28 พ.ค. 57) ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร ร้องสื่อมวลชนว่าย่างเข้าหน้าฝนปีนี้แห้งแล้งมากทำให้พืชไร่ พืชสวนที่เพาะปลูกไว้ไม่ออกดอกผลตามต้องการ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมินทร์ สมจันทร์ อายุ 37 ปี ชาวไร่มันสำปะหลัง อยู่บ้านเลขที่ 99/13 บ้านซอยสระแก้ว ม.7 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี กล่าวว่า มันสำปะหลังของตนเองที่ปลูกไว้จำนวน 20 ไร่ ตอนนี้กำลังถูกเพลี้ยไฟเข้าทำลาย จากการตรวจสอบพบว่าที่บริเวณใต้ใบมันสำปะหลัง มีเพลี้ยไฟมองเห็นเป็นจุดดำกระจายเต็มอยู่ใต้ใบ และสีของใบเริ่มเหลืองแห้ง บางส่วนยืนต้นใบแห้งเหี่ยวตายอยู่เป็นบริเวณกว้าง
โดยนายมินทร์ เกษตรกร กล่าวว่า เริ่มลงแปลงปลูกมันสำปะหลัง ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน เมื่อห้าวันก่อนที่ผ่านมาสังเกตเห็นว่าเริ่มมีเพลี้ยไฟ ผ่านไปเพียงสามวันปรากฏว่าเพลี้ยไฟได้กระจายลุกลามเป็นวงกว้างขึ้น จึงรีบน้ำสารเคมีสำหรับกำจัดเพลี้ยไฟฉีดพ่น แต่ปรากฏว่าจำนวนของเพลี้ยไฟยังขยายลุกลามกระจายเป็นหย่อมๆ คาดว่าเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่ แม้กระทั่งแปลงมันสำปะหลังของ นายสังวาล สมจันทร์ อายุ 52 ปี พี่ชาย เริ่มมีเพลี้ยไฟเข้าทำลายด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งกล่าวตัดพ้อต่ออีกว่า ขณะนี้ตนเองและพี่ชายทำอะไรไม่ได้มากหากฝนยังคงไม่ตกอยู่อย่างนี้ ต้องรอจนกว่าฝนจะตกติดต่อเท่านั้น เจ้าเพลี้ยไฟถึงจะหายไปเอง ซึ่งเดือนนี้ฝนเพิ่งตกลงมาไม่กี่ครั้ง
ด้านนายวินัย ขันซ้าย อายุ 35 ปี อาชีพเปิดอู่ซ่อมเครื่องยนต์ อยู่เลขที่ 99/17 ม.7 อ.สอยดาว ใช้พื้นที่ดินว่างเปล่าหลังอู่เนื้อที่ 3 ไร่ ลงทุนจ้างรถไถและคนงานเพาะปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน ถึงวันนี้ฝนไม่ค่อยตกทำให้ใบของต้นข้าวโพดที่มีลำต้นสูงประมาณหัวเข่า เริ่มม้วนงอคล้ายใบของต้นหอม ถ้าฝนไม่ตกลงมาภายในอาทิตย์นี้ ผลผลิตคงต้องเสียหายขาดทุนอย่างแน่นอน
ส่วนนายแสน ชูสกุล อายุ 43 ปี อาชีพทำการเกษตร อยู่บ้านเลขที่ 12/36 ม.7 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว ประสบปัญหาภัยแล้งด้วยเช่นกัน โดยนายแสนปลูกฟักทองไว้จำนวน 20 ไร่ ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ฝนเพิ่งตกลงมาสามครั้ง ปกติผลของฟักทองต้องใหญ่กว่าขันตักน้ำ และใกล้จะเก็บผลผลิตขายได้แล้ว แต่ปีนี้ขนาดผลของฝักทองยังคงมีขนาดเล็กเท่ากำปั้น แถมใบเริ่มแห้งเหี่ยวใกล้ตายทั้งแปลงทำให้ขาดทุนหลายหมื่นบาท
ด้าน น.ส.แสงเดือน สุขเจริญ อายุ 43 ปี อาชีพกรีดยางพารา 67/6 ม.3 บ้านสะพาน 6 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี กล่าวว่า ตนเองและสามีกรีดยางพาราแบ่งกับมารดา มีพื้นที่ปลูกยางทั้งหมด 25 ไร่ เปิดกรีดได้ 800 ต้น จะกรีดสองวันเว้นหนึ่งวัน อาทิตย์หนึ่งจึงจะเก็บเอาขี้ยางไปขาย ก็จะได้ผลผลิตขี้ยางพาราประมาณ 200 กก. แต่ช่วงนี้ขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 27 บาท หลังจากหักแบ่งกับมารดาแล้ว ยอดเงินรวมโดยที่ยังไม่ได้แบ่งทั้งเดือนประมาณ 22,800 บาท ถือว่าน้อยมากไม่คุ้มเหนื่อย หากเทียบกับช่วงที่ยางพารามีราคาสูง เคยขายขี้ยางรวมทั้งเดือนได้เงินเกือบหนึ่งแสนบาท คาดว่าที่กรีดยางได้น้อยเพราะปีนี้ฝนไม่ตกตามปกติ ส่งผลทำให้ปริมาณของน้ำยางพาราจากต้นยางลดลง หากฝนฟ้ายังคงไม่ตกอยู่ ก็คงต้องหยุดกรีดยางปิดหน้ากรีดต้นยางพารา ซึ่งขณะนี้ยังมีอีกหลายแปลงที่ไม่สามารถเปิดกรีดน้ำยางได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นสาเหตุจากความแห้งแล้งของหมู่บ้านในเขตตำบลทับช้าง สามารถดูได้ที่ระดับน้ำในลำคลองหลักสายพระสะทึง เป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ขนาดเป็นโครงการฝายน้ำล้น ล่าสุดยังไม่มีน้ำไหลบ่าตามปกติเหมือนที่ผ่านมา