โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มิถุนายน 2558 08:23 น.(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236501.JPEG) พิษณุโลก - ทหาร-ป่าไม้ ลุยยึดสวนยางพารากลางป่าสงวนฯเนินเพิ่ม เมืองสองแคว กว่า 3.5 พันไร่ พบเป็นของนายทุนปักษ์ใต้ ขนคนงานพม่าจากสุราษฎร์ฯ ปักหลักสร้างแคมป์ตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเสร็จสรรพ แถมบางแปลงเจอล้มไม้ใหญ่ด้วย ย้ำ 5 คุณสมบัตินายทุนต้องจับ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชียวชาญ ศปป.4 กอ.รมน., พ.ต.ท.สุทธิพันธ์ วันที รอง ผกก.สส.สภ.นครไทย , นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่่าไม่ที่ 4 สาขาพิษณุโลก, นายสมชาย ฉิมแย้ม ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ พร้อมฝ่ายปกครอง, ทหาร กองพลพัฒนาที่ 3 นำกำลังกล่าว 30 นาย เข้าตรวจยึดพื้นที่ปลูกยางพาราบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม สุดสัปดาห์นี้ โดยพบว่า พื้นที่ที่มีการสำรวจสิทธิถือครองบางส่วน (30 มิ.ย.41) บริเวณ ม.1 และ ม.3 บ้านบุ่ง ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีการเปลี่ยนมือไปสู่นายทุน และถูกปรับสภาพเป็นสวนยางขนาดใหญ่ เนื้อที่ 3,565 ไร่ มีแคมป์คนงานพม่าไม่ต่ำกว่า 2 แห่ง พร้อมโรงแปรรูปยางแผ่นขนาดย่อมๆ อยู่กลางสวนยาง นอกจากนี้ ยังมีชาวพม่าทั้งหญิงและชายจำนวนหนึ่ง เป็นคนงานคอยดูแล-กรีดยางให้กับนายทุน ตรวจสอบมีเอกสารการเข้าเมืองไทยอย่างถูกต้อง โดยได้รับค่าจ้างจากการกรีดยางแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยคนงานพม่าจะได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายทุนเจ้าของสวนยางจะได้ 60 เปอร์เซ็นต์ และในบริเวณใกล้กับที่พักอาศัย มีการสร้างโรงรีดยางไว้จำนวน 2 -3 แท่น สอบสวนคนงานพม่า เบื้องต้นทราบว่า เดินทางจากเมืองเมาะละแหม่ง ผ่านด่านแม่สอด จ.ตาก ไปอยู่ที่ระยอง และสุราษฎร์ธานี 4 ปี และมีนายทุนชาวสุราษฎร์ธานี ว่าจ้างให้มาดูแล และกรีดยางที่พิษณุโลก ได้เพียง 4 เดือน โดยมีคนไทยรับเป็นผู้ให้เข้ามาอาศัยในบ้านเลขที่ 112/1 ม.1 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้บุกตรวจสอบพื้นที่ปลูกยางแปลงที่ 2 ซึ่งมีการสร้างที่พักอาศัยเอาไว้อย่างดี แถมปั่นกระแสไฟฟ้าใช้ และมีระบบแผงโซล่าเซล-จานดาวเทียมติดตั้งเอาไว้ด้วย แต่ไม่พบตัวผู้พักอาศัย คาดว่า จะหลบหนีไปก่อนหน้าเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ภายในที่พักพบเอกสารเป็นบุคคลต่างด้าวชาวพม่า มีอุปกรณ์เครื่องใช้เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงด้วย และพบเอกสารบ่งชี้ว่าเป็นสามีภรรยา และมีลูกสาว 1 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแปลงที่ 3 พบมีการบุกรุกปลูกยางพาราในเขตป่าสงวน และมีไม้แดง ถูกโค่น 2 ต้น ขนาดเส้นรอบวง 178 ซม.และ132 ซม. พร้อมตัดเป็นท่อนรวม 12 ท่อน ตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด คาดว่าจะหลบหนีไปก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดของกลางส่ง พงส.สภ.นครไทย ทำการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม่ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ย้ำว่า ลักษณะนายทุนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าดำการตรวจยึดจับกุม คือ 1.เนื้อที่บุกรุกตั้งแต่ 25-50 ไร่ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่) 2.เจ้าของพื้นที่บุกรุกมีหลายแปลง 3.เจ้าของพื้นที่เป็นคนต่างถิ่น จ้างคนในพื้นที่เป็นแรงงาน หรือดูแลแทน 4.ลักษณะสวนยางพารา มีขนาดใหญ่ มีสิ่งปลูกสร้าง หรือระบบการจัดการที่ใช้ต้นทุนสูง และ 5.ผู้นำ-ชาวบ้านในชุมชน ยืนยันว่า เจ้าของเป็นคนต่างถิ่นและมีฐานะร่ำรวย ไม่ใช่ผู้ยากไร้ ไร้ที่ทำกิน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236502.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236503.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236504.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236505.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236506.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236507.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000007236508.JPEG) [ |