My Community
ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวยางโดยตรง => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ กันยายน 17, 2025, 12:34:02 PM
-
ยอดขายรถยนต์ใหม่ของอินเดียลดลงเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันเนื่องจากการปรับการขนส่ง โดยซูซูกิครองส่วนแบ่งการตลาด 40%
ความนิยม ( 336 )17/09/2568 11:57 น.
MoneyDJ News 2025-09-17 11:57:51 Cai Chengqi ประกาศ
สินค้าคงคลังส่วนเกินและการปรับยอดจัดส่งของผู้ผลิตรถยนต์เป็นปัจจัยฉุดรั้งยอดขายรถยนต์ใหม่ของอินเดียในเดือนสิงหาคม ส่งผลให้ยอดขายหดตัวเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน ในบรรดารถยนต์เหล่านี้ มารูติ ซูซูกิ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของอินเดียและเป็นบริษัทในเครือของซูซูกิของญี่ปุ่น ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 40%
รายงานของนิกเคอิเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ระบุว่าสมาคมผู้ผลิตยานยนต์อินเดีย (SIAM) เผยแพร่สถิติที่บ่งชี้ว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ของอินเดีย (รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่รวมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์) ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือ 321,840 คันในเดือนสิงหาคม 2568 ซึ่งถือเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน เนื่องจากสินค้าคงคลังส่วนเกิน การปรับลดการจัดส่งของผู้ผลิต และภาวะซบเซาของผู้บริโภคก่อนการลดภาษีในเดือนกันยายน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดขายรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) รวมถึง SUV ลดลง 11% เหลือ 179,588 คันในเดือนสิงหาคม ขณะที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ลดลง 7% เหลือ 90,466 คัน
สมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์อินเดีย (FADA) รายงานว่าจำนวนวันคงคลังเฉลี่ยของผู้จำหน่ายรถยนต์ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 56 วันในเดือนสิงหาคม ราเจช เมนอน ผู้อำนวยการใหญ่ของ SIAM กล่าวว่า "ยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับลดการจัดส่งของผู้ผลิต"
เมื่อพิจารณาตามยอดขายตามผู้ผลิต ยอดขายของ Maruti Suzuki ในเดือนสิงหาคมลดลง 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนเหลือ 131,278 คัน คิดเป็นประมาณ 41% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในอินเดียและยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ขณะที่ยอดขายของ Hyundai Motor ของเกาหลีใต้ลดลง 11% เหลือ 44,001 คัน ขณะที่ยอดขายของ Mahindra & Mahindra ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศของอินเดียลดลง 9% และยอดขายของ Tata Motors ก็ลดลง 7% เช่นกัน
รายงานระบุว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ในอินเดียคาดว่าจะฟื้นตัวหลังเดือนกันยายน อินเดียจะลดภาษีสินค้าและบริการ (GST) ลงอย่างมาก ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนเป็นต้นไป อัตราภาษีของ Maruti Suzuki สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่มีความจุต่ำกว่า 1,200 ซีซี จะลดลงจาก 28% เหลือ 18%
(ที่มาของภาพ : ซูซูกิ )