My Community

ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ ตุลาคม 12, 2016, 08:02:20 PM

หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.74/76 อ่อนค่าในรอบเกือบ 9 เดือนจากกังวลปัจจัยในปท.-ตลาดหุ้นร่วงหนัก
เริ่มหัวข้อโดย: Rakayang.Com ที่ ตุลาคม 12, 2016, 08:02:20 PM
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.74/76 อ่อนค่าในรอบเกือบ 9 เดือนจากกังวลปัจจัยในปท.-ตลาดหุ้นร่วงหนัก

Wednesday, October 12, 2016 17:31:08



นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.74/76 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า

จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.40/41 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าไปมาก และเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 9 เดือน นับตั้งแต่ 26 ม.ค.59 จากความกังวล

เรื่องปัจจัยภายในประเทศเป็นสำคัญ และมีผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในภาคบ่ายเปิดมาร่วงไปกว่า 90 จุด แต่ก็ค่อยๆ ปรับตัวขึ้นมาจน

สุดท้ายปิดตลาดเหลือร่วงลงไป 36 จุด

"วันนี้บาทร่วงลงไปแรงมาก กังวลปัจจัยในประเทศเป็นหลัก โดยบาทอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 9 เดือน ตั้งแต่ ปลาย ม.

ค.59" นักบริหารเงิน กล่าว

พร้อมระบุว่า พรุ่งนี้เงินบาทอาจจะกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย แต่หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องปัจจัยในประเทศที่นักลงทุน

เป็นกังวล เงินบาทก็พร้อมที่จะอ่อนค่าได้ต่อ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.85 บาท/ดอลลาร์



* ปัจจัยสำคัญ



- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.51 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1015 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1049 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,406.18 จุด ลดลง 36.03 จุด (-2.50%) มูลค่าการซื้อขาย 130,152 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 390.20 ลบ.(SET+MAI)

- รมช.คลัง ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้ผ่านการตีความจากคณะกรรมการ

กฤษฎีกาแล้ว และมีการตั้งข้อสังเกตอยู่ 2-3 เรื่องที่จะต้องนำมาปรับปรุง ก่อนจะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาใน

เร็ว ๆ นี้ จากนั้นจะมีการเสนอรัฐบาลเห็นชอบในส่วนของอัตราการจัดเก็บจริง ซึ่งคาดว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 2560

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ธนาคารพาณิชย์ไทย สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และ

สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ เห็นพ้องให้เลื่อนการเปิดให้บริการพร้อมเพย์สาหรับธุรกรรมระหว่างบุคคลไปเป็นไตรมาสแรกของ

ปี 2560 ส่วนการโอนเงินสวัสดิการจากภาครัฐสู่ประชาชน ระบบพร้อมเพย์มีความพร้อมให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 นี้

- สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันทุกธนาคารได้พัฒนาบริการพร้อมเพย์ในส่วนของแต่ละธนาคารแล้วเสร็จ และ

ได้เริ่มเข้าสู่การทดสอบ โดยเป็นการทดสอบการเชื่อมโยงระบบระหว่างธนาคารต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กับระบบกลางและการ

โอนเงินระหว่างธนาคารในรูปแบบต่างๆ ซึ่งพบว่าการทดสอบระบบเพื่อให้ครบทุกธนาคาร และทุกช่องทางที่ให้บริการ รวมทั้งให้ครอบ

คลุมกรณีตัวอย่างต่างๆ ใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเป็นระบบใหญ่ เชื่อมโยงหลายธนาคาร และมีช่องทางให้บริการที่

หลากหลาย

- พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการข่าวแจ้งเตือนกลุ่มผู้ไม่หวังดีเตรียม

ก่อเหตุคาร์บอมบ์ 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 25-30 ต.ค.ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้อง

สงสัยที่อาจก่อเหตุความไม่สงบได้หลายราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยความเชื่อมโยงต่างๆ ได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการ

สืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ล่าสุดได้สั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลถึงกลุ่มขบวนการดังกล่าวแล้ว

- เงินสกุลปอนด์พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 1.2327 ดอลลาร์/ปอนด์ หรือเพิ่มขึ้น 1.5% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงบ่าย

วันนี้ หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า หลังรายงานบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากการแยกตัวจากสหภาพ

ยุโรปของอังกฤษ (Brexit)

- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยต่อคณะกรรมการงบประมาณประจำสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นว่า BOJ อาจ

ดำเนินการผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกครั้งหากจำเป็น ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ขณะนี้ติดลบอยู่แล้ว เพื่อกระตุ้น

เศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปัจจุบันค่อนข้างซบเซา พร้อมย้ำว่า ธนาคารกลางจะยังคงเดินหน้ารับซื้อพันธบัตรเพื่อควบคุมเส้นอัตราผลตอบ

แทน (yield curve) ต่อไป โดยน่าจะมีวงเงินอยู่ที่ประมาณ 80 ล้านล้านเยน

- นายยูทากะ ฮาราดะ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อน

คลายนโยบาย เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางควรดำเนินการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมหากจำเป็น เช่น เมื่อมีแนวโน้มเงินเฟ้อไม่

ขยายตัวแตะ 2% ตามเป้า

- นักลงทุนติดตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ เช่น การเปิดเผยรายงาน

การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 20-21 ก.ย.59,

การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์, กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่าง

งานรายสัปดาห์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนต.ค. เป็นต้น

 --อินโฟเควสท?-