แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Rakayang.Com

หน้า: 1 ... 3708 3709 [3710] 3711 3712 ... 5491
55636
บริษัท อินฟินิตี้ เวลท์ ฟิวเจอร์ส จำกัด : รายงานภาวะยาง RSS3 รายวัน  15 ธันวาคม 2558

แนวโน้มวันนี้ :ทิศทางแกว่งในกรอบแคบรอความชัดเจนนโยบายการเงินสหรัฐฯ ประเมินกรอบ 48.5-50 บาท


ปัจจัยพื้นฐาน :ราคายาง(RSS3)วานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยสัญญาที่เป็นเดือนอ้างอิงไม่มีการจับคู่ราคาแต่ราคา Settlement Price ปรับตัวลดลง 0.2 บาท อยู่ที่48.8 บาท ภาพรวมตลาดเทรดกันด้วยวอลุ่มที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูความชัดเจนนโยบายการเงินสหรัฐซึ่ง FED มีกา หนดประชุมในวันที่ 15-16ธันวาคม 2558 อย่างไรก็ตามในภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวเป็นผลดีต่ออุปสงค์ยาง และราคาน้า มันที่ปรับเพิ่มเหนือระดับ 45 ดอลลาร์สหรัฐ/บารเรล์ ยังหนุนต่อราคายางธรรมชาติ อีกทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าเหนือระดับ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯยังช่วยกระตุ้นการส่งออกในภาพรวมและช่วยกระตุ้นราคาสินค้าส่งออกรวมถึง
ยางพารา ที่เป็นสินค้าเกษตร โดยเช้านี้ราคายางที่ตลาด TOCOM ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเหนือระดับ 166.5 เยน ขณะที่ราคายางตลาด SHANGHAI ปรับเพิ่มขึ้น
เหนือระดับ 10,300 หยวน

อย่างไรก็ตาม มีแรงกดดันจากปริมาณผลผลิตยางเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น หลังจากภาคใต้มีฝนลดลง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง ประกอบกับสต็อกยางจาก
ประเทศผู้ใช้ยางรายใหญ่ที่ยังมีอยู่มากส่งผลให้จีนไม่เร่งซื้อยาง โดยสต๊อกยางจีน ณวันที่ 14 ธันวาคม 2558 มีจา นวน 220,316 ตัน เพิ่มขึ้น 18,759 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.31 จากสต๊อกเดิมที่ 201,557 ตัน ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2558


การวิเคราะห์(AFET) : จากกราฟรายวันดัชนียังอยู่ในสัญญาณทางเทคนิคที่ดี โดยยังยืนเหนือแนวรับที่เส้น SMA20 วันได้ และดัชนียังอยู่ในรูปแบบกลับตัว Double Bottom ซึ่งมองว่าถ้าไม่หลุดแนวรับที่ 48.5 บาทลงมา ก็น่าเห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านสาคัญที่ 52 บาท ประเมินแนวรับแรกที่ 48.5 บาท มีแนวรับถัดมาที่ 47 บาท มีแนวต้านแรกที่ 50 บาท มีแนวต้านสาคัญที่ 52 บาท
ผู้ที่มีสถานะซื้อ: ถือ หากดัชนีไม่หลุดแนวรับที่ 48.5 บาท
ผู้ที่มีสถานะขาย: ล้างสถานะหากดัชนีผ่านแนวต้านที่ 52 บาท
ผู้ที่จะเปิดสถานะใหม่: เปิดสถานะซื้อหากดัชนียืนเหนือแนวรับที่ 48.5 บาท

การวิเคราะห์(TOCOM) :
จากกราฟรายวันดัชนียังอยู่ในสัญญาณทางเทคนิคที่ดี โดยยังยืนเหนือแนวรับที่เส้น SMA20 วันได้ และดัชนียังอยู่ในรูปแบบกลับตัว Double Bottom ซึ่งมองว่าถ้าไม่หลุดแนวรับที่ 163 เยนลงมา ก็น่าเห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านสาคัญที่ 175 และ 180 เยน ประเมินแนวรับแรกที่ 165 เยน มีแนวรับสาคัญที่ 163 เยน มีแนวต้านที่ 170 เยน แนวต้านสาคัญที่ 180 เยน
การวิเคราะห์(SHFE) : จากกราฟรายวันดัชนีเกิดสัญญาณ GOLDEN CROSS ในระยะสั้นโดยผ่านแนวต้านที่เส้น SMA10 และ SMA20 วัน ประกอบกับ SMA10 วันตัดขึ้นเหนือ SMA20 วัน ทาให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 10,500 และ 11,000 หยวน ประเมินแนวรับแรกที่ 10,300 หยวน และมีแนวรับถัดมาที่ 10,000 หยวน ซึ่งจะมีแนวต้านแรกที่ 10,500 หยวน และมีแนวต้านถัดมาที่ระดับ
11,000 หยวน

ข่าวและปัจจัยที่มีผลกระทบ :ที่มา : สถาบันวิจัยยาง , RYT9
1) อินเดียเผยดัชนี CPI พุ่ง 5.41% ในเดือนพ.ย. สูงสุดรอบ 5 เดือน
2) ภาวะตลาดน้ามัน: แรงซื้อเก็งกาไร หนุนน้ามัน WTI ปิดบวก 69 เซนต์
3) ภาวะตลาดทองคานิวยอร์ก: ทองปิดร่วง 12.3 ดอลล์ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย
4) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 103.29 จุด หลังราคาน้ามันฟื้นตัว
5) ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นเหมืองแร่,หุ้นพลังงานร่วง
6) ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับตัวขึ้น ก่อนเปิดฉากประชุมเฟด
7) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว:นิกเกอิเปิดลบ 14.38 จุด ขณะนักลงทุนจับตาการประชุมเฟด
8.) ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 78.72 จุด จากแรงเทขายหุ้นพลังงาน


ขอบคุณบทวิเคราะห์จาก บริษัท อินฟินิตี้ เวลท์ ฟิวเจอร์ จำกัด สนใจลงทุนใ
นตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ติดต่อ โทร 02-6543163-70

55637
ไทยตอนบนมีฝน ก่อนอุณหภูมิจะเริ่มลดลง ขณะภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ธ.ค. 2558 06:55



 
 เหนือ-อีสาน มีฝน คาดอุณหภูมิจะเริ่มลดลงตั้งแต่พรุ่งนี้ เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีน จะเคลื่อนลงมาปกคลุม ส่วนภาคใต้ฝนจะตกเพิ่มขึ้น พายุไต้ฝุ่น "เมอโลร์" จากฟิลิปปินส์ ยังไม่มีผลกระทบกับไทย
วันที่ 15 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับเดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า สถานการณ์พายุไต้ฝุ่น "เมอโลร์" ตอนนี้เป็นไต้ฝุ่นระดับที่ 2 มีความเร็วลมศูนย์กลาง 167 กม./ชม. มีศูนย์กลางอยู่ในอ่าวฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย 1,975 กม. พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก มุ่งสู่เมืองบาทางกัส ทางทิศใต้ของกรุงมะนิลา ด้วยความเร็ว 14 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะถึงเมืองบาทางกัสในช่วงบ่ายวันนี้ แล้วจะลดความเร็วลมศูนย์กลางลงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในค่ำวันนี้ และเป็นพายุโซนร้อนในบ่ายวันที่ 16 ธันวาคม 2558 ก่อนที่จะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้เช้าวันที่ 16 ธันวาคม 2558 และมีแนวโน้มจะมีทิศทางการเคลื่อนที่ผ่านทางปลายแหลมญวนต่อไป แต่ขณะนี้พายุลูกนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศของประเทศไทย
ส่วนประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนธันวาคม อุณหภูมิอยู่ที่ 2 ถึง 21 องศาเซลเซียส ทางตอนเหนืออากาศจะหนาวเย็นลง ท้องฟ้าแจ่มใส ประกอบกับมีเมฆในบางส่วน ทางตอนกลางไปจนถึงตอนใต้มีสภาพอากาศที่ไม่แตกต่างกันนัก โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าแจ่มใสสลับกับมีเมฆมาก และอาจมีฝนตกเล็กน้อยเท่านั้นในบางพื้นที่ ขณะที่สหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษ ช่วงปลายปี อากาศจะหนาวมาก และมีความชื้นสูง อุณหภูมิอยู่ที่ 2 ถึง 14 องศาเซลเซียส ตอนเหนืออากาศจะหนาวเย็น ประกอบกับมีฝนตก ทางฝั่งตะวันตกมีลมแรงประกอบกับมีฝนตก ส่วนทางตอนกลางและตอนใต้มีหมอกหนา
ขณะที่ ประเทศฝรั่งเศสกันบ้าง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 13 องศาเซลเซียส ทางตอนเหนือมาจนถึงตอนกลางอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าแจ่มใส มีแดดจัดสลับกับมีเมฆมาก ส่วนทางตอนใต้มีเมฆมาก และมีฝนตกเล็กน้อยในบางพื้นที่ ปิดท้ายกันด้วยสภาพภูมิอากาศของประเทศสหรัฐอเมริกา กันบ้างครับ ช่วงนี้อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ -1 ถึง 21 องศาเซลเซียส ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักโดยเฉพาะบริเวณ วอชิงตัน ดี.ซี.และฟลอริดา ส่วนทางภาคตะวันออกกลางและภาคใต้ตอนเหนือ ท้องฟ้าแจ่มใสดี สลับกับมีเมฆมากในบางพื้นที่
ส่วนสภาพอากาศเมืองไทยวันนี้ พบว่า มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะเคลื่อนลงมาปกคลุมบริเวณภาค อีสาน ภายในวันนี้ และจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ ตั้งแต่ในช่วงวันพรุ่งนี้ไปจนถึงสุดสัปดาห์ บริเวณประเทศไทยตอนบนอาจจะมีฝนเกิดขึ้นบางพื้นที่ หลังจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ยังคงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ซึ่งก็จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ส่วนภาพถ่ายดาวเทียมเช้านี้ก็พบว่า บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีท้องฟ้าโปร่ง โดยมีเมฆชั้นต่ำเล็กน้อย แต่ไม่พบกลุ่มเมฆฝนในพื้นที่ใด ส่วนในบริเวณภาคใต้ วันนี้ยังคงมีเมฆเป็นส่วนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และพบกลุ่มเมฆฝนบริเวณชายฝั่งอันดามัน
คาดการณ์ปริมาณฝนในวันนี้ช่วงสาย พบกลุ่มฝนบริเวณตอนล่างของภาคใต้ที่จังหวัดพัทลุง สงขลา และยะลา ส่วนช่วงบ่าย มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ จังหวัดตรัง และสตูล ส่วนช่วงเย็นพบกลุ่มฝนตกเล็กน้อย ในบริเวณภาคเหนือตอนบน แถวจังหวัดน่าน และจะตกในบริเวณดังกล่าวไปจนถึงช่วงค่ำ
ภาพรวมสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้เป็นดังนี้
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเข้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส
 

55638
ข่าวทั่วไป / บทเรียนจากจีน
« เมื่อ: ธันวาคม 15, 2015, 08:37:09 AM »
บทเรียนจากจีน
พลวัต 2015
2015-12-15 06:59:00

วันเวลาที่เฟดกดดอกเบี้ยให้ต่ำ และพิมพ์ธนบัตรออกมาท่วมตลาดเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจที่พังทลายเพราะวิกฤตซับไพรม์เมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งตามหลักเศรษฐศาสตร์การเงินถือเป็นยุค "เงินต้นทุนต่ำ" (easy money) ที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคุ้นเคยมาจนกระทั่วดัชนีตลาดทำนิวไฮสวนทาง เศรษฐกิจต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 5 ปี กำลังจะสิ้นสุดเป็นทางการในวันพุธที่จะถึงนี้แล้ว ความหวั่นไหวของตลาด ทุนจึงเป็นเรื่องต้องทำความคุ้นเคยกันใหม่อย่างเลี่ยงไม่พ้น

ที่น่าสนใจคือยุคของเงินต้นทุนต่ำที่กำลังจะสิ้นสุดลง ถูกแทรกด้วยราคา น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่ย่ำแย่ลงอย่างรุนแรงเพราะจีนบริโภคสินค้า เหล่านี้น้อยลงมาก เป็นปัจจัยแทรกที่ยิ่งทำให้ตลาดแปรปรวนหนักกว่าปกติตามไป ด้วย

ก่อนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เพื่อประกาศการสิ้นสุดยุคของเงินต้นทุนต่ำ จีนได้แสดงเจตนาใหม่ว่า จะทำการ รับมือกับยุคใหม่นี้ด้วยมาตรการ 3 อย่างที่น่าสนใจคือ1) เปลี่ยนโครงสร้าง จากการพึ่งพาการผลิตอุตสาหกรรมพื้นฐาน และส่งออกไปเป็นการบริโภคภายใน และ อุตสาหกรรมใหม่ที่ยกระดับคุณภาพการผลิตมากกว่าพึ่งพาแรงงานราคาถูก 2) ใช้ นโยบายเศรษฐกิจด้านอุปทาน หรือ supply-sided economy ภายใต้หลักการใช้อุปทานสร้างอุปสงค์ 3) ทำให้ค่าหยวนซึ่งลอยตัวตาม สภาพเป็นจริงมากขึ้นในฐานะเงินสากล ถูกลงโดยเจตนาเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์ เพื่อรับมือกับการแข็งค่าของดอลลาร์ที่กำลังจะตามมา

นโยบายเศรษฐกิจเน้นอุปทานของจีนนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นแนวทางที่แตกต่างจากบริบทของสังคมทุนนิยมทั้งหลาย
นโยบายเศรษฐกิจเน้นอุปทานนั้น มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากเมื่อสหรัฐใน ยุคของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน นำเอามาใช้ในช่วงทศวรรษ 1980 ที่เรียกว่า เรแกนโนมิกส์

เรแกนโนมิกส์มีลักษณะเฉพาะ เนื่องจากต้องการแก้ปัญหา 2 ด้านพร้อมกันคือภาวะเงินเฟ้อพร้อมกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน (stagflation) ซึ่งไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีกระตุ้นอุปสงค์แบบเคนเซียน (Demand Side Economics) ดังนั้น การแก้ปัญหาที่ต่อมาถูกเรียกง่ายๆ โดยพอล ครุกแมนว่าเป็น "อาหารกลางวันฟรี" (free lunch economy) โดยเอาแนวคิดที่เรียว่า "อุ้มคนรวยช่วยคนจน" (trickle-down effect) มาใช้ ด้วยเน้นหนักที่มาตรการด้านภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเพิ่มผลผลิตมากขึ้น กระตุ้นการจ้างงานต่อเนื่อง อันเป็นแนวทาง "ใช้อุปทาน สร้างอุปสงค์"

โดยยกเลิกภาวะชะงักงัน และไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อด้วย
มาตรการทางภาษีแบบลดแหลก แจก แถม ปีละ 2.79 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลา 4 ปี ให้สิทธิพิเศษทางภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจต่อหน่วยผลิตให้เพิ่มการลง ทุน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเร่งลงทุน เพิ่มการจ้างงาน และเพิ่มกำลังซื้อในตลาด ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ทำให้ระดับรายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อลดลง ที่สำคัญ การลดภาษีที่ช่วงแรกทำให้รายได้รัฐลดลง จะย้อนกลับมาเป็นรายได้เท่าเดิมหรือมากขึ้นโดยปริยาย เป็นไปตามกฎเส้นโค้งของแลฟเฟอร์ (Laffer Curve)

การใช้มาตรการภาษีอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องเสริมด้วยมาตรการทางการ เงิน โดยเฟดในขณะนั้นตัดสินใจลดปริมาณเงินในท้องตลาดลงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เข้มงวด ผลลัพธ์คือ อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดพุ่งแรง และตามมาด้วยการแข็งค่า ดอลลาร์ทั่วโลก ที่ก่อให้เกิดวิกฤตราคาน้ำมันรอบที่ 2 ของโอเปกตามมาด้วย

ช่วงนั้น หากยังไม่ลืมกัน ฐานะการเงินการคลังของไทยถึงขั้นบอบช้ำรุนแรง เพราะเงินทุนไหลออก จนรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต้องลดค่าเงินบาทหลายครั้ง และยอมมอบตัวรับเงื่อนไขเงินกู้มหาโหดของกองทุน การเงินระหว่างประเทศถึง 2 ครั้ง พร้อมกับวิกฤตสถาบันการเงินกรณี "ทรัสต์4เมษายน2527" กับปัญหาเงินกู้ 1.14 ล้านล้านบาทอันลือลั่น

ความสำเร็จของเรแกนโนมิกส์ แม้จะไม่มากเหมือนราคาคุย แต่ก็มีส่วนทำให้ พรรครีพับลิกัน ครองอำนาจทางการเมืองในสหรัฐนานกว่า 12 ปี ก่อนเรแกนโนมิกส์ จะล่มสลายไปเพราะค่าดอลลาร์แข็งเกินไป
การที่จีนในยุค สี จิ้น ผิง-หลี่ เค่อเฉียง ประกาศจะนำเอานโยบายเศรษฐกิจ ที่เน้นอุปทานมาใช้เพื่อรักษาการเติบโตของจีดีพีปีละ 6.5% ใน 5 ปีข้าง หน้า จึงมีบริบทต่างจากสหรัฐในยุคเรแกนอย่างมาก เพราะจีนไม่ได้มีปัญหาภาวะ เศรษฐกิจชะงักงัน-ภาวะเงินเฟ้อ แต่อยู่ในช่วงของการปรับโครงสร้างทาง เศรษฐกิจจากการพึ่งพาแรงงานราคาต่ำการลงทุนเอกชน การบริโภค และการส่งออก มา เป็นเศรษฐกิจแบบใหม่ เพื่อก้าวข้าม"กับดักชาติรายได้ปานกลาง" ที่รบกวนชาติในเอเชียจำนวนมากยามนี้

คำถามสำคัญคือ "อาหารกลางวันฟรี" ของจีน จะใช้ได้ผลเหมือนของอเมริกันมากแค่ไหน โดยไม่มีการล้างผลาญทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากเกินขนาด เป็นโจทย์ที่ท้าทาย

ประเด็นสำคัญที่จีนต้องการแก้ปัญหาด้วยเศรษฐกิจเน้นอุปทานคือ การเคลื่อน ย้ายกระบวนการผลิตอุสาหกรรมที่ล้นเกินความต้องการของตลาด และจำนวนพนักงาน รัฐวิสาหกิจล้นเกินไปสู่คุณภาพใหม่เพื่อสร้างความคึกคักทางด้านผลิตภาพให้ กลไกเศรษฐกิจได้อย่างไร

แม้ว่ามาตรการทางการเงินที่ธนาคารกลางจีน ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากถึง6 ครั้งในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา จะเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจที่เน้นอุปทานที่ดูได้ผลดีในระยะ สั้น ดังจะเห็นจากตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายนที่ดีเกินคาด(ทำให้เฟดสบายใจ มากขึ้นในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้) แต่เป้าหมายหลักในระยะยาว ยัง คงเป็นเพียงการแก้ปัญหาฉาบหน้า เพราะปัญหาใหญ่กว่าที่ยังแก้ไม่ตกคือ การทำ ให้รัฐวิสาหกิจ มูลค่าทรัพย์สิน 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เทอะทะ และไร้ ประสิทธิภาพมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น
แรงผลักดันให้รัฐวิสาหกิจควบรวมกัน เพื่อเขย่าจำนวนคนล้นงานให้เหมาะ สม เป็นเรื่องยากลำบากมายาวนาน เพราะโยงเข้ากับการเมืองภายในของพรรค คอมมิวนิสต์จีน

ครั้งสุดท้ายที่มีการเขย่ารัฐวิสาหกิจจีนคือยุคนายกรัฐมนตรี จู หรง จี เมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องครึกโครมอย่างมากเพราะมีการปิด รัฐวิสาหกิจมากถึง 60,000 แห่ง และโละพนักงานมากถึง40 ล้านตำแหน่ง หลังจากนั้นก็แทบจะมีการทำน้อยมาก แต่ครั้งนี้ จำเป็นต้องกระทำ อีกรอบหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่พ้นหากต้องการใช้นโยบายเศรษฐกิจเน้นอุปทานจริงจัง

การรีดไขมันของรัฐวิสาหกิจจีน จำเป็นต้องมีการจัดลำดับประสิทธิภาพของรัฐ วิสาหกิจทั้งระบบ เพื่อเร่งดำเนินการก่อนที่จะเป็นมะเร็งร้ายเรื้อรัง แต่ การดำเนินการดังกล่าวจำต้องอาศัยความสามารถที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในการ ดำเนินการ

เศรษฐกิจเน้นอุปทานของจีนในยุคสีจิ้งผิง-หลี่เค่อเฉียงจึงมีลักษณะจำเพาะต่างจากเรแกนโนมิกส์อย่างมีนัยสำคัญส่วนจะมีชะตากรรมอย่างไรเป็นเรื่องต้องพิสูจน์
บทเรียนจากจีนเช่นนี้ สะท้อนวิสัยทัศน์ผู้กุมอำนาจรัฐจีนได้ชัดเจนว่า มี จุดยืนที่แน่วแน่ในเรื่องการบริหารจัดการเพื่ออนาคตของรัฐได้ล่วงหน้า ชัดเจน ต่างจากกรณีของไทย ที่ทางตันของ "กับดักชาติรายได้ปานกลาง" กลับนำไปสู่การกระชับอำนาจของกองทัพที่ไม่รู้ชัดเจนว่า ทำไปเพื่อเป้าหมายใด นอกจากปกป้องสถาบัน และประโยชน์ของคนกลุ่มน้อยเท่านั้น

55639

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 07:46:51 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ธ.ค.2558
 
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติราคาพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,368.50 จุด พุ่งขึ้น 103.29 จุด หรือ +0.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,952.23 จุด เพิ่มขึ้น 18.76 จุด หรือ +0.38% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,021.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.48%
 
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากราคาหุ้นเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.8% ปิดที่ 349.54 จุด
 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,473.07 จุด ลดลง 76.49 จุด หรือ -1.68% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,139.34 จุด ลดลง 200.72 จุด หรือ -1.94% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,874.06 จุด ลดลง 78.72 จุด หรือ -1.32%
 
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำ
 
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 78.72 จุด หรือ 1.32% ที่ 5,874.06 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 และทำสถิติปรับตัวลดลงติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดในรอบ 10 วันนันตั้งแต่เดือนส.ค.
 
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงหลุด ระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้
 
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 36.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 37.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
 
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้
 
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 12.3 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ระดับ 1,063.40 ดอลลาร์/ออนซ์
 
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 18.9 เซนต์ หรือ 1.36% ปิดที่ 13.695 ดอลลาร์/ออนซ์
 
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 850.20 ดอลลาร์/ออนซ์
 
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 548.70 ดอลลาร์/ออนซ์
 
-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อ คืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากที่อ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
 
ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1000 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0994 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5141 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5229 ดอลลาร์สหรัฐ
 
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.83 เยน จาก 120.78 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9851 ฟรังก์ จาก 0.9820 ฟรังก์
 
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7245 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7191 ดอลลาร์
 
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,368.50 จุด                   เพิ่มขึ้น 103.29 จุด     +0.60%
 
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,952.23 จุด                  เพิ่มขึ้น 18.76 จุด      +0.38%
 
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,021.94 จุด                  เพิ่มขึ้น 9.57 จุด       +0.48%
 
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,874.06 จุด                ลดลง 78.72 จุด       -1.32%
 
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,139.34 จุด                    ลดลง 200.72 จุด      -1.94%
 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,473.07 จุด                  ลดลง 76.49 จุด       -1.68%
 
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,981.90 จุด       ลดลง 96.70 จุด       -1.90%
 
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,928.60 จุด          ลดลง 100.90 จุด      -2.01%
 
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,040.16 จุด                    ลดลง 75.73 จุด       -0.93%
 
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,883.42 จุด                ลดลง 347.06 จุด      -1.80%
 
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,927.82 จุด                  ลดลง 20.80 จุด       -1.07%
 
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,520.67 จุด               เพิ่มขึ้น 86.09 จุด      +2.51%
 
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,745.99 จุด           เพิ่มขึ้น 10.98 จุด      +0.16%
 
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,309.85 จุด                     ลดลง 154.20 จุด      -0.72%
 
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,374.19 จุด     ลดลง 19.33 จุด       -0.44%
 
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,815.04 จุด                ลดลง 19.59 จุด       -0.69%
 
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,629.96 จุด                ลดลง 10.18 จุด       -0.62%
 
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,150.35 จุด                  เพิ่มขึ้น 105.92 จุด     +0.42%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--




55640

ข้อมูลราคายางก้อนถ้วยของกลุ่มสหกรณ์ ภาคอีสาน ประจำวัน เสาร์ ที่ 14  ธันวาคม  2558



กลุ่มชาวสวนยางสกย.โพธิ์หมากแข้งยางพารา ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬยางก้อนถ้วยเปียกค้างคืน ราคา 20.00 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล (ไม่มีแจ้ง)  ปริมาณยาง   116000กก.


กลุ่มสี่แยกถ้ำดินพัฒนายางพารา ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬยางก้อนถ้วยเปียกไม่ค้างคืน (พักชั่วโมง) ราคา 18.25 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล (ไม่มีแจ้ง)  ปริมาณยาง   31560กก.


กลุ่มหนองหญ้าไซรวมยาง ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย จ.เลยยางก้อนถ้วยเปียกค้างคืน ราคา 19.82 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล (ไม่มีแจ้ง)  ปริมาณยาง   25000กก.


กลุ่มชาวสวนยางสกย.บ้านนาคำน้อยม.7 ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานียางก้อนถ้วยเปียกค้างคืน ราคา 19.05 บาท/กก.  ผู้ชนะประมูล (ไม่มีแจ้ง)  ปริมาณยาง   46000กก.




ที่มา ตลาดกลางยางพาราหนองคาย

เรียบเรียงโดย www.rakayang.net

55641

ภาวะยาง AFET: ราคาค่อนข้างนิ่ง-วอลุ่มน้อย รอติดตามผลประชุม FOMC-BOJ ในสัปดาห์นี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 17:13:20 น.

รายงานภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3) หลังปิดการซื้อขายวันนี้
 
มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 4.26 ล้านบาท มีปริมาณซื้อขายรวม 18 สัญญา ลดลงจากการซื้อขายครั้งก่อน 52 สัญญา
 
นายธนเสฎฐ์ ดีประเสริฐกุล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า วันนี้ราคายางค่อนข้างนิ่ง เมื่อวัน
 
ศุกร์ที่ผ่านมาราคายางพาราตลาดล่วงหน้า 3 ตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกัน โดย SHFE เซี่ยงไฮ้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนที่ TOCOM


ประเทศญี่ปุ่น และ AFET ปรับตัวลดลง ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่มากระตุ้นตลาด อีกทั้งมีแรงกดดันจากราคา WTI ที่ยังปรับตัวลงต่อและ
ค่าเงินเยนที่กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
 
สำหรับประเด็นสำคัญที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ คือ รอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคาร
 
กลางสหรัฐ (FOMC) ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและกรณีธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ ว่าจะมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นเพิ่ม
เติมหรือไม่
 
ขณะที่ตัวเลขสต็อกยางจีนประกาศ ณ วันที่ 11 ธ.ค.อยู่ที่ 220,316 ตัน เพิ่มขึ้น 18,759 ตัน (9.31%)
 
ทั้งนี้ ทิศทางราคางยาง AFET sideway ระหว่าง 50-48 บาท แนวต้าน 52/50 บาท แนวรับ 48.0/47.4/45.5
 
บาท ส่วน TOCOM หากมีการเด้งขึ้นมาแต่ถ้าไม่ผ่าน 170-175 ยังมองว่าลง ขณะที่ SHFE ถ้าขึ้นมาไม่ผ่าน 11000 คาดว่ายังลงต่อ
ส่วนปริมาณสัญญาซื้อขายคงค้าง(Open Interest) อยู่ที่ 2,218 สัญญญา ลดลง 12 สัญญา
ภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3)
 
เดือน           ราคาปิด          ราคาปิด           ปริมาณ
 
ครั้งก่อน            วันนี้          การซื้อขาย
 
JAN 16          44.50           44.00              4
 
FEB 16          45.50             -                0
 
MAR 16          46.40             -                0
 
APR 16          47.00           47.00              2
 
MAY 16          48.00             -                0
 
JUN 16          48.50           48.50             12
 
JUL 16          49.00             -                0
รวม      18
อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--



55642

ธนาคารกลางจีนชี้ปัจจัยพื้นฐานหยวนยังคงมีเสถียรภาพเมื่อเทียบตะกร้าเงิน


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 18:19:20 น.
 
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุในวันนี้ว่า ปัจจัยพื้นฐานของสกุลเงินหยวนยังคงมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินที่หยวนใช้อ้างอิง


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา PBOC ประกาศเปลี่ยนแปลงมาตรการในการบริหารจัดการค่าเงินหยวน โดยผ่อนคลายการผูกติดค่าเงินหยวนกับดอลลาร์ เพื่อหันไปอ้างอิงกับตะกร้าเงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินของประเทศคู่ค้าจำนวน 13 สกุล ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร และเยน
 
PBOC ระบุว่า ปัจจัยพื้นฐานของหยวน ได้แก่ การที่จีนมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูง, มีการเกินดุลการค้าจำนวนมาก, มีสินทรัพย์สกุลหยวนที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ, มีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศจำนวนมาก และมีสถานะทางการคลังที่แข็งแกร่ง
 
China Foreign Exchange Trading System (CFETS) ซึ่งอยู่ภายใตัการกำกับของ PBOC ได้เปิดตัวดัชนีคอมโพสิตสำหรับค่าเงินหยวนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยวัดค่าเงินหยวนเทียบกับตะกร้าเงินจำนวน 13 สกุล พร้อมกับการถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการค้าที่ประเทศเจ้าของสกุลเงินมีกับจีน
 
PBOC ระบุว่า มีเหตุผลมากกว่าในการวัดอัตราแลกเปลี่ยนของหยวนเทียบกับตะกร้าเงิน มากกว่าที่จะเทียบกับดอลลาร์เพียงสกุลเดียว แต่การกำหนดค่าหยวนเทียบกับตะกร้าเงิน ไม่ได้หมายความว่าจีนนำหยวนมาผูกติดกับตะกร้าเงินดังกล่าว
 
ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนของจีนได้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2554 เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ โดยปรับตัวลง 1.37% แตะ 6.4495 หยวนต่อดอลลาร์
 
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--



55643
International Rubber Price(ราคาเปรียบเทียบ FOB กรุงเทพ,อินโด,สิงคโปร์)ประจำวัน จันทร์ ที่ 14  ธันวาคม  2558
(USD/THB)
36.126
CATEGORY
IN USD(Bangkok)IN USD(Kuala lumpur)IN USD (Singapore)
PriceChange บาท/กก. PriceChange บาท/กก. PriceChange บาท/กก.
RSS-1
131.8-0.31     47.61
              -   
               -   
     -   
-
- -
RSS-2
130.15-0.28     47.02
              -   
               -   
     -   
-
- -
RSS-3
128.65-0.26     46.48
              -   
               -   
     -   
126.2
-0.51   45.59
RSS-4
127.8-0.29     46.17
              -   
               -   
     -   
-
- -
RSS-5
126.55-0.27     45.72
              -   
               -   
     -   
-
- -
SMR-20
         117.51 0.00     42.45 116.65
0.15
42.14
116.2
-0.08   41.98
Latex(60% drc)
           85.12 0.00     30.75 84.8
-0.26
30.63
-
- -


ค่า Cess ประจำวันที่ 1-15 ธันวาคม  2558 อยู่ที่ 1.40 บาท/กก.
หมายเหตุ ราคาเป็น บาท/กก.ก่อนหักค่าใช้จ่าย
จัดทำโดย www.rakayang.net

55644

สรุปราคาปิดตลาด ยางตลาดล่วงหน้า ประจำวัน จันทร์ ที่ 14  ธันวาคม  2558


เปรียบเทียบเปอเซนต์ราคายาง RSS3 ตลาดล่วงหน้า(ราคาปิดตลาด)
TOCOM Day ราคา Settle ลดลง -1.07%
SHFE ปิดตลาด  เพิ่มขึ้น 1.66%
AFET ปิดตลาด  ไม่เปลี่ยนแปลง 0.00%
SICOM  ราคาลดลง -2.17 %


รายละเอียดการปิดตลาดต่างๆมีดังนี้...
=========================
ราคาปิดตลาด TOCOM ช่วง Day Session


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 5,417 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ตัวแทนตลาด ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด 4,459 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 166.00 เยน โดยราคาเปิด  ลดลง -2.00 เยน(-1.19%)
ขึ้นไปสูงสุด 167.60 เยน โดยราคาสูงสุด  ลดลง -0.40 เยน(-0.24%)
ลงไปต่ำสุด 165.10 เยน โดยราคาต่ำสุด  ลดลง -2.90 เยน(-1.73%)
ปิดตลาดที่ 166.1 เยน โดยราคาปิด  ลดลง -1.9 เยน(-1.130952381%)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) 2.5 เยน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด) 0.1เยน
ส่วนราคา Settle อยู่ที่166.2 เยน
ราคา Settle ลดลง -1.8 เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -1.071428571%
เทียบจากราคา(Settle)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)49.59408 บาท/กก. ลดลง -0.53712บาท/กก. และ หากคำนวนจากเยนญี่ปุ่นเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย) 1.37196632 ดอลลาร์/กก.ลดลง -0.014858841 ดอลลาร์/กก.
สัญญา(TOCOM)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 29650 สัญญา ปัจจุบัน 29190 สัญญา  ลดลง -460 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2984 บาท/เยนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ = 121.14 เยน)

AFET ปิดตลาด ยาง RSS3 


ยาง RSS มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น18 สัญญา
ราคาเดือน ตัวแทนตลดา ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น0 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่0.00บาท/กก. ราคาเปิด ลดลง -49 บาท/กก.
ขึ้นไปสูงสุดที่0.00บาท/กก. ราคาสูงสุด ลดลง -49 บาท/กก.
ลงไปต่ำสุดที่ 0บาท/กก. ราคาต่ำสุด  ลดลง -49 บาท/กก.
ราคาสูงสุดกับต่ำสุดต่างกัน 0 บาท
ปิดตลาดที่0บาท/กก.คิดเป็นราคาดอลลาร์ = 0 ดอลลาร์/กก. (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 36.141 บาท/ดอลลาร์)
ราคา ไม่เปลี่ยนแปลง 0 บาท/กก. (หรือเปลี่ยนแปลง 0 ดอลลาร์/กก.)
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ไม่เปลี่ยนแปลง 0%
สัญญา(AFET)ที่เปิดสถานะ(OI)งวดก่อน2230 สัญญา ปัจจุบัน 2218 สัญญา  ลดลง -12 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน

ราคาปิดตลาด(Close)ยางเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน(SHFE)


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น825042 สัญญา *** Volume คือ จำนวนสัญญาที่มีการจับคู่ซื้อขายกันในแต่ละวัน
ราคาเดือนพ.ค. 2016ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น768728 สัญญา
เปิดซื้อขายกันที่ 10240 หยวน/ตัน ราคาเปิดตลาดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 180 หยวน/ตัน  หรือ 1.789264414%
ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 10240 หยวน/ตัน ราคาสูงสุดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 180 หยวน/ตัน  หรือ 1.7578125%
ลงไปต่ำสุดของวันที่ 10105 หยวน/ตัน ราคาต่ำสุดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 45 หยวน/ตัน  หรือ 0.445324097%
และมาปิดที่ 10230 หยวน/ตัน ราคาปิดเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 170 หยวน/ตัน  หรือ 1.661779081%
 ***ส่วนต่างคำนวณจาก(ราคาปิด)ลบ(ราคาSettleงวดก่อน)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) ห่างกัน135 หยวน/ตัน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด)  ลบ -10 หยวน/ตัน
ส่วนราคา settle ของยางเซี่ยงไฮ้ SHFE เดือนส่งมอบ42491 อยู่ที่ 10180หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น120 หยวน/ตัน หรือ 1.192842942%
ราคาปิดและราคาSettleเท่ากัน120 หยวน
เทียบจาก(ราคาปิด)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)57.24143521บาท/กก. เพิ่มขึ้น 0.951226196บาท/กก. และ หากคำนวนจากหยวนเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)1583.836507 ดอลลาร์/ตัน คิดเป็นกิโลกรัม =1.583836507 ดอลลาร์/กก. เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 26.31986376
สัญญา(SHFE)ที่เปิดสถานะ(OI)ก่อนหน้านี้362506สัญญาสัญญาที่เปิดสถานะ(OI)วันนี้361194สัญญา ลดลง -1312สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท=5.595448212บาท/หยวนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ =6.459หยวน)*ที่มา Bloomberg

ราคาปิดตลาดยาง SICOM ประเทศสิงค์โปร์




ราคายางRSS3 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ม.ค.ปิดที่126.2 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -1.7 เซนต์สหรัฐ
เปิดซื้อขายที่126.2 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -1.70 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด126.2 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดลดลง -1.70 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 126 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -1.90 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 110 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคารมแผ่นได้ในกรอบ 39-41 บาท เฉลี่ย 40 บาท


ราคายางTSR20 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ม.ค.ปิดที่116.2 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -0.6 เซนต์สหรัฐ
เปิดซื้อขายที่115.6 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -1.20 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด116.3 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดลดลง -0.5 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 115.6 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -1.2 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 1919 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคาเศษยางได้ในกรอบ 34-37 บาท เฉลี่ย 35 บาท


หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle


=====================================================================
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

55645

ราคาปิดตลาดยาง SICOM ประเทศสิงค์โปร์ ประจำวัน จันทร์ ที่ 14ธันวาคม2558 ราคายาง RSS3 ราคาเดือนม.ค. ราคาลดลง -1.7เซนต์สหรัฐ ปิดที่126.2  เซนต์สหรัฐ




ราคายางRSS3
ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ม.ค.ปิดที่126.2 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -1.7 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ -2.17 %
เปิดซื้อขายที่126.2 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -1.70 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด126.2 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดลดลง -1.70 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 126 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -1.90 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 110 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคารมแผ่นได้ในกรอบ 39-41 บาท เฉลี่ย 40 บาท


Contract MonthLastChg From Prev SettleBidAskOpenHighLowVolOpen IntSettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
Eม.ค.-16126.2-1.7125.9126126.2126.212633811-127.945.61-0.61-1.33%
Eก.พ.-16128-0.5126.5128.5128.5128.512825871-128.546.26-0.18-0.39%
Eมี.ค.-16131-0.5130.3136.51311311312944-131.547.34-0.18-0.38%
Eเม.ย.-161350.1134.5135.5135135135251,007-134.948.790.04+0.07%
Eพ.ค.-16136-1128137.513713713625887-13749.15-0.36-0.73%
Eมิ.ย.-16--136138---0699-137.50000
Eก.ค.-16--136139---0601-138.50000
Eส.ค.-16--132141.5---00-139.50000
Eก.ย.-16--132143---00-140.50000
Eต.ค.-16--132144.5---00-141.50000
Eพ.ย.-16--133146---00-142.50000
Eธ.ค.-16--134147.5---00-143.50000
total
110
5820


ราคายางTSR20
ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน ม.ค.ปิดที่116.2 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -0.6 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ -0.70 %
เปิดซื้อขายที่115.6 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -1.20 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด116.3 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดลดลง -0.5 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 115.6 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -1.2 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 1919 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคาเศษยางได้ในกรอบ 34-37 บาท เฉลี่ย 35 บาท


Contract MonthLastChg From Prev SettleBidAskOpenHighLowVolOpen IntSettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
Eม.ค.-16116.2-0.6116116.3115.6116.3115.63443,587-116.842.00-0.22-0.51%
Eก.พ.-16116-0.5115.8116.2116.5116.5115.73655,464-116.541.92-0.18-0.43%
Eมี.ค.-16116-0.4115.2116.1115.1116.2115.12766,253-116.441.92-0.14-0.34%
Eเม.ย.-16115.9-0.5115.1116115116.21153324,172-116.441.89-0.18-0.43%
Eพ.ค.-16115.7-0.7115.2116115.4116.3114.83462,629-116.441.82-0.25-0.60%
Eมิ.ย.-16116-0.4115116116116.5115.6361,203-116.441.92-0.14-0.34%
Eก.ค.-16115.8-0.9115.3117116.4116.9115.818772-116.741.85-0.33-0.77%
Eส.ค.-16116-1.1114.5117.1116.2116.211618760-117.141.92-0.40-0.94%
Eก.ย.-16116.1-1.2116.1117.1117.2117.2116.110679-117.341.96-0.43-1.02%
Eต.ค.-16116.7-0.3116.6120116.4116.9116.476484-11742.18-0.11-0.26%
Eพ.ย.-16117.5-0.1117120.5117.6117.611778395-117.642.47-0.04-0.09%
Eธ.ค.-16117.9-0.6118119.7117.9117.9117.92040-118.542.61-0.22-0.51%
total
1919
26,438


หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle




จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

55646

TOCOM ปิดตลาดช่วง Night Session  ประจำวัน จันทร์ ที่ 14 ธันวาคม 2558พ.ค.-2016 ลดลง -0.6เยน  ปิดที่165.60เยน ปริมาณ 934 สัญญา
                                                                                                                                                               
มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น1,373 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน พ.ค.-2016ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด934 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 166.20 เยน โดยราคาเปิดเพิ่มขึ้น0.00เยน
ขึ้นไปสูงสุด 166.90 เยน โดยราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น0.70เยน
ลงไปต่ำสุด 165.50 เยน โดยราคาต่ำสุดลดลง-0.70เยน
ปิดตลาดที่ 165.60 เยน โดยราคาปิดลดลง-0.60เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ -0.36%
คิดเป็นเงินไทย 49.93บาท/กก.ลดลง -0.18บาท
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.3015บาท/100เยน)
หากคำนวณจากราคาเปิดราคา  ลดลง -0.60 เยน
ราคาต่ำสุดและราคาสูงสุด บวกลบกันแล้วห่างกัน 1.40 เยน


หมายเหต : ราคาปิดช่วง Night Session ดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวตั้งในการคำนวณราคาในวันถัดไป การคำนวณราคาในวันถัดไปจะใช้ราคา settement price ของช่วง Day session เท่ากับ 166.20 เยน


MonthLast Settlement PriceOpenHighLowCloseChangeVolumeSettlement%Changeคิดเป็นเงินไทย(บาท/กก.)เปลี่ยน(บาท)
Dec-15155.9156.4156.4154.8154.8-1.114-
-0.71
46.67
-0.33
Jan-16159.6160.3160.9159.2159.2-0.462-
-0.25
48.00
-0.12
Feb-16160.9161.3163160.4160.4-0.539-
-0.31
48.36
-0.15
Mar-16163.2166.2166.2162.6162.8-0.4104-
-0.25
49.08
-0.12
Apr-16164.8164.6165.6164164-0.8220-
-0.49
49.45
-0.24
May-16166.2166.2166.9165.5165.6-0.6934-
-0.36
49.93
-0.18
Total 1,373


จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

55647

AFET ปิดตลาด ยาง RSS3  ประจำวัน จันทร์ ที่ 14 ธันวาคม 2558ก.ค.-2016 ไม่เปลี่ยนแปลง 0.00 บาท ปิดที่ราคา  0.00 บาท ปริมาณการซื้อขาย 0สัญญา

ยาง RSS มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น18 สัญญา
ราคาเดือน ก.ค.-2016 ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น0 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่0.00บาท/กก. ราคาเปิด ลดลง -49 บาท/กก.
ขึ้นไปสูงสุดที่0.00บาท/กก. ราคาสูงสุด ลดลง -49 บาท/กก.
ลงไปต่ำสุดที่ 0.00บาท/กก. ราคาต่ำสุด  ลดลง -49 บาท/กก.
ราคาสูงสุดกับต่ำสุดต่างกัน 0.00 บาท
ปิดตลาดที่0.00บาท/กก.คิดเป็นราคาดอลลาร์ = 0.00 ดอลลาร์/กก. (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 36.141 บาท/ดอลลาร์)
ราคา ไม่เปลี่ยนแปลง 0.00 บาท/กก. (หรือเปลี่ยนแปลง 0.00 ดอลลาร์/กก.)
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ไม่เปลี่ยนแปลง 0.00%
สัญญา(AFET)ที่เปิดสถานะ(OI)งวดก่อน2,230 สัญญา ปัจจุบัน 2,218 สัญญา  ลดลง -12 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน

แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับวันพรุ่งนี้         
รูปแบบของการคำนวณ/Pivot point         
Levels   Standard   Woodie   Fibonacci
แนวต้านที่ 3   50.33   50.63   50.17
แนวต้านที่ 2   50.17   50.13   49.98
แนวต้านที่ 1   49.83   49.75   49.86
จุดกึ่งกลาง   49.67   49.63   49.67
แนวรับที่ 1   49.33   49.25   49.48
แนวรับที่ 2   49.17   49.13   49.36
แนวรับที่ 3   48.83   48.63   49.17

หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน         

ContractOpenHighLowBidBidOfferOfferLastLastChg.Settle. PriceVolumeOpen Interest
MonthVol.Vol.Vol.Prev.NewChg.Total*EFP Prev.Curr.Chg.
Req.
Jan-16444444 44.54441-0.544.544-0.540434430-4
Feb-16 244.8545.58 45.545.50004544540
Mar-16 645.246.56 46.446.40005405400
Apr-16474747346.547.52471047470204944940
May-16 6464814 48480001711710
Jun-1648.548.548.5747.848.51548.51048.548.501209587-8
Jul-16 148.448.81 4948.8-0.20042420
contract = 5,000 kg; price quotation = Baht/kgTotal
18
0
2,230
2,218
-12


จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

55648
ราคาเฉลี่ยน้ำยางสด ณ หน้าโรงงาน สำหรับซื้อวันที่ 15/12/2558 
จังหวัดราคาเฉลี่ย ณ โรงงาน (+/-)ราคาท้องถิ่น
สงขลา34ปรับลดลง-1.00 32-33
สุราษฏร์ธานี34ไม่เปลี่ยนแปลง0.00 32-33
นครศรีธรรมราช35.5ไม่เปลี่ยนแปลง0.00 33-34
จัดทำโดย www.rakayang.net

TLA FOB BANGKOK LATEX PRICE IN BULK FOR
ณ วันที่ 14/12/58 (Close) $ 820.63 (-18.92 USD/MT)    (@ 35.96 ฿/USD)

Malaysian Rubber Exchange FOB NOON PRICES FOR SMR (Sen/Kg)

ณ.วันที่ 14/12/58  Bulk  Latex น้ำยางข้น มาเลเซีย 362.50 (+2.5 Sen/kg)


(KUALA LUMPUR) Rubber Price Latex(60% drc)

as on  14/12/2015 per 100 Kg 84.80 (-0.90 IN/USD)

55649

ญี่ปุ่น,จีน,เกาหลีใต้เริ่มหารือข้อตกลงการค้าเสรี 3 ฝ่ายในวันนี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 15:28:54 น.
 
เจ้าหน้าที่อาวุโสของญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี 3 ฝ่ายในวันนี้ที่ญี่ปุ่น หลังจากผู้นำทั้ง 3 ประเทศเห็นพ้องกันให้หาข้อสรุปในเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว
 
ในการหารือระดับอธิบดีที่จัดขึ้นเป็นเวลา 5 วันครั้งนี้ ทั้ง 3 ประเทศจะหาแนวทางจัดตั้งกรอบการทำงานในส่วนของการเจรจาและแผนการเดินหน้าการ หารือ ก่อนที่จะตกลงกันในประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน อาทิ ภาษี และผลิตภัณฑ์เกษตร
 
สำหรับการหารือรอบที่ 9 ที่เมืองฮาโกเนะ จังหวัดคานากาว่าในรอบนี้ มีขึ้นหลังจากผู้นำ 3 ประเทศให้คำมั่นเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.กว่าจะเร่งการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลง เขตการค้าเสรี ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วน 20% ของเศรษฐกิจโลก
 
ทั้งนี้ จีนและเกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกันแล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นและอีก 11 ประเทศเพิ่งจะบรรลุข้อตกลงการค้าภูมิภาคแปซิฟิคที่เรียกว่าข้อตกลงหุ้นส่วน ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--



55650
ปตท.-บางจากปรับลดราคาดีเซล 40 สต./ลิตรพรุ่งนี้

 โดย :  กรุงเทพธุรกิจออนไลน์   วันที่ 14 ธันวาคม 2558, 15:17




ปตท.,บางจาก,ลดราคาน้ำมัน,ดีเซล
 ปตท.-บางจาก ประกาศปรับลดราคาน้ำมันเฉพาะดีเซล 40 สต./ลิตร มีผลพรุ่งนี้
บมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม(BCP) ประกาศปรับลดราคาเฉพาะน้ำมันดีเซลขายปลีกลงลิตรละ 40 สต. โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(15 ธ.ค.) เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป
 
ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลของ ปตท.และบางจากฯ ในสถานีบริการน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้ อยู่ที่ ลิตรละ 21.29 บาท
 
ส่วน น้ำมันชนิดอื่นๆ ราคาคงเดิม โดยน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 31.06 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 24.10 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 23.68 บาท E20 ลิตรละ 21.74 บาท และ E85 ลิตรละ 18.99 บาท

หน้า: 1 ... 3708 3709 [3710] 3711 3712 ... 5491