วิเคราะห์ |
1. สภาพอากาศ | - ลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาร์เคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้และมีอากาศร้อนในตอนกลาง วัน ภาคใต้มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ |
2.การใช้ยาง | - รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือนมีนาคมมีทั้งสิ้น 178,217 คัน ลดลงร้อยละ 1.72 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แม้ว่ายอดขายในเดือนมีนาคมปีนี้จะมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ก็ตาม และลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ร้อยละ 0.52 สำหรับรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 524,540 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.36 |
3.เศรษฐกิจโลก | - บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 57.8 ในเดือนเมษายน ดัชนี PMI ภาคบริการอยู่ที่ระดับ 59.2 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 ตัวเลขดังกล่าวมากกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ - ดอยช์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของเยอรมนี เปิดเผยว่า ผลกำไรในไตรมาสแรกลดลงแตะระดับ 559 ล้านยูโร (607.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งลดลงจากระดับ 1.1 พันล้านยูโรในช่วงไตรมาสแรกปีที่แล้ว ส่วนรายได้ปรับตัวขึ้นร้อยละ 24 แตะที่ 1.04 หมื่นล้านยูโร |
4.อัตราแลกเปลี่ยน | - เงินบาทอยู่ที่ 32.64 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.03 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ - เงินเยนอยู่ที่ 119.09 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.15 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ |
5.ราคาน้ำมัน | - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดตลาดที่ 58.99 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.16 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรลหลังจากมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนเมษายน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูง เกินไป - ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดที่ 64.83 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.45 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล |
6.การเก็งกำไร | - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 213.2 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น2.3 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกันยายน อยู่ที่ 215.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.8 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 176.50 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 4.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม |
7.ข่าว | - ฟิทช์ เรทติงส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น สู่ระดับ A จาก A+ โดยระบุถึงการขยายตัวที่อ่อนแอ, สัดส่วนหนี้ที่ระดับสูง และการที่รัฐบาลไม่ได้ทำการปฏิรูปงบประมาณเพื่อควบคุมหนี้ภาครัฐ -คณะ กรรมาธิการด้านบริหารและกำกับดูแลสินทรัพย์รัฐบาลของสภาแห่งรัฐจีน (SASAC) เปิดเผยมาตรการควบคุมดูแลธุรกิจที่ได้รับสัมปทานในภาคบริการสาธารณะและ สาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชนในภาคส่วนดังกล่าว -สำนัก งานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) มีประชากรจำนวน 44.1 ล้านคนที่ทำงานไม่เต็มเวลา (part-time) ในปีที่แล้ว และในจำนวนดังกล่าว 9.8 ล้านคนประสบภาวะว่างงานแฝง (underemployed) ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องการทำงานมากชั่วโมงขึ้น แต่ไม่สามารถหางานทำได้ |
8.ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ | ราคา ยางปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยบวกมาจากราคาในตลาด TOCOM ที่ปรับตัวสูงขึ้น และผลผลิตยางที่ออกสู่ตลาดน้อยในช่วงนี้ ประกอบกับผู้ประกอบการหลายรายมีความต้องการซื้อเพื่อการส่งมอบและให้คนงานมี งานทำ |