My Community
ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวยางโดยตรง => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ สิงหาคม 09, 2019, 12:17:19 PM
-
ตรังเปิดเมือง ถกทางออกยางพารายุค 3 กก. 100
สยามรัฐออนไลน์ 4 สิงหาคม 2562 21:36
ตรังเปิดเมือง ถกทางออกยางพารายุค 3 กก.100 นักการเมือง เครือข่าย กยท. ร่วมแจม ปชป.เผยเตรียมงบ 17,000 ล้าน ประกันรายได้ กก.ละ 60บาท เตรียมชงรัฐบาลแก้ปัญหาด่วน
วันที่ 4 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมวัฒนาปาร์ค อ.เมือง จ.ตรัง มีการจัดเวทีเสวนา ปัญหายางพาราทั้งระบบ ร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) และ เครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ โดยมีบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับวงการยางพาราทั้งระบบ ทั้งต้นน้ำคือเกษตรกร กลางน้ำได้แก่กระบวนการแปรูป และปลายน้ำในเรื่องการค้าขายส่งออก มีบุคคลน่าสนใจเข้าร่วม อาทิ นาย สุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการกยท. นายประทบ สุขสนาน ประธานชุมนุมสหกรณ์ยางตรัง นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ 3 พรรคการเมืองใหญ่ ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ โดยนายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลาพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย โดยนายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลาพรรคภูมิใจไทย และนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่พรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าถิ่นโดย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังพรรคประชาธิปัตย์ และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางสถานการณ์ราคายางพาราที่ดิ่งเหวเข้าใกล้สามโลร้อยในขณะนี้
นายชินวรณ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหายางพาราโดยได้รับจัดสรรให้ดูแลกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพานิชย์ อย่างไรก็ตาม แม้พรรคพลังประชารัฐจะหาเสียงผลักดันยางพารากิโลกรัมละ 65 บาท แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันในนโยบายประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 60 บาททำได้แน่นอน และกำลังดำเนินการแล้ว ใช้งบประมาณดำเนินการวงเงินรวมเท่ากับโครงการเงินชดเชยรายได้ชาวสวนยางไร่ละ 1,800 บาทในสมัยรัฐบาลประยุทธ์1 คือราว 17,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังขยายไปยังชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์อีกราว 300,000 รายอีกด้วย
(https://siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20190804/252eb5551add8bbad37463c63b79f5d4b445fcfb2a575fe832294d2d8df903fa.jpg?itok=Q2nQdhsh) (https://siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20190804/252eb5551add8bbad37463c63b79f5d4b445fcfb2a575fe832294d2d8df903fa.jpg?itok=Q2nQdhsh)
(https://creatives.sascdn.com/diff/2060/a343779/VDO_Blend.jpg) (https://adnetwork.adasiaholdings.com/click?imgid=24058396&insid=8839124&pgid=1112835&ckid=8256263132308226822&uii=577126287576775975&acd=1565327757805&pubid=6&tmstp=574218801&tgt=%24dt%3d1t%3b%24hc&systgt=%24qc%3d1309135202%3b%24ql%3dLow%3b%24qt%3d231_0_0t%3b%24dma%3d0%3b%24b%3d12680%3b%24o%3d11100%3b%24sw%3d1280%3b%24sh%3d600&vit=4&vct=2&vrn=4.2&pgDomain=https%3a%2f%2fsiamrath.co.th%2fn%2f94875&go=https%3a%2f%2fwww.ana.co.jp%2fth%2fth%2f%3fcid%3dANA_ADN_SIN-TH-USB-F0-INFL-PC-Placement)"อีกเรื่องที่สำคัญและต้องพูดตรงๆคือปัญหาการทำงานของกยท. มีเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้เปลี่ยนตัวผู้ว่ากยท. ซึ่งตอนนี้ตัวผู้ว่ากยท.ก็ไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี ตอนแรกประกาศลาออก แต่อยู่ไปอยู่มาก็เปลี่ยนใจ ดังนั้นพวกเราก็ต้องทำให้ออก"นายชินวรณ์กล่าวกับเครือข่ายชาวสวนยาง"สิ่งต่างๆที่เรากำลังจะแก้เรื่องราคายางทั้งเรื่องประกันรายได้และอื่นๆจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วในวันนี้ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก คือ ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้อและควบรวมกิจการส่งออกยางของไทย วันนี้ #ทุนจีนเข้ามาซื้อกิจการจาก เสือ5ตัวของวงการยางไทย แต่ในตอนนี้น่าจะเหลือแค่ 2 ตัวครึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังมี #ทุนขนาดใหญ่ของไทยอีก1ราย เข้ามาซื้อด้วย เพราะส่วนใหญ่ของผลผลิตยางไทยนั้นเน้นส่งออก ดังนั้นทุนที่เข้ามาจะสร้างปัญหาคอขวดของการส่งออกที่กระจุกตัวและอยู่ในเงื้อมือของทุนจีนและทุนไทยรายหนึ่ง ที่ตะเป็นคนกำหนดราคาอย่างเบ็ดเสร็จ และถ้าเป็นแบบนี้เราจะแก้อะไรไม่ได้เลย"นายชินวรณ์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนในฐานะ สส. ที่รับเรื่องปัญหายางพาราตกต่ำในขณะนี้ อยากให้แก้ปัญหาวันนี้หรือพรุ่งนี้เลย แต่ก็เห็นใจคนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเพิ่งแถลงนโยบายไปได้เพียง 2 สัปดาห์ที่เข้าทำงานและได้มีการเตรียมการทันทีแต่ต้องเสนองบประมาณในคณะรัฐมนตรี เท่าที่ทราบ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ เองก็ได้มีการเตรียมการเอาไว้แล้วกับทางรัฐมนตรีเกษตรฯ ต้องรอดูสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไปว่าจะมีการเสนอเข้า ครม.หรือไม่ เรื่องนี้ในความเห็นของตนต้องทำทันทีจะรอไม่ได้ ในฐานะ สส. ถ้าวันนี้หรือพรุ่งนี้ทำได้ก็ยิ่งดีเพราะเกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนจริงๆ
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของนโยบายแก้ปัญหายางพาราของพรรคประชาธิปัตย์ในเริ่องของการประกันรายได้นั้นทำได้เพราะบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของรายละเอียดว่าใช้เงินเท่าไหร่ ตัวเลขประกันรายได้เท่าไหร่ การระบุตัวเกษตรกรจะทำอย่างไร มีกลไกกระบวนการอย่างไร ซึ่งต้องใช้เงินหลายหมื่นล้านซึ่งมาจากเงินงบประมาณทั้งนั้น การออกแบบเรื่องของกระบวนการขั้นตอนจะต้องละเอียดมากเพราะว่าหากเงินหลุดหายไปหมายถึงการทุจริตซึ่งจะต้องไม่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหายด้วยแต่ที่ผ่านมาเวลาโอนเงินส่วนต่างของเงินประกันรายได้ จะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง
?โดยภาพรวมที่มีการพูดคุยกันในครั้งนี้มีเรื่องหลักคือ เรื่องราคายางพาราที่ต่ำลงเหลือ กก.ละ 33บาทเป็นเรื่องที่ร้อนที่สุดที่ทุกคนอยู่ไม่ได้ เพราะว่าต้องยอมรับว่า 5 ปีที่ผ่านมาแทบไม่มีช่วงไหนเลยที่ยางพาราขึ้นทำให้เกษตรกรชื่นใจ มีระยะสั้นมากช่วงเริ่มรัฐบาลอยู่ที่ กก.ละ 51-52 บาท หลังจากนั้นก็ตกมาตลอด และเรื่องปัญหาของสถาบันเกษตรกรเอง เช่นพวกสหกรณ์ทั้งหลาย อย่างในจังหวัดตรังเสนอว่า การไปจบังคับว่าห้ามซื้อยางข้ามเขตอำเภอ ไปเข้าทางพ่อค้า เพราะแทนที่จะซื้อได้ถึง 100 ตัน ซื้อได้เพียง 30 ตัน อีก 70 ตันไปสู่มือพ่อค้า อีกทั้งยังมีข้อเสนออื่นเกี่ยวกับเรื่องสถาบันเช่น การประมูลยางซึ่ง กยท.ควรจะรับซื้อถ้าไม่มีพ่อค้าซื้อ? นายสาทิตย์ กล่าว
(https://siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20190804/0cf5c78890a5f3fcee11b28b1ee62119de9ca65b729e5a4c56f575a825a4f96d.jpg?itok=yiMXGzr2) (https://siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20190804/0cf5c78890a5f3fcee11b28b1ee62119de9ca65b729e5a4c56f575a825a4f96d.jpg?itok=yiMXGzr2)
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ประการสำคัญเรื่องที่เกษตรกรกังวลว่าอนาคตยางพาราจะไปอย่างไร ซึ่งหลายคนก็กังวลเพราะว่าโครงสร้างตลาดเปลี่ยน จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ขณะนี้ใช้ทุนตัวเองมาตั้งบริษัทฯและซื้อควบรวมบริษัท ซึ่งเดิมเป็นของคนไทย เพราะฉะนั้นหากบริษัททุนจีนมาเป็นจ้าของบริษัทก็เกรงว่าจะเกิดการกดราคาในอนาคต จะทำให้ผลเสียตกแก่เกษตรกรรวมถึงสถาบันเกษตรกรของเราเอง เรื่องนี้ต้องดูนโยบายของรัฐให้ชัดเจน
?เรื่องที่บริษัทฯจีนจะมาลงทุนนั้นเป็นเรื่องจริง เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาทำรายงานมีการนำเสนอว่ามีการเปลี่ยนมือควบรวมกิจการก็ดี ร่วมทุนของทุนจีนและทุนขนาดใหญ่ในไทยมากขึ้น ขณะนี้มีการพูดกันด้วยซ้ำว่า 5 เสือในวงการยางจะเหลือ 2ตัวครึ่งหรื2 ตัวที่เหลือกลายเป็นบริษัททุนจีน ซึ่งจะเกิดผลเสียระยะยาวเพราะว่าจีนเป็นผู้ใช้ยางรายใหญ่สุดในประเทศไทย ยางส่งออกไปต่างประเทศที่จีนประมาณ46% หากมาตั้งบริษัทรับซื้อเองจะกดราคาเรา เหมือนล้งที่ซื้อผลไม้ในจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ล้งส่วนใหญ่เป็นจีนจะกดราคาและไปสร้างกำไรในจีน เรื่องนี้รัฐบาลไทยต้องยืนเคียงข้างผู้ประกอบการไทยก่อน? นายสาทิตย์ กล่าว
นายประทบ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ทางเครือข่ายจะสรุปประเด็นเสนอไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์และทางรัฐบาลเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะราคาน้ำยางพาราลดลงเหลือ กก.ละ 33-34บาท เกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนอย่างมาก เพราะฉะนั้นรัฐบาลและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมี สส.ทางภาคใต้จำนวนมากนั้น การแก้ปัญหายางพาราจึงต้องเร่งดำเนินการ ขณะนี้ สส.พรรคประชาธิปัตย์ถูกจับตามองภายใต้การบริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
?ตอนนี้ต้องดูบทสรุปของรัฐบาลที่จะมีการประชุมว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอแนวทางแก้ไขอย่างไร ซึ่งทางเครือข่ายฯก็มีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง และมีความจำเป็นที่จะต้องนำปัญหาเสนอไปยังกระทรวงเกษตรฯ การแก้ปัญหานั้นจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด ความเดือดร้อนขยายไปทั่วแล้ว และคิดว่าในส่วนของรัฐบาลนั้นจะมีการประกันราคา หากปล่อยให้ปัญหานี้ไปถึงปลายปี คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ? นายประทบ กล่าว