My Community

ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ ตุลาคม 06, 2016, 07:10:46 AM

หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 112.58 จุด รับราคาน้ำมันฟื้น,ข้อมูลศก.สดใส
เริ่มหัวข้อโดย: Rakayang.Com ที่ ตุลาคม 06, 2016, 07:10:46 AM

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 112.58 จุด รับราคาน้ำมันฟื้น,ข้อมูลศก.สดใส




ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2559 06:39:14 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นกว่า 2% ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคบริการที่ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันยาวนานเป็นเดือนที่ 80


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,281.03 จุด พุ่งขึ้น 112.58 จุด หรือ +0.62% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,316.02 จุด เพิ่มขึ้น 26.36 จุด หรือ +0.50% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,159.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด หรือ +0.43%






ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ได้เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 57.1 ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 ในเดือนส.ค. รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณืที่ระดับ 53.0


ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 80 โดยได้แรงหนุนจากกิจกรรมทางธุรกิจและการจ้างงาน ซึ่งต่างก็ปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.ย.


ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวได้รับการจับตาว่าเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ


หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 6.8% ทำสถิติปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นพลังงานที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 ขณะที่หุ้นทรานส์โอเชียน พุ่งขึ้น 5.9%


นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง


ทั้งนี้ ก่อนที่ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐนั้น นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวแสดงความเห็นที่เมืองอ็อคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ว่า เขายอมรับได้ หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ ถ้าหากว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง


นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขจ้างงานในครั้งนี้จะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดในรอบ 10 ปี


ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น 175,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%