My Community

ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวยางโดยตรง => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ พฤศจิกายน 24, 2016, 03:33:53 PM

หัวข้อ: เร่งพัฒนายางฯ คุณภาพ เปลี่ยนผู้นำสหรัฐไม่กระทบ
เริ่มหัวข้อโดย: Rakayang.Com ที่ พฤศจิกายน 24, 2016, 03:33:53 PM
เร่งพัฒนายางฯ คุณภาพ เปลี่ยนผู้นำสหรัฐไม่กระทบ


กยท. เผยนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ ทางตรงคาดไม่ส่งผลกระทบต่อยางไทย ยกเว้นเรื่องการตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าจากจีน ประเทศผู้ซื้อยางจากไทยอันดับ 1 ของโลก อาจกระทบระดับมหภาค เร่งเดินหน้ายกระดับคุณภาพตั้งแต่ปลูก-แปรรูปเพื่อส่งออก หวังเป็นผู้ผลิตยางคุณภาพดีอันดับ 1 ของโลก
    ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยว่า ประเทศไทยส่งยางพาราออกไปประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2558 ประมาณ 16,500 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ถือว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศผู้ซื้อยางจากไทยเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่วนมากเป็นประเภท ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น

   ทั้งนี้ เมื่อสหรัฐอเมริกามีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของประเทศ เป็นนายดอนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 45 ในเดือนมกราคมปีหน้านั้น ในทางตรงอาจไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ยางพาราของไทย ยกเว้นนโยบายการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาสำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีน 45% ซึ่งจะส่งผลกระทบทางอ้อมกับสถานการณ์ยางในประเทศไทย เนื่องจากจีนเป็นประเทศหลักในการส่งออก ขณะที่สหรัฐอเมริกาเองเป็นตลาดหลักในการส่งออกผลิตภัณฑ์ของจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ยางล้อรถยนต์ ดังนั้น หากสหรัฐอเมริกาเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของจีนในตลาดสหรัฐฯ ลดลง และส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อยางจากไทย

    ดร.ธีธัช กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตยางอันดับ 1 ของโลก มองว่าแม้จะมีหลายประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนได้ขยายพื้นที่ปลูกยาง ขณะเดียวกันไทยกำลังลดพื้นที่ปลูกเพื่อให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น ลดปัญหาที่เกิดจากความไม่เสถียรภาพของราคายาง หรือการส่งเสริมการปลูกยางแบบผสมผสาน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางไทย รวมถึงศักยภาพในการพัฒนา ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการจัดการสวนยางตามหลักวิชาการ เพื่อให้ผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ของเกษตรกรสูงขึ้น หรือด้านการตลาดที่รัฐบาลได้ร่วมกับประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติแห่งใหญ่ของโลก คืออินโดนีเซียและมาเลเซียจัดตั้งบริษัทร่วมทุนยางระหว่างประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพของยาง

   การยางฯ ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบครบวงจร เร่งหาแนวทางลดต้นทุนการผลิต ยกระดับคุณภาพของผลผลิตให้ได้มาตรฐานในระดับสากล พร้อมทั้ง แสวงหาตลาดใหม่เพื่อทำการค้าระหว่างประเทศ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นการพัฒนายางพาราทั้งระบบตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องคุณภาพยางตั้งแต่กระบวนการปลูกจนกระทั่งการแปรรูปเพื่อการส่งออก เพราะฉะนั้น ไทยจะไม่เพียงแต่จะได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกเท่านั้น แต่จะเป็นประเทศผู้ผลิตยางคุณภาพดีอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน


   (ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559)