แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Rakayang.Com

หน้า: 1 ... 4073 4074 [4075] 4076 4077 ... 5659
61111

ราคายางเฉลี่ยของโรงงาน ประจำวัน อังคาร ที่ 4  สิงหาคม  2558


จังหวัด สงขลา ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 47.2 บาท/กก. ราคาลดลง -0.80 บาท/กก. เศษยาง 43 บาท/กก. ราคาลดลง -0.5  บาท/กก. น้ำยางสด ราคา ณ โรงงาน 46 บาท/กก. ราคาลดลง -1.00บาท


จังหวัด สุราษฏร์ธานี ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 47.5 บาท/กก. ราคาลดลง -1.00บาท/กก.  น้ำยางสด ราคา ณ โรงงาน 44.35 บาท/กก. ราคาลดลง -0.80บาท


จังหวัด นครศรีธรรมราช ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 47.3 บาท/กก. ราคาลดลง -0.70บาท/กก.  น้ำยางสด ราคา ณ โรงงาน 45 บาท/กก. ราคาลดลง -0.75บาท


จังหวัด ยะลายางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 0บาท/กก. ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เศษยาง (บุรีรัมย์)  37 บาท/กก. ราคาลดลง -2.00บาท/กก.


เศษยาง (ยะลา)40 บาท/กก. ราคาลดลง -2.50บาท/กก.
*****หมายเหตุ : ราคานี้เป็นราคาเฉลี่ย บางโรงงานอาจเปิดสูงหรือต่ำกว่านี้ แต่ราคาที่ประกาศนี้เฉลี่ยไว้ ให้ดูแนวโน้มว่าโรงงานเปิดราคาวันนี้ไปทางไหน *****


ตลาดกลางยางแผ่นดิบคุณภาพ 3เศษยาง 100%น้ำยางสด
ราคา ณ โรงงานราคาท้องถิ่น
สงขลา47.2434644
สุราษฏร์ธานี47.5-44.35-
นครศรีธรรมราช47.3-45-
ยะลา0---
บุรีรัมย์0---
หนองคาย----



จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net


61112

รายละเอียดการประมูลยางแผ่นดิบ ตลาดเอกชนประจำวัน อังคาร ที่ 4  สิงหาคม  2558


ตลาดประมูลยางพาราขุนทะเล สุราษฯ(ป1) 48.49 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.68 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล ไทยเกษตร มือรอง 48.39 บาท/กก.  ผู้ประมูล บีไรท์ มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.10บาท  ปริมาณยาง   257,000 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-93,000กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้- ราย


      ขุนทะเล(ป2) 48.13 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.46 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล เกษตรพาร มือรอง 47.39 บาท/กก.  ผู้ประมูล บีไรท์ มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.74บาท  ปริมาณยาง   10,000 กก.   ปริมาณยาง เพิ่มขึ้น7,000กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้- ราย
     
ตลาดประมูลยางพาราโกชุม (จ.สฎ)48.49 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.60 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล เอเอสรับเบอร์ มือรอง 48.39 บาท/กก.  ผู้ประมูล ชัยยุทธ มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.10บาท  ปริมาณยาง   20,000 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-28,000กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้- ราย


ตลาดประมูลยางพาราอบต.บ้านส้อง(จ.สฎ)48.50 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.37 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล สมควรการยาง มือรอง 48.49 บาท/กก.  ผู้ประมูล ภูผา,เอเอสรับเบอร์ มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.01บาท  ปริมาณยาง   20,000 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-55,000กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้- ราย


ตลาดประมูลยางพาราสินปุน (จ.สฎ)48.35 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.74 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล เอกการยาง มือรอง 48.23 บาท/กก.  ผู้ประมูล วีรับเบอร์ มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.12บาท  ปริมาณยาง   34,000 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-11,000กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้- ราย


ตลาดประมูลยางพารากลุ่มบ้านนาราช (จ.สฎ)48.45 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.42 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล ภูผา มือรอง 48.41 บาท/กก.  ผู้ประมูล เฉลิม มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.04บาท  ปริมาณยาง   10,000 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-1,000กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้- ราย


ตลาดประมูลยางพาราธนา ละแม(จ.ชุมพร) ยังไม่มีราคา - ราย


ราคาประมูลและปริมาณยาง(แผ่นดิบ)ซื้อขาย ณ.ตลาดเอกชน
ประจำวันอังคารที่  4  สิงหาคม  2558
ตลาดประมูลเอกชนคุณภาพยางราคาซื้อขาย(บาท)ส่วนต่างรายชื่อผู้ชนะประมูลยาง ปริมาณยางซื้อขาย(กก.)
ตลาดจริงจิตร(ขุนทะเล)
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.49-0.68ไทยเกษตร        257,000.00
ตลาดจริงจิตร(ขุนทะเล)(ค.2)
ยางแผ่นดิบความชื่น3-5%
48.13-0.46เกษตรพาร         10,000.00
ตลาดโกชุม
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.49-0.60เอเอสรับเบอร์         20,000.00
ตลาดอบต.(บ้านส้อง)
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.50-0.37สมควรการยาง         20,000.00
ตลาดสินปุ่น
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.35-0.74เอกการยาง         34,000.00
ตลาดนาราช
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.45-0.42ภูผา         10,000.00

จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61113

ราคาประมูลแผ่นดิบ : ตลาดสงขลา 48.69 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.58บาท/กก.  ปริมาณยาง   19,400 กก.
รายละเอียดการประมูลยางแผ่นดิบตลาดกลางประจำวัน อังคาร ที่ 4  สิงหาคม  2558

ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
ตลาดกลางประมูลยางหาดใหญ่ (สงขลา) 48.69 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.58บาท/กก. ผู้ชนะประมูล บริษัทยางไทยเอเชีย จก. มือรอง 48.08 บาท/กก.  ผู้ประมูล นายวันชัย เด่นศรีเสรีกุล (หจก.มาตรฐานยางพารา)  มือรองกับมือได้ต่างกัน  0.61บาท  ปริมาณยาง   19,400 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-2320กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 4 ราย


ตลาดกลางประมูลยางสุราษฯ(โคออฟ) 48.99 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.64บาท/กก. ผู้ชนะประมูล บริษัท ยางไทยเอเชีย จำกัด มือรอง 48.93 บาท/กก.  ผู้ประมูล ร้านหนองขรีการยาง  มือรองกับมือได้ต่างกัน  0.06บาท  ปริมาณยาง   21,700 กก.   ปริมาณยาง เพิ่มขึ้น9600กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 4 ราย


ตลาดกลางประมูลยางนครศรีฯ(จันดี) 48.75 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.77บาท/กก. ผู้ชนะประมูล หนองขรีการยาง มือรอง 48.69 บาท/กก.  ผู้ประมูล ยางไทย  มือรองกับมือได้ต่างกัน  0.06บาท  ปริมาณยาง   5,900 กก.   ปริมาณยาง เท่ากับช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 2 ราย


รวมปริมาณยางแผ่นดิบคุณภาพดีทั้ง3ตลาด  47,000กก.ปริมาณยางวันนี้ เพิ่มขึ้น 7,280 กก. จากวันก่อนหน้านี้


ส่วนราคาเฉลี่ยยางแผ่นดิบคุณภาพดีวันนี้ 48.81 บาท/กก. ราคาเฉลี่ยลดลง -0.66 บาท/กก. จากวันก่อนหน้านี้


ยางแผ่นดิบความชื้น 3-5%
ตลาดกลางประมูลยางหาดใหญ่ (สงขลา) 47.85 บาท/กก.  ราคาลดลง -1.16บาท/กก. ผู้ชนะประมูล บริษัท เซาท์อีสต์รับเบอร์ จำกัด มือรอง 47.78 บาท/กก.  ผู้ประมูล นายวันชัย เด่นศรีเสรีกุล (หจก.มาตรฐานยางพารา)  มือรองกับมือได้ต่างกัน  0.07บาท  ปริมาณยาง   14,600 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-1400กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 4 ราย


ตลาดกลางประมูลยางสุราษฯ(โคออฟ) 48.55 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.58บาท/กก. ผู้ชนะประมูล นายวุฒินันท์ ปาลคะเชนทร์ มือรอง 48.29 บาท/กก.  ผู้ประมูล ร้านหนองขรีการยาง  มือรองกับมือได้ต่างกัน  0.26บาท  ปริมาณยาง   530 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-970กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 2 ราย


ตลาดกลางประมูลยางนครศรีฯ(จันดี) 46.89 บาท/กก.  ราคาลดลง -1.13บาท/กก. ผู้ชนะประมูล แอล.ทีการยาง มือรอง 45.78 บาท/กก.  ผู้ประมูล เอวัณรับเบอร์  มือรองกับมือได้ต่างกัน  1.11บาท  ปริมาณยาง   300 กก.   ปริมาณยาง เท่ากับช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 2 ราย


รวมปริมาณยางแผ่นดิบความชื้น 3-5% ทั้ง3ตลาด  15,430กก.ปริมาณยางวันนี้ ลดลง -2,370 กก. จากวันก่อนหน้านี้

ยางแผ่นดิบความชื้น 5-7%
ตลาดกลางประมูลยางหาดใหญ่ (สงขลา) 47.01 บาท/กก.  ราคาลดลง -1.21 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล บริษัท เซาท์อีสต์รับเบอร์ จำกัด มือรอง 46.66 บาท/กก.  ผู้ประมูล นายวันชัย เด่นศรีเสรีกุล (หจก.มาตรฐานยางพารา)  มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.35บาท  ปริมาณยาง   20,182 กก.   ปริมาณยาง เพิ่มขึ้น5082กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 4 ราย


ตลาดกลางประมูลยางสุราษฯ(โคออฟ) 48.05 บาท/กก.  ราคาลดลง -0.58 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล นายวุฒินันท์ ปาลคะเชนทร์ มือรอง 47.29 บาท/กก.  ผู้ประมูล ร้านหนองขรีการยาง  มือรองกับมือได้ต่างกัน 0.76บาท  ปริมาณยาง   661 กก.   ปริมาณยาง ลดลง-999กก. จากช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 2 ราย


ตลาดกลางประมูลยางนครศรีฯ(จันดี)  วันนี้ไม่มียาง เท่ากับช่วงเช้าก่อนหน้านี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 0 ราย


รวมปริมาณยางแผ่นดิบความชื้น 5-7% ทั้ง3ตลาด  20,843กก.ปริมาณยางวันนี้ เพิ่มขึ้น 4,083 กก. จากวันก่อนหน้านี้


สรุปรวมปริมาณยาง ทั้ง 3 ชนิด (คุณภาพดี+ชื้น3-5%+ชื้น5-7%) 83,273 กก.ปริมาณยางวันนี้ เพิ่มขึ้น 8,993 กก. จากวันก่อนหน้านี้

ราคาน้ำยาง ณ โรงงาน(เฉลี่ย)
น้ำยางหาดใหญ่ 46.00 บาท ราคาลดลง -1.00 บาท


ราคาประมูลและปริมาณยาง(แผ่นดิบ)ที่ซื้อขาย  ณ.ตลาดกลางยางพารา
ประจำวันอังคารที่  4  สิงหาคม  2558
ตลาดกลางยางพาราคุณภาพยาง
ราคาซื้อขาย(บาท)
ส่วนต่าง(+/-)
รายชื่อผู้ชนะประมูล
ปริมาณซื้อขาย(กก.)
สงขลา
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.69-0.58
บริษัทยางไทยเอเชีย จก.
                            19,400
(Songkhla)
ยางแผ่นดิบความชื่น3-5%
47.85-1.16
บริษัท เซาท์อีสต์รับเบอร์ จำกัด
                            14,600
ยางแผ่นดิบความชื่น5-7%
47.01-1.21
บริษัท เซาท์อีสต์รับเบอร์ จำกัด
                            20,182
สุราษฏร์ธานี
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.99-0.64
บริษัท ยางไทยเอเชีย จำกัด
                            21,700
(Suratthani)
ยางแผ่นดิบความชื่น3-5%
48.55-0.58
นายวุฒินันท์ ปาลคะเชนทร์
                                 530
ยางแผ่นดิบความชื่น5-7%
48.05-0.58
นายวุฒินันท์ ปาลคะเชนทร์
                                 661
นครศรีธรรมราช
ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
48.75-0.77
หนองขรีการยาง
                              5,900
(NakornSrithammarat)
ยางแผ่นดิบความชื่น3-5%
46.89-1.13
แอล.ทีการยาง
                                 300
ยางแผ่นดิบความชื่น5-7%
0.000.00
หนองขรีการยาง
                                  -   
รวมปริมาณยางในตลาด
                           83,273

จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61114
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  4  สิงหาคม  พ.ศ. 2558
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนาแน่นและตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
2. การใช้ยาง
- สมาคมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่เดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 7.6 อยู่ที่ 425,093 คัน ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากการปรับเพิ่มภาษีรถยนต์ขนาดเล็กได้ส่งผลให้ความต้องการอ่อนแรงลง ยอดจำหน่ายรถยนต์ในญี่ปุ่นชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังมีการปรับเพิ่มภาษีรถยนต์ขนาดเล็กเมื่อเดือนเมษายน- ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐฯ รายงานยอดจำหน่ายเดือนกรกฎาคมปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการลดลงของราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ ทั้งนี้เจเนอรัล มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 ฟอร์ด มอเตอร์ มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เฟียต ไคร์เลอร์ มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 นิสสันมอเตอร์มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ฮอนด้ามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และโตโยต้ามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นต่ำกว่าร้อยละ 1.0 ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 6 รายมีส่วนแบ่งการตลาดราวร้อยละ 70.0 มียอดจำหน่ายรวมกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 อยู่ที่ 1,167,647 คันในเดือนกรกฎาคม
3. เศรษฐกิจโลก
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า เดือนมิถุนายนการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในช่วงท้ายไตรมาส 2- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า จีนเตรียมเร่งดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 3 ประการในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อผลักดันกลไกสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจแหล่งใหม่- สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมชะลอตัว โดยผลสำรวจของ ISM พบว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอยู่ที่ 52.7 ลดลงจาก 53.5 ในเดือนมิถุนายน- ผลสำรวจมาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคม ดังนี้
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตยูโรโซนในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 52.2
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตฝรั่งเศสปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 49.6 จาก 50.7 ในเดือนมิถุนายน
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอิตาลีปรับตัวขึ้นแตะ 55.3 สูงสุดในรอบกว่า 4 ปี จาก 54.2 ในเดือนมิถุนายน
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตจีนลดลงแตะ 47.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี จาก 49.4 ในเดือนมิถุนายน และเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50.0 แสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัว
[/t][/t][/t][/t][/t][/t]
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตสหรัฐฯ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระบุว่า PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 53.8 จาก 53.6 ในเดือนมิถุนายน
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตกรีซลดลงแตะ 30.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มาร์กิตรวบรวมข้อมูลเป็นเวลา 16 ปี โดยได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลที่กรีซอาจออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนหลังประสบสภาวะวิกฤตหนี้
  • [/l][/l][/l][/l]
    4. อัตราแลกเปลี่ยน- เงินบาทอยู่ที่ 35.12 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.05 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 124.05 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.08 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
    5. ราคาน้ำมัน- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกันยายนปิดตลาดที่ 45.17 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.95 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะพิ่มขึ้นอีกในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ปรับตัวขึ้นอย่างมากในเดือนมิถุนายน ขณะที่เลขาธิการกลุ่มโอเปคยืนยันว่าโอเปคจะไม่ลดกำลังการผลิต แม้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นก็ตาม- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 49.52ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.69 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
    6. การเก็งกำไร- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนกันยายน อยู่ที่ 187.6 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 1.9 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนมกราคม 2559 อยู่ที่ 195.3 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.1 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 156.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 2.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
    7. ข่าว- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยขยับขึ้นร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 ในเดือนมิถุนายน
    8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ- ราคายางปรับตัวลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาไม่ปรับลดลงรวดเร็วตามตลาดต่างประเทศ เพราะผลผลิตยางมีน้อยและเงินบาทอ่อนค่า
  • แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ หลังจากภาคการผลิตจีนเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 4 เดือน รวมถึงภาคการผลิตสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม เงินบาทอ่อนค่าและปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ยังเป็นปัจจัยหนุนราคายางได้ในระดับหนึ่ง
  • ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา

61115
สรุปราคาน้ำยางโรงงานและลานประจำวัน อังคาร ที่ 4  สิงหาคม  2558

ชื่อโรงงานหมายเหตุราคาน้ำยาง
1นาบอน45
2ห้วยปริก 45
3
น้ำยางศรีมาบ
(รับจันทร์ พุธ ศุกร์)45.5
4
น้ำยางสะเดา
44
5ลานควนสว่างพระแสง(สฎ)44
6
ลานป้าจิตพระแสง
44
7
KS พาราทอง(กระบี่)
44.5
8
ลานทรัพย์รุ่งเรือง(ปากกา,ห้วยปริก พิปูน)
45
9
เทพประทานพร
44.5
10
เพ็ญศรี ทุ่งใหญ่
44+
11
อสย.(ทุ่งสง)
0
12
ศรีตรังคลองท่อม
44.5
13
ลานกระบี่
44+
14
น้ำบางราโพ,โชคชัยโคกหาร
44+
15
ลานพัทลุง
44
16
ลานหาดใหญ๋
44
17สมาคมน้ำยางข้นไทย(หาดใหญ่)45.5
18
โรงงานน้ำยางหาดใหญ่
45
19
ลานตรัง
44+
20
ลานท่าชี(บ้านเสด็จ)
44
21
ลานท่าชี(นาสาร)
44
22
อสย.กรุงหยัน
45+
23
กลุ่มสหกรณ์(สฎ)
43-44
24
ลานท้องถิ่น(สฎ)
44
25
โรงงานน้ำยาง(สฎ)
45.5
26
ลานขุนทะเลลาเท็กซ์(บ้านนาเดิม)
44
27
ไทฮัวมาบ
(ป้าย43)
28บางขัน44
29
ลำทับ
44
30
ลานทุ่งใหญ่
44
31
วงศ์บัณฑิต (สฎ)
44.5 ซื้อขาย+2
32
ทองไทย
45
33
ไทยแมค
44
34
ศรีทุ่งใหญ่
44+0.5




หมายเหตุ ซื้อขายให้ติดต่อฝ่ายจัดซื้อโดยตรง

61116
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้-เสิ่นเจิ้นออกมาตรการจำกัดการทำชอร์ตเซลล์ หวังหยุดความผันผวนของตลาด


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -4 ส.ค. 58 9:44: น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นของจีนจำกัดการทำชอร์ตเซลล์ โดยเป็นมาตรการล่าสุดในการรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้น หลังยังคงมีความผันผวน แม้จะดำเนินมาตรการต่างๆมาก่อนหน้านี้
??โดยมาตรการล่าสุดกำหนดให้นักลงทุนที่ยืมหุ้นเพื่อทำชอร์ตเซลล์จะต้องรอหนึ่งวัน ก่อนที่จะสามารถซื้อหุ้นเพื่อชำระคืนได้ มาตรการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนขายหุ้นและซื้อหุ้นในการทำชอร์ตเซลล์ในวันเดียวกัน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯเห็นว่า เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความผันผวนอย่างผิดปกติต่อตลาดหุ้น
??'เกณฑ์เดิมนั้นให้นักลงทุนสามารถขายหุ้นตอนเช้าและซื้อหุ้นตอนเย็นหลังได้กำไรจากการทำชอร์ตเซลล์แล้ว แต่กฎหมายใหม่ นักลงทุนไม่สามารถทำคัพเวอร์ชอร์ตได้ในวันเดียวกัน และจะต้องรอคัพเวอร์ชอร์ตในวันรุ่งขึ้น มาตรการนี้เป็นการปรามนักเก็งกำไร นักเทรดหุ้นรายวัน และจะช่วยลดความผันผวนระหว่างวัน' นายเซียน เหลียงผู้จัดการกองทุนที่ยูเอสโกลเบิลอินเวสเตอร์สกล่าว




แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์
เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์  
                อีเมล์. worachet@efinacethai.com อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร 






61117
เหนือ-อีสาน ยังมีฝนหนาแน่น ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก


โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ส.ค. 2558 07:00



ภาคเหนือ-อีสาน ของไทย ยังมีฝนหนาแน่น คาดวันนี้ ปริมาณน้ำฝนสะสมมากสุดที่ ตาก-บึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดมีฝนตก 23% ช่วงเย็นถึงค่ำ ...
วันที่ 4 ส.ค. จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า เป็นผลมาจากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอยู่บริเวณตอนบนของภาคเหนือ และประเทศพม่าตอนบน ประกอบกับอีกหนึ่งปัจจัย คือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง ที่พัดนำความชื้นเข้าปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งก็จะทำให้บริเวณประเทศไทย ยังคงมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งใน ภาคเหนือ และภาคอีสาน
ซึ่งจากการคำนวณปริมาณน้ำฝนสะสมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงเช้าวันนี้ ไปจนถึง 6 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ พบว่า วันนี้กลุ่มฝนยังเน้นตกสะสมใน บริเวณภาคเหนือฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออกของภาค ในขณะที่ภาคอีสาน ส่วนใหญ่บริเวณทางฝั่งตะวันออกของภาค ซึ่งในวันนี้ปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดคาดการณ์ว่า ในภาคเหนือจะอยู่บริเวณจังหวัดตาก และภาคอีสาน อยู่ที่จังหวัดบึงกาฬ นครพนม ดังนั้นประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ต้องเพิ่มความระมัดระวังอันตรายที่อาจตามมาจากฝนที่ตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้
และจากภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ พบกลุ่มก้อนเมฆปกคลุมอยู่ค่อนข้างหนาตา และพบกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนองปกคลุมอยู่ในหลายจุด โดยภาคเหนือส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตอนบนของภาค ส่วนในภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก พบกระจายอยู่ทั่วทั้งภาค ส่วนในภาคใต้ ส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่ในบริเวณตอนกลางถึงตอนล่างของภาค
โดยจากการคาดการณ์ปริมาณฝนตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนกลางของประเทศวันนี้ ช่วงสายพบกลุ่มฝนกลุ่มใหญ่อยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศ และมีกระจายตัวอยู่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานฝั่งตะวันออก และบางส่วนของภาคตะวันออก ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะพบกลุ่มกระจายตัวมากขึ้นปกคลุมทั้งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ช่วงบ่ายกลุ่มฝนในบริเวณภาคเหนือและภาคกลางจะลดลง เหลือเพียงบริเวณฝั่งตะวันตก และบริเวณภาคกลางตอนล่าง ในขณะที่ภาคอีสาน ยังคงพบกลุ่มฝนกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งภาค ช่วงเย็นกลุ่มฝนจะเน้นตกในภาคกลาง ตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนล่างของภาค รวมถึงฝั่งตะวันตกของประเทศด้วย ส่วนในภาคเหนือ และภาคอีสานยังคงมีตกในบางจุดเท่านั้น
ในขณะที่สถานการณ์ฝนทางตอนใต้ ในช่วงสายพบกลุ่มฝนก่อตัว 2 จุด คือ บริเวณตอนกลางของภาค เป็นกลุ่มฝนตกปรอยๆ ที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ส่วนอีกหนึ่งจุดตกปานกลางที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส ช่วงบ่ายฝนจะกลับมาตกอีกครั้งแถวๆ รอยต่อระหว่างจังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นกลุ่มฝนก็จะค่อยซาลงและหมดไป
ส่วนสถานการณ์อุณหภูมิความรู้สึกร้อนวันนี้ ทั่วประเทศมีอุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากฝนที่ตกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาคเหนือ ภาคอีสาน อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ในขณะที่ภาคกลางที่มีอุณหภูมิความรู้สึกร้อนสูงสุดในวันนี้แสดงพื้นที่เป็น สีแดง คือ มีอากาศร้อนโดยทั่วไป เท่านั้น อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 34-35 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ส่วนสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้เป็นดังนี้
ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส
ภาคอีสาน มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ และอุดรธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 23 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเย็นถึงช่วงค่ำ
อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส
จาการตรวจสอบสถานการณ์พายุเซาเดโลร์ (SOUDELOR) ตอนนี้เป็นไต้ฝุ่นระดับ 5 อยู่ในแปซิฟิกตะวันตก บริเวณทางใต้ของเกาะอิโวโตะ ประเทศญี่ปุ่น มีความเร็วลมศูนย์กลาง 287 กม./ชม. เคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกทิศทางสู่เกาะไต้หวัน มีแนวโน้มจะยังคงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น จนถึงเช้าวันที่ 7 ส.ค. แล้วลดความเร็วลมศูนย์กลางลงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 คาดว่า จะเคลื่อนที่ผ่านเกาะไต้หวัน ที่เมืองไทเป แล้วขึ้นฝั่งที่เมืองฟูโจวประเทศจีนในเช้าวันที่ 9 ส.ค.2558
ในขณะที่พายุโกเมน หลังจากเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งในประเทศอินเดีย ก็ได้สลายตัวลงเป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของพายุลูกนี้ จึงส่งผลให้ 4 รัฐในพม่า ต้องประสบอุทกภัยอย่างรุนแรง และจากการตรวจสอบสภาพอากาศ 7 วัน ต่อจากนี้บริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศพม่า ก็ยังคงพบโอกาสเกิดฝนอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงสุดสัปดาห์ก็จะมีฝนลดลงเล็กน้อย

61118
หุ้นยุโรปบวกรับงบบจ.แข็งแกร่ง ท่ามกลางตลาดหุ้นกรีซที่ร่วงหนักหลังกลับมเปิดทำการอีกครั้งในรอบ 5 สัปดาห์


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -4 ส.ค. 58 8:04: น.


รายงานข่าวจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า วานนี้ (3 ส.ค.58)  ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 399.44 จุดดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,120.52 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +0.75% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,443.72 จุด เพิ่มขึ้น 134.73 จุด หรือ +1.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,688.62 จุด ลดลง 7.66 จุด หรือ -0.11%
?? ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน โดยคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนีในแง่มูลค่าตลาด เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแตะ 280 ล้านยูโร (ราว 307 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับ 100 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ทะยานขึ้น 2.3%
??  อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง หลังจากทางการจีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค. โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.7% และหุ้นเกลนคอร์ ดิ่งลง 3.8%
?? ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนสามารถสกัดปัจจัยลบจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นกรีซ โดยดัชนี Athex Composite ปิดร่วงลง 16.2% เมื่อวานนี้  ทั้งนี้ ตลาดหุ้นกรีซกลับมาเปิดทำการเมื่อวานนี้เป็นวันแรก ภายหลังจากปิดทำการราว 5 สัปดาห์ ซึ่งขณะนั้นกำลังเกิดวิกฤตการณ์จากการที่ชาวกรีซแห่ถอนเงินฝากในธนาคาร และรัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน


เรียบเรียง โดย สุรเมธี มณีสุโข  
                อีเมล์. suramatee@efnancethai.com

61119
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 04/08/58



สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -4 ส.ค. 58 6:35: น.


สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
                ? การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน มิ.ย. เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน สะท้อนการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วงปลายไตรมาส 2 และอุปสงค์ที่ลดลงสำหรับรถยนต์ ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือน ก.ค. ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 52.7 จาก 53.5 ในเดือนก่อน
                ? ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนเดือน ก.ค. ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 52.4 จากเดือนก่อนหน้าที่ 52.5 ทั้งนี้ดัชนี PMI ยังคงขยายตัวนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2556 และมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 เนื่องจากประเทศสมาชิกรายใหญ่ เช่น อิตาลีและเยอรมนี ซึ่งชดเชยตัวเลขที่อ่อนตัวลงใน ฝรั่งเศสจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง
                ? ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนีเดือน ก.ค. ปรับลดลงเล็กน้อยเหลือ 51.8 แต่เป็นการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 27 ติดต่อกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ PMI ของอิตาลีในเดือน ก.ค. ที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี สู่ระดับ 55.3 สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น
                ? หอการค้าออสเตรเลีย รายงาน คาดการณ์ดัชนีธุรกิจในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ปรับลดลง 1.5 จุด ซึ่งปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน สะท้อนรายได้และผลกำไรที่ลดลงของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดี การส่งออกของออสเตรเลียมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์ออสเตรเลีย
                ? ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้จัดสรรเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ในเดือน ก.ค. มูลค่า 2.5 แสนล้านหยวน ให้แก่ภาคธนาคาร โดยมีระยะเวลา 6 เดือน และอัตราดอกเบี้ยที่ 3.35% เพื่อช่วยเหลือสถาบันการเงินและภาคธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม รวมถึงภาคเกษตรกรรมในเขตชนบท ทั้งนี้ในช่วงสิ้นเดือน ก.ค. ธนาคารกลางจีนมียอดจัดสรรเงินกู้ระยะกลางให้แก่ภาคธนาคารรวม 8.464 แสนล้านหยวน
                ? คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนเตรียมเร่งดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 3 ประการในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจแหล่งใหม่ ซึ่งประกอบด้วย โครงการเส้นทางเศรษฐกิจ Belt and Road , การร่วมพัฒนาเขตเศรษฐกิจปักกิ่ง เทียนจิน และ หูเป่ย รวมถึงโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในแถบแม่น้ำแยงซี
                ? ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีแนวโน้มคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ในการประชุมวันที่ 6-7 ส.ค. นี้ เนื่องจากการใช้จ่ายภาคเอกชนยังคงซบเซาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม BoJ ยังมองเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวในระดับปานกลาง เนื่องจากการผลิตและการบริโภคที่จะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน
                ? สมาคมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กของญี่ปุ่น รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในเดือน ก.ค. ปรับตัวลง 7.6% เหลือ 425,093 คัน ซึ่งปรับลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากการปรับเพิ่มภาษีรถยนต์ขนาดเล็กในเดือน เม.ย. เป็นปัจจัยลบกดดันกำลังซื้อในภาวะเศรษฐกิจซบเซา
                ? จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังอินโดนีเซีย ในเดือน มิ.ย. ปรับลดลง 4.27% เมื่อเทียบรายปี โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ขณะที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น บาหลี ยังคงมีจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวกว่า 8.51% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย เตรียมแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยการยกเลิกการขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวใน 45 ประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10 ล้านคน ในปีนี้
 
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
                ? ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (CPI) ในเดือน ก.ค. 58 ปรับลดลง 1.05% เมื่อเทียบรายปี เหลือ 106.57 ซึ่งเป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากสินค้าหลายชนิดปรับราคาลงตามต้นทุนราคาน้ำมันที่ถูกลง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และราคาอาหารสดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามปริมาณการผลิตที่ลดน้อยลงจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน
                ? รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นว่า ไม่ควรกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนด้วยการลดดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากจะทำให้หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมแก้ปัญหาการบริโภคสำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ด้วยการใช้มาตรการช่วยเหลือในรูปแบบให้เงิน โดยเบื้องต้นคาดการณ์ว่ามีพื้นที่กว่า 1.5 ล้านไร่ ที่ได้รับผลกระทบ
                ? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่า โครงการรถไฟฟ้าไทย-จีน จะเริ่มดำเนินการการสร้างได้ในช่วง ต.ค.-ธ.ค. 58 โดยเริ่มจากเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร และ แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 ก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจการออกแบบ การกำหนดเส้นทาง และกำหนดจำนวนสถานี รวมถึงการเจรจารูปแบบทางการเงินให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
                ? สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ปรับลดคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 58 เป็นติดลบ 4.2% เหลือมูลค่า 2.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่คาดการณ์ติดลบ 2% เนื่องจากกำลังซื้อในตลาดโลกที่อ่อนแอ ราคาน้ำมันที่ลดลง รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าน้อยกว่าค่าเงินของประเทศคู่แข่งด้านการส่งออก โดยมูลค่าการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ปรับลดลง 4.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1.06 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
                ? SET Index ปิดที่ 1,442.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.135% มูลค่าซื้อขาย 31,095.83 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยได้แรงซื้อในกลุ่มธนาคาร ขณะที่กลุ่มพลังงานยังคงถูกกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลงตามภาวะอุปทานส่วนเกิน นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังคงถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการอ่อนค่าของเงินบาท
                ? อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง 0.00 % ถึง +0.02% มูลค่าการซื้อขาย 60,770.93 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 3 เดือน มูลค่า 32,000 ล้านบาท และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 6 เดือน มูลค่า 32,000 ล้านบาท

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (3 ส.ค. 58)
กลุ่มนักลงทุน                 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน      +1,346.33
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -80.39
นักลงทุนต่างชาติ    -1,429.69
นักลงทุนทั่วไป           +163.75
 
ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง


เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม  
                อีเมล์. reporter@efinancethai.com

61120
กูรูฟันธง"กนง."คงดอกเบี้ย** ชะลอบาทอ่อนค่าเร็ว หวั่นเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -4 ส.ค. 58 6:54: น.


นักวิเคราะห์ประสานเสียง กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ในการประชุม 5 ส.ค.นี้ เหตุเงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่าภูมิภาค การส่งออก-ลงทุนภาครัฐ มีโอกาสฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ลดทอนความจำเป็นในการใช้ดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ หวั่นเร่งลดดอกเบี้ยสวนทางเฟด กระทบเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนหนัก ด้านโบรกฯคาดเงินบาทส่อแววอ่อนค่าลงต่อเนื่อง สิ้นปีนี้แตะ 36 บาทต่อดอลล์ ปีหน้า 36.5 บาทต่อดอลล์
             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีกำหนดประชุมพิจารณาทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักให้ความเห็นตรงกันว่าการประชุมในครั้งนี้ กนง. อาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงแล้ว จนแตะระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ มากกว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค ขณะที่การส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเครื่องปีหลัง ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้
             อย่างไรก็ตาม มีโอกาสพอสมควรที่ กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เหลือ 1.25% เพื่อเป็นมาตรการเสริมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังต้องเผชิญปัญหาภัยแล้ง รวมถึงปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันโลกตกต่ำ และมาตรการดูและด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าของไทยที่ล้วนแต่กดดันความสามารถในการส่งออกของไทยในระยะที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันมีมุมมองว่า หาก กนง.ต้องการลดดอกเบี้ย ควรดำเนินการในการประชุมรอบนี้ เพราะหากไปปรับลดในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 16 ก.ย.58 ก็จะตรงกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้นโยบายการเงินของไทยและสหรัฐฯสวนทางกันชัดเจน และอาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย(Fund Flow)ให้มีความผันผวนมากขึ้น
 
*** ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ฟันธง กนง.คงดอกเบี้ย
             ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า เป็นอีกครั้งที่ กนง.มีความยากลำบากในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย เนื่องจากเหตุผลสนับสนุนการ ?คง? อัตราดอกเบี้ยนโยบาย มีน้ำหนักไม่หนีไปจากทางเลือกในการ ?ลด? อัตราดอกเบี้ยนโยบายมากนัก ดังนั้น กนง.อาจเลือก ?คง? อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ต่อเนื่อง หากต้องการรอดูพัฒนาการทางเศรษฐกิจอีกระยะหนึ่ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ
             ประการแรก เงินบาทได้อ่อนค่าลงค่อนข้างมากในระยะที่ผ่านมา โดยนับจากช่วงที่ กนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนมีนาคม 58 เงินบาทได้อ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 7% และปัจจุบัน ได้อ่อนค่านำเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งเมื่อประกอบกับพัฒนาการของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวในจังหวะที่เร่งขึ้น หลังสถานการณ์ความกังวลต่อประเด็นกรีซได้คลี่คลายลง ก็น่าจะช่วยพยุงให้การส่งออกไทยทยอยปรับดีขึ้นได้บ้างในช่วงเดือนข้างหน้านี้
             ขณะที่ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม จะไม่เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงเร็วจนเกินไป และมีผลทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนกว่าเงินสกุลภูมิภาค (ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาความผันผวนของค่าเงินบาทปรับเพิ่มขึ้นจาก 5.5% ในช่วงต้นเดือน ก.ค. 58 เป็น 7.5% ณ วันที่ 3 ส.ค. 58 อันเป็นการปรับขึ้นที่สูงกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ) ซึ่งเป็นประเด็นเชิงเสถียรภาพที่ กนง.ให้น้ำหนักเช่นเดียวกัน
ประการที่สอง ภาครัฐคงจะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายอย่างเต็มกำลังในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 58 ในเม็ดเงินที่ยังเหลืออีกกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่านอกจากจะเป็นไปตามแผนที่แต่ละกระทรวงผูกพันไว้แล้ว ก็ยังน่าจะใช้รองรับการเยียวยาเกษตรกรและผู้ประสบภัยแล้ง ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ การหมุนของเม็ดเงินจากภาครัฐลงสู่ระบบเศรษฐกิจดังกล่าว คงจะช่วยฟื้นฟูการใช้จ่ายและลงทุนของภาคเอกชนได้ส่วนหนึ่ง
             ดังนั้น ภายใต้มุมมองดังกล่าว กนง.จึงอาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ก่อน เพื่อให้อีกสองแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เหลือ เป็นแกนหลักในการผลักดันการใช้จ่ายในประเทศในระยะนี้ ขณะที่ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2558 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)จะมีการรายงานข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 2/2558 ซึ่งจะช่วยยืนยันความเหมาะสมของท่าทีเชิงนโยบายในปัจจุบัน และที่ควรจะดำเนินการเพิ่มเติมในอนาคตได้ชัดเจนขึ้น ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามากที่สุดเมือเทียบกับประเทศต่างๆ นับตั้งแต่ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน มี.ค. 58 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
 
*** ไม่ปิดโอกาส "เซอร์ไพรส์"หั่นดอกเบี้ย
             อย่างไรก็ตาม "ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" มองว่า ทางเลือกในการปรับ ?ลด? อัตราดอกเบี้ย ในการประชุมรอบนี้ก็มีความเป็นไปได้ เพื่อเป็นมาตรการเสริมทัพในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ท่ามกลางหลายปัญหาที่รุมเร้าชัดเจนขึ้นจากการประชุมครั้งก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภัยแล้ง รวมถึงปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันโลกที่ตกต่ำ และมาตรการดูและด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าของไทยที่ล้วนแล้วแต่กดดันความสามารถในการส่งออกของไทยในระยะที่เหลือของปีนี้
             ทั้งนี้ การประชุม กนง.ในรอบนี้จะเป็นรอบสุดท้าย ก่อนที่เฟดอาจพิจารณาปรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายน ซึ่งถ้าหากเฟดเลือกขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริงตามที่ตลาดคาดการณ์ ก็จะทำให้เงินบาทผันผวนแรงขึ้นตามจังหวะการทยอยลดพอร์ตสินทรัพย์สกุลเงินบาทของนักลงทุนต่างชาติ อันจะทำให้การผ่อนคลายนโยบายการเงินของไทยในระยะหลังจากนั้น เผชิญโจทย์เชิงเสถียรภาพที่ซับซ้อนขึ้นอย่างยากจะหลีกเลี่ยง
             จริงอยู่ว่า การทำงานของกลไกการส่งผ่านของการลดอัตราดอกเบี้ยไปสู่อัตราดอกเบี้ยตลาดและสถาบันการเงินในจังหวะนี้ อาจไม่ได้เห็นผลในทันที ท่ามกลางต้นทุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ ขณะที่การปล่อยสินเชื่อที่ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ทว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ต่ำลง คงเล็งผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจที่ดีกว่า ผ่านแรงส่งของเงินบาทที่จะทยอยอ่อนตัวลงอีก ซึ่งจะหนุนกิจกรรมภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศที่ยังไม่น่ากังวล และความมั่นคงเชิงเสถียรภาพต่างประเทศของไทยที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ดังจะเห็นได้จากระดับทุนสำรองต่างประเทศของไทยที่ยังมีปริมาณสูงกว่าภาระผูกพันระยะสั้น (เป็นผลรวมของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น มูลค่าการนำเข้าเฉลี่ย 3 เดือน และการหนุนหลังธนบัตรที่ออกใช้หมุนเวียน) ถึงกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท)
             โดยสรุปแล้ว ด้วยเงื่อนเวลาของจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่กำลังงวดเข้ามาทุกที ในขณะที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญคลื่นลมแรงหลายด้านพร้อมๆ กันนั้น ทำให้การตัดสินใจเชิงนโยบายของ กนง.ในรอบนี้มีความท้าทายมากกว่าหลายรอบก่อนๆ หน้า
             กระนั้นก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า กนง.สามารถเลือก ?คง? อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ไว้ที่ระดับเดิมได้ เพื่อรอความชัดเจนของภาพเศรษฐกิจโดยเฉพาะจากการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2558 ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ตลอดจนการเดินหน้ามาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายอย่างเต็มกำลังในช่วงโค้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 58 และผลของค่าเงินบาทต่อการส่งออก โดยที่อาจต้องเผื่อแนวทางเสริมรองรับไว้ หากสุดท้ายแล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ยังไม่ดีขึ้นชัดเจนตามที่คาดหวัง
             ทั้งนี้ แม้ กนง. จะยังสามารถเลือกปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อยู่ แต่ด้วยภาพที่ เฟดอาจเริ่มจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว ก็อาจลดทอนน้ำหนักและประโยชน์จากการปรับอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาดังกล่าวลงได้
 
*** ทิสโก้ คาดกนง.ตรึงดอกเบี้ยที่ 1.5% ตลอดปี-บาทอ่อนแตะ 36 บาทต่อดอลล์
             ด้านบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ คาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ในการประชุมวันที่ 5 ส.ค.นี้ เนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ชี้ว่า GDP ไตรมาส 2/58 จะขยายตัวราว 3%YoY/0.8% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจากการนำเข้าที่หดตัวแรง ช่วยหนุนการส่งออกสุทธิ ด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่แล้ว การลงทุนทรงตัวในระดับต่ำแต่มีแนวโน้มที่สดใสขึ้น และภาคการท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่าจะช่วยลดความต้องการที่จะลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทิสโก้มองว่าเงินบาทจะแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 58 และอ่อนค่าลงต่อสู่ 36.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯในปลายปี 59 ทั้งนี้จากปัจจัยที่กล่าวข้างต้น มองว่ามีโอกาสน้อยที่จะเห็น GDP ไตรมาส 2 และ 3 หดตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ดังนั้น กนง. น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตลอดปี 58
 
*** เอเชีย เวลท์ เชื่อ กนง.คงดอกเบี้ยรอบนี้-แต่อาจปรับลดรอบหน้า
             นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้คือการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ ซึ่งในมุมมองของ บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่า กนง. จะยังไม่ลด เนื่องจากปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าลงมากว่า 4% จาก 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็น 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ยตอนนี้ จะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก ซึ่ง กนง.น่าจะดูผลของการลดดอกเบี้ยคราวก่อนและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลต่อเศรษฐกิจ ก่อนที่จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

*** ดีบีเอสฯชี้ กนง.ควรลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
             บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอสวิคเคอร์ส ประเมินว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% จากปัจจุบันที่ 1.50% เป็น 1.25% แล้วทรงไปถึงสิ้นปีนี้ โดยการปรับลงอาจจะเป็นในการประชุมครั้งนี้(5 ส.ค.58)เลย เพราะหากมีการปรับลดในการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 16 ก.ย.58 ก็จะตรงกับการประชุมเฟด ที่มีโอกาสที่ทางฝั่งสหรัฐจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงินของไทยและสหรัฐก็จะสวนทางกันอย่างชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow) ให้มีความผันผวนมากขึ้น
             สำหรับหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น ธนาคารพาณิชย์, ที่พักอาศัย ฯลฯ เห็นว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจได้รับผลกระทบทางลบระยะสั้นบ้าง แต่ไม่มาก เพราะคาดว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแค่บางประเภทเพื่อรักษา NIM ส่วนกลุ่มที่พักอาศัย ก็อาจได้รับผลดีจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นไม่มาก เพราะความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังต่ำและธนาคารก็ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อที่พักอาศัย


เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม  
                อีเมล์. reporter@efinancethai.com


61121

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 สิงหาคม 2558 07:48:10 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ส.ค.2558
 
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค.และการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 เดือน นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง และส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย



 
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 สิงหาคม 2558 07:48:10 น.
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ส.ค.2558
 
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค.และการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 เดือน นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง และส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย
 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,598.20 จุด ลดลง 91.66 จุด หรือ -0.52% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,115.38 จุด ลดลง 12.90 จุด หรือ -0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,098.04 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือ -0.28%
 
-- -ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทรายใหญ่ รวมถึงไฮเนเกนส์ และคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นกรีซ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 399.44 จุด
 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,120.52 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +0.75% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,443.72 จุด เพิ่มขึ้น 134.73 จุด หรือ +1.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,688.62 จุด ลดลง 7.66 จุด หรือ -0.11%
 
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การชะลอตัวลงของภาคการผลิตจีนอาจจะส่งผลให้จากจีนอุปสงค์ปรับตัวลดลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 7.66 จุด หรือ 0.11% ที่ 6,688.62 จุด
 
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาค การเกษตรเดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้
 
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ระดับ 1,089.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 23 เซนต์ ปิดที่ 14.515 ดอลลาร์/ออนซ์
 
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 17.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 967.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 7.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 603.20 ดอลลาร์/ออนซ์
 
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนก.ค. หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มโอเปกยืนยันว่า โอเปกจะไม่ลดกำลังการผลิต แม้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นก็ตาม
 
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
 
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 2.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
 
-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่าข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งในสัปดาห์นี้จะเป็น ปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
 
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0949 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.95 เยน จาก 123.75 เยน
 
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,115.38 จุด                      ลดลง 12.90 จุด     -0.25%
 
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,598.20 จุด                       ลดลง 91.66 จุด     -0.52%
 
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,098.04 จุด                      ลดลง 5.80 จุด      -0.28%
 
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,688.62 จุด                    ลดลง 7.66 จุด      -0.11%
 
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,443.72 จุด                        เพิ่มขึ้น 134.73 จุด   +1.19%
 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,120.52 จุด                      เพิ่มขึ้น 37.91 จุด    +0.75%
 
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,524.41 จุด                        ลดลง 140.93 จุด    -1.63%
 
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,548.11 จุด                    ลดลง 37.13 จุด     -0.18%
 
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,008.49 จุด                      ลดลง 21.67 จุด     -1.07%
 
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,664.30 จุด           ลดลง 17.40 จุด     -0.31%
 
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,679.30 จุด              ลดลง 19.90 จุด     -0.35%
 
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,622.91 จุด                   ลดลง 40.82 จุด     -1.11%
 
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,573.26 จุด               เพิ่มขึ้น 23.26 จุด    +0.31%
 
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,411.42 จุด                         ลดลง 224.86 จุด    -0.91%
 
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,800.18 จุด         ลดลง 2.35 จุด      -0.05%
 
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,744.19 จุด                    เพิ่มขึ้น 21.05 จุด    +1.22%
 
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,192.79 จุด                    ลดลง 9.71 จุด      -0.30%
 
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,187.06 จุด                      เพิ่มขึ้น 72.50 จุด    +0.26%



อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--


61122

สรุปราคาปิดตลาด ยางตลาดล่วงหน้า ประจำวัน จันทร์ ที่ 3  สิงหาคม  2558

เปรียบเทียบเปอเซนต์ราคายาง RSS3 ตลาดล่วงหน้า(ราคาปิดตลาด)
TOCOM Day ราคา Settle ลดลง -2.95%
SHFE ปิดตลาด  ลดลง -2.26%
AFET ปิดตลาด  ลดลง -0.56%
SICOM  ราคาลดลง -3.64 %

รายละเอียดการปิดตลาดต่างๆมีดังนี้...
=========================
ราคาปิดตลาด TOCOM ช่วง Day Session


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 16,704 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ตัวแทนตลาด ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด 10,172 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 202.90 เยน โดยราคาเปิด  ลดลง -0.50 เยน(-0.25%)
ขึ้นไปสูงสุด 203.20 เยน โดยราคาสูงสุด  ลดลง -0.20 เยน(-0.10%)
ลงไปต่ำสุด 196.50 เยน โดยราคาต่ำสุด  ลดลง -6.90 เยน(-3.39%)
ปิดตลาดที่ 197.5 เยน โดยราคาปิด  ลดลง -5.9 เยน(-2.900688299%)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) 6.7 เยน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด) -5.4เยน
ส่วนราคา Settle อยู่ที่197.4 เยน
ราคา Settle ลดลง -6 เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -2.949852507%
เทียบจากราคา(Settle)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)55.74576 บาท/กก. ลดลง -1.6944บาท/กก. และ หากคำนวนจากเยนญี่ปุ่นเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย) 1.58949996 ดอลลาร์/กก.ลดลง -0.048313069 ดอลลาร์/กก.
สัญญา(TOCOM)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 29144 สัญญา ปัจจุบัน 27432 สัญญา  ลดลง -1712 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2824 บาท/เยนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ = 124.19 เยน)


AFET ปิดตลาด ยาง RSS3 


ยาง RSS มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น213 สัญญา
ราคาเดือน ตัวแทนตลดา ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น117 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่55.00บาท/กก. ราคาเปิด ลดลง -0.8 บาท/กก.
ขึ้นไปสูงสุดที่55.00บาท/กก. ราคาสูงสุด ลดลง -0.8 บาท/กก.
ลงไปต่ำสุดที่ 54.35บาท/กก. ราคาต่ำสุด  ลดลง -1.45 บาท/กก.
ราคาสูงสุดกับต่ำสุดต่างกัน 0.65 บาท
ปิดตลาดที่54.8บาท/กก.คิดเป็นราคาดอลลาร์ = 1.562856491 ดอลลาร์/กก. (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 35.064 บาท/ดอลลาร์)
ราคา ลดลง -1 บาท/กก. (หรือเปลี่ยนแปลง -0.028519279 ดอลลาร์/กก.)
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -0.558%
สัญญา(AFET)ที่เปิดสถานะ(OI)งวดก่อน1523 สัญญา ปัจจุบัน 1574 สัญญา  เพิ่มขึ้น 51 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน

ราคาปิดตลาด(Close)ยางเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน(SHFE)


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น703834 สัญญา *** Volume คือ จำนวนสัญญาที่มีการจับคู่ซื้อขายกันในแต่ละวัน
ราคาเดือนก.ย. 2015ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น579240 สัญญา
เปิดซื้อขายกันที่ 12655 หยวน/ตัน ราคาเปิดตลาดเปลี่ยนแปลง  ลดลง -40 หยวน/ตัน  หรือ -0.315084679%
ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 12800 หยวน/ตัน ราคาสูงสุดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 105 หยวน/ตัน  หรือ 0.8203125%
ลงไปต่ำสุดของวันที่ 12305 หยวน/ตัน ราคาต่ำสุดเปลี่ยนแปลง  ลดลง -390 หยวน/ตัน  หรือ -3.169443316%
และมาปิดที่ 12415 หยวน/ตัน ราคาปิดเปลี่ยนแปลง ลดลง -280 หยวน/ตัน  หรือ -2.255336287%
 ***ส่วนต่างคำนวณจาก(ราคาปิด)ลบ(ราคาSettleงวดก่อน)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) ห่างกัน495 หยวน/ตัน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด)  ลบ -240 หยวน/ตัน
ส่วนราคา settle ของยางเซี่ยงไฮ้ SHFE เดือนส่งมอบ42370 อยู่ที่ 12570หยวน/ตัน ลดลง-125 หยวน/ตัน หรือ -0.984639622%
ราคาปิดและราคาSettleเท่ากัน-125 หยวน
เทียบจาก(ราคาปิด)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)70.10315474บาท/กก. ลดลง -1.581061887บาท/กก. และ หากคำนวนจากหยวนเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)1999.291431 ดอลลาร์/ตัน คิดเป็นกิโลกรัม =1.999291431 ดอลลาร์/กก. เปลี่ยนแปลง ลดลง -45.09074512
สัญญา(SHFE)ที่เปิดสถานะ(OI)ก่อนหน้านี้233026สัญญาสัญญาที่เปิดสถานะ(OI)วันนี้233582สัญญา เพิ่มขึ้น 556สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท=5.646649597บาท/หยวนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ =6.2097หยวน)*ที่มา Bloomberg

ราคาปิดตลาดยาง SICOM ประเทศสิงค์โปร์




ราคายางRSS3 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่156 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -2.3 เซนต์สหรัฐ
เปิดซื้อขายที่156 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -2.30 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด156 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดลดลง -2.30 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 156 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -2.30 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 461 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคารมแผ่นได้ในกรอบ 45-49 บาท เฉลี่ย 47 บาท


ราคายางTSR20 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่137.8 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -1 เซนต์สหรัฐ
เปิดซื้อขายที่138.5 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -0.30 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด139 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 134.8 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -4 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 2823 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคาเศษยางได้ในกรอบ 36-42 บาท เฉลี่ย 39 บาท


หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle


=====================================================================
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61123

ราคาปิดตลาดยาง SICOM ประเทศสิงค์โปร์ ประจำวัน จันทร์ ที่ 3สิงหาคม2558 ราคายาง RSS3 ราคาเดือนส.ค. ราคาลดลง -2.3เซนต์สหรัฐ ปิดที่156  เซนต์สหรัฐ




ราคายางRSS3 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่156 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -2.3 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ -3.64 %
เปิดซื้อขายที่156 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -2.30 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด156 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดลดลง -2.30 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 156 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -2.30 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 461 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคารมแผ่นได้ในกรอบ 45-49 บาท เฉลี่ย 47 บาท


Contract MonthLastChg From Prev SettleBidAskOpenHighLowVolOpen IntSettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
Eก.ย.-15156-2.3154.1155.915615615696400-158.354.70-0.81-1.45%
Eต.ค.-15155.6-3.4154.1158155156153.312336-15954.56-1.19-2.14%
Eพ.ย.-15156-3.5152156156.8156.81566277-159.554.70-1.23-2.19%
Eธ.ค.-15156-4156156.8157157153.598702-16054.70-1.40-2.50%
Eม.ค.-16156.5-3.8156.5157158158155162334-160.354.88-1.33-2.37%
Eก.พ.-16157-4156.5157.915915915587249-16155.05-1.40-2.48%
Eมี.ค.-16--156----030-161.80000
Eเม.ย.-16--156----0375-163.50000
Eพ.ค.-16--158----0579-164.30000
Eมิ.ย.-16-------0479-165.30000
Eก.ค.-16-------0347-1660000
Eส.ค.-16-------00--0000
total
461
4108


ราคายางTSR20 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่137.8 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -1 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ -1.39 %
เปิดซื้อขายที่138.5 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -0.30 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด139 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 134.8 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -4 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 2823 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคาเศษยางได้ในกรอบ 36-42 บาท เฉลี่ย 39 บาท


Contract MonthLastChg From Prev SettleBidAskOpenHighLowVolOpen IntSettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
Eก.ย.-15137.8-1136.5137.8138.5139134.84654,154-138.848.32-0.35-0.72%
Eต.ค.-15138.4-0.8136.8138.5138.8139.4135.67155,601-139.248.53-0.28-0.57%
Eพ.ย.-15138.7-1.3138.5138.8139.2139.4135.76366,573-14048.63-0.46-0.93%
Eธ.ค.-15139-1.5139139.5140140136.55033,864-140.548.74-0.53-1.07%
Eม.ค.-16139-1.9137.9139.4140.4140.8136.83302,693-140.948.74-0.67-1.35%
Eก.พ.-16139.7-2.2137.5-139.5139.7138931,203-141.948.98-0.77-1.55%
Eมี.ค.-16139.6-2.9-141139.6139.6139.661,029-142.548.95-1.02-2.04%
Eเม.ย.-16140.3-3--140.3140.3140.35705-143.349.19-1.05-2.09%
Eพ.ค.-16142-2.1-142.5141.514214058415-144.149.79-0.74-1.46%
Eมิ.ย.-16141.3-3.6--140.8141.3140.810253-144.949.55-1.26-2.48%
Eก.ค.-16143.8-2--143.9143.9143.82188-145.850.42-0.70-1.37%
Eส.ค.-16--143.3145---00--0000
total
2823
26,678


หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle




จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61124

TOCOM ปิดตลาดช่วง Night Session  ประจำวัน จันทร์ ที่ 3 สิงหาคม 2558ม.ค.-2016 เพิ่มขึ้น 1.1เยน  ปิดที่198.50เยน ปริมาณ 1,116 สัญญา
                                                                                                                                                               
มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น1,748 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ม.ค.-2016ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด1,116 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 197.40 เยน โดยราคาเปิดเพิ่มขึ้น0.00เยน
ขึ้นไปสูงสุด 198.90 เยน โดยราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น1.50เยน
ลงไปต่ำสุด 197.00 เยน โดยราคาต่ำสุดลดลง-0.40เยน
ปิดตลาดที่ 198.50 เยน โดยราคาปิดเพิ่มขึ้น1.10เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ 0.56%
คิดเป็นเงินไทย 56.06บาท/กก.เพิ่มขึ้น 0.31บาท
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2824บาท/100เยน)
หากคำนวณจากราคาเปิดราคา  เพิ่มขึ้น 1.10 เยน
ราคาต่ำสุดและราคาสูงสุด บวกลบกันแล้วห่างกัน 1.90 เยน


หมายเหต : ราคาปิดช่วง Night Session ดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวตั้งในการคำนวณราคาในวันถัดไป การคำนวณราคาในวันถัดไปจะใช้ราคา settement price ของช่วง Day session เท่ากับ 197.40 เยน


MonthLast Settlement PriceOpenHighLowCloseChangeVolumeSettlement%Changeคิดเป็นเงินไทย(บาท/กก.)เปลี่ยน(บาท)
Aug-15186.7188.3188.3188.3188.31.61-
0.86
53.18
0.45
Sep-15189.51911911911911.52-
0.79
53.94
0.42
Oct-15191.7191.8193.5191.8193.51.821-
0.94
54.64
0.51
Nov-15193.4193.1194.2193.1194.20.827-
0.41
54.84
0.23
Dec-15195.3195.5197195.1196.71.4581-
0.72
55.55
0.40
Jan-16197.4197.4198.9197198.51.11,116-
0.56
56.06
0.31
Total 1,748


จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61125
ราคาเฉลี่ยซื้อน้ำยางสด ณ หน้าโรงงาน วันที่  3 / 8 /2558 
จังหวัดราคาเฉลี่ย ณ โรงงาน (+/-)ราคาท้องถิ่น
สงขลา45ปรับลดลง-1.00 44
สุราษฏร์ธานี45.5ปรับลดลง-0.50 44
นครศรีธรรมราช45.5ปรับลดลง-0.50 44


จัดทำโดย www.rakayang.net

หน้า: 1 ... 4073 4074 [4075] 4076 4077 ... 5659