แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Rakayang.Com

หน้า: 1 ... 4066 4067 [4068] 4069 4070 ... 5494
61006
ราคาเฉลี่ยซื้อขายน้ำยางสด ณ หน้าโรงงานวันที่ 23/4/2558
 
ราคาเฉลี่ย ณ โรงงาน(+/-)ราคาท้องถิ่น
สงขลา46ไม่เปลี่ยนแปลง45
สุราษฏร์ธานี46ไม่เปลี่ยนแปลง-
นครศรีธรรมราช45.5ปรับเพิ่มขึ้น+0.5-

61007
แบล็คสโตน เตือน ตลาดหุ้นจีนกำลังอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป หลังนลท.รายย่อยแห่ถอนเงินฝากมาลงทุน


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 เม.ย. 58 10:40 น.

รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า 'สตีฟ ชวาร์ซแมน' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่แบล็คสโตนกรุ๊ปกล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนกำลังอยู่ในช่วงร้อนแรงเกินไป หลังนักลงทุนรายย่อยในจีนนำเงินฝากเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว
??'เราพบว่า นักลงทุนรายย่อยเปิดบัญชีการลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง และใช้บัญชีมาร์จิ้นในการซื้อขายหุ้น นอกจากนี้ยังพบว่า สัญญาณความร้อนแรงเกินไป ตลาดกำลังฟองสบู่' นายชวาร์ซแมนกล่าว
??โดยในการซื้อขายวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 1.8% มาปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี สะท้อนความร้อนแรงของภาวะการลงทุนในตลาดหุ้น หลังนักลงทุนรายย่อยนำเงินฝากเข้าลงทุนในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่พอใจอัตราผลตอบแทนจากการฝากเงิน
??'แหล่งลงทุนที่ยังให้ผลตอบที่ดีอยู่คือตลาดหุ้น นักลงทุนย่อยพากันมาลงทุน และทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น แต่การเข้ามาลงทุนนั้นไม่ได้ใช้แต่เพียงเงินออมอย่างเดียว ยังใช้เงินยืมในบัญชีมาร์จิ้นด้วย ดังนั้น จึงยิ่งทำให้ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงอย่างมาก' นายชวาร์ซแมนกล่าว






แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์


เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์  
                อีเมล์. worachet@efinacethai.com อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร 



61008

AFET ปิดตลาด ยาง RSS3  ประจำวัน พุธ ที่ 22 เมษายน 2558พ.ย.-2015 ลดลง -0.30 บาท ปิดที่ราคา  54.65 บาท ปริมาณการซื้อขาย 25สัญญา


ยาง RSS มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น  68 สัญญา
ราคาเดือน พ.ย.-2015 ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น25 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่54.70บาท/กก. ราคาเปิด ลดลง -0.25 บาท/กก.
ขึ้นไปสูงสุดที่55.00บาท/กก. ราคาสูงสุด เพิ่มขึ้น 0.05 บาท/กก.
ลงไปต่ำสุดที่ 54.65บาท/กก. ราคาต่ำสุด  ลดลง -0.3 บาท/กก.
ราคาสูงสุดกับต่ำสุดต่างกัน 0.35 บาท
ปิดตลาดที่54.65บาท/กก.คิดเป็นราคาดอลลาร์ = 1.69 ดอลลาร์/กก. (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 32.383 บาท/ดอลลาร์)
ราคา ลดลง -0.30 บาท/กก. (หรือเปลี่ยนแปลง -0.01 ดอลลาร์/กก.)
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -0.16%

ัสัญญา(AFET)ที่เปิดสถานะ(OI)งวดก่อน1,628 สัญญา ปัจจุบัน 1,702 สัญญา  ลดลง -7 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับวันพรุ่งนี้         
รูปแบบของการคำนวณ/Pivot point         
Levels   Standard   Woodie   Fibonacci
แนวต้านที่ 3   55.23   55.44   55.12
แนวต้านที่ 2   55.12   55.09   54.98
แนวต้านที่ 1   54.88   54.83   54.90
จุดกึ่งกลาง   54.77   54.74   54.77
แนวรับที่ 1   54.53   54.48   54.63
แนวรับที่ 2   54.42   54.39   54.55
แนวรับที่ 3   54.18   54.04   54.42
         
หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน         
         
ContractOpenHighLowBidBidOfferOfferLastLastChg.Settle. PriceVolume
MonthVol.Vol.Vol.Prev.NewChg.Total*EFP
Req.
May-15
54.8
54.8
54.8
9
54.7
55.8
4
54.8
4
-0.2
55
54.8
-0.2
4
0
Jun-15
4
54.5
55.3
6
55
55
0
0
0
Jul-15
4
54.6
54.9
2
55
54.9
-0.1
0
0
Aug-15
54.7
54.7
54.7
2
54.4
54.8
4
54.7
4
-0.25
54.95
54.7
-0.25
8
0
Sep-15
54.7
54.7
54.7
4
54.5
54.8
4
54.7
4
-0.15
54.85
54.7
-0.15
14
0
Oct-15
54.5
54.7
54.5
2
54.3
54.5
3
54.5
2
-0.3
54.8
54.5
-0.3
17
0
Nov-15
54.7
55
54.65
2
54.5
54.65
1
54.65
1
-0.3
54.95
54.65
-0.3
25
0
contract = 5,000 kg; price quotation = Baht/kgTotal68 0
         
         
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61009
เผยดัชนีผลผลิตเกษตรมี.ค.ราคายาง-ปาล์มลดลง

21 เมษายน 2558 เวลา 19:04 น.

สศก. เผย ดัชนีราคาและผลผลิตเกษตรมีนาคม ยาง-ปาล์มราคาลง ขณะที่สับปะรดราคาพุ่ง นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง ดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนมี.ค

นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง ดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนมี.ค. 2558 เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว (ปี 2557) พบว่า ภาพรวมลดลง7.64% โดยสินค้าเกษตร ที่มีราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ยางพารา สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ โดยเหตุที่ราคายางพาราลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ส่วน สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่าน มา


สำหรับสินค้าที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ สับปะรดโรงงาน เนื่องจากสถานการณ์ความแห้งแล้ง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. ปี 2558 พบว่าดัชนีราคาสินค้าเกษตร ลดลง3.92% สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน โดยยางพารา ราคาลดลงตามทิศทางตลาดล่วงหน้า TOCOM และปาล์มน้ำมัน ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับราคาตลาดล่วงหน้ามาเลเซียปรับตัวลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับราคาตลาดล่วงหน้ามาเลเซียปรับตัวลดลง ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ สับปะรดโรงงาน เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงงานแปรรูปสับปะรด ทั้งนี้คาดว่า เดือนเม.ย. 2558 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา

ด้านดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนมี.ค.2558 เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ปี 2557 พบว่า ภาพรวมผลผลิตลดลง 12.35 % สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ยางพารา สับปะรดโรงงาน หอมแดง กระเทียม และปาล์มน้ำมันสำหรับสินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ปี 2558 พบว่าดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ลดลง 2.07 % โดยสินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่มันสำปะหลัง ยางพารา สุกร และไก่เนื้อ และสินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า สับปะรดโรงงาน หอมแดง กระเทียม มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ ปาล์มน้ำมัน และไข่ไก่ ทั้งนี้ เดือนเมษายน 2558 คาดว่า ดัชนีผลผลิตจะใกล้เคียงกับเดือนเมษายน2558 คาดว่า ดัชนีผลผลิตจะใกล้เคียงกับเดือนเมษายน 2557 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2558 ดัชนีผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย โดยสินค้าสำคัญที่ออกสู่ตลาดมากในเดือนเมษายน 2558 ได้แก่ ข้าวนาปรัง สับปะรดโรงงานปาล์มน้ำมัน และผลไม้ภาคตะวันออกเริ่มออกสู่ตลาด

เผยดัชนีผลผลิตเกษตรมี.ค.ราคายาง-ปาล์มลดลง

ที่มา โพสต์ทูเดย์

61010
ตลาดหุ้นไต้หวัน-สิงคโปร์ เตรียมเปิดระบบการซื้อขายหุ้นระหว่างกันวันที่ 1 ก.ค.นี้


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 เม.ย. 58 14:20 น.


รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า นายเจียง หมิง-ชวงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกำกับดูแลภาคการเงินไต้หวันเปิดเผยวันนี้ว่า ไต้หวันจะเปิดระบบการซื้อขายหุ้นข้ามตลาดกับตลาดหุ้นสิงคโปร์ในวันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ ตามแผนดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวัน
??'การเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นเป็นแนวโน้มใหม่ของโลกตลาดทุน เราต้องการที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นไต้หวันให้มีความเป็นสากล โดยเริ่มจากการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน ก่อนจะขยายออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ' นายเจียงกล่าว
??ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นสิงคโปร์เริ่มศึกษาการเชื่อมโยงการซื้อขายดังกล่าวตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา หลังจีนและฮ่องกงประสบความสำเร็จในการซื้อขายหุ้นข้ามตลาด




แปลโดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์


เรียบเรียง โดย วรเชษฐ์ พันธ์ภูวงศ์  
                อีเมล์. worachet@efinacethai.com อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร 

61011

ราคาปิดตลาด TOCOM ช่วง Day Session ประจำวัน พุธ ที่ 22เมษายน 2558  ราคาเดือน  ก.ย.-2015 เพิ่มขึ้น 1.3เยน  Settle อยู่ที่ 204.70เยน ปริมาณ 3,844 สัญญา


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 4,485 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ก.ย.-2015 ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด 3,844 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 204.70 เยน โดยราคาเปิด  เพิ่มขึ้น 1.30 เยน(0.64%)
ขึ้นไปสูงสุด 205.40 เยน โดยราคาสูงสุด  เพิ่มขึ้น 2.00 เยน(0.98%)
ลงไปต่ำสุด 203.10 เยน โดยราคาต่ำสุด  ลดลง -0.30 เยน(-0.15%)
ปิดตลาดที่ 205.00 เยน โดยราคาปิด  เพิ่มขึ้น 1.60 เยน(0.79%)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) 2.30 เยน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด) 0.30เยน
ส่วนราคา Settle อยู่ที่204.70 เยน
ราคา Settle เพิ่มขึ้น 1.30 เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ เพิ่มขึ้น 0.64%
เทียบจากราคา(Settle)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)55.35 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 0.35บาท/กก. และ หากคำนวนจากเยนญี่ปุ่นเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย) 1.71 ดอลลาร์/กก.เพิ่มขึ้น 0.011 ดอลลาร์/กก.
สัญญา(TOCOM)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 22,392 สัญญา ปัจจุบัน 22,671 สัญญา  เพิ่มขึ้น 279 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2704 บาท/เยนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ = 119.69 เยน)


แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับวันพรุ่งนี้         
ระดับแนวรับ-ต้าน   สูตรแบบStandard   สูตรแบบWoodie   สูตรแบบFibonacci
แนวต้านที่ 3   208.0   209.1   206.7
แนวต้านที่ 2   206.7   206.8   205.8
แนวต้านที่ 1   205.7   205.9   205.3
จุดกึ่งกลาง   204.4   204.5   204.4
แนวรับที่ 1   203.4   203.6   203.5
แนวรับที่ 2   202.1   202.2   203.0
แนวรับที่ 3   201.1   199.9   202.1
หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน


ราคาเดือนLast Settlement Priceเปิด(Open)สูงสุด(High)ต่ำสุด(Low)ปิด(Close)เปลี่ยนแปลง(Change)ปริมาณ(Volume)Settlement%Changeคิดเป็นเงินไทย(บาท/กก.)เปลี่ยน(บาท)ส่วนต่าง LastSettl-ราคาปิดOiOi Change
Apr-15202.5205206.62052052.572051.2355.430.682.5
337
-3
May-15202.5204.5204.5202.5204.11.666204.10.7955.190.431.6
1,291
-210
Jun-15204.1205.5206.1204204.90.8199204.90.3955.400.220.8
3,587
-118
Jul-15203.1205.1205.1203.2204.41.3126204.40.6455.270.351.3
1,994
-44
Aug-15203.3204.3205203.1204.41.2243204.50.5955.300.321.1
4,508
-81
Sep-15203.4204.7205.4203.12051.33,844204.70.6455.350.351.6
10,954
735
Total4,485
22,671
279
         
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61012
การเปลี่ยนแปลงวันซื้อขายสุดท้ายและการงดประกาศเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบเพิ่มเติม
 ของสินค้า STR20, BWR5, BHMR, WRF5, TC และ CPPL ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2558





61013
รู้มาเล่าไป: อนาคตยางไทยหลังเปิด'เออีซี'



  22เม.ย.58รู้มาเล่าไป: อนาคตยางไทยหลังเปิด'เออีซี' 
 ดลมนัส กาเจ

 หากนับถอยจากนี้ไปก็ยังเหลือเวลาอีก 8 เดือนกับ 7 วัน ก็จะเป็นวันที่กลุ่มประเทศในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมาร์ รวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ "เออีซี" ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นี้

 พืชเศรษฐกิจหลักของกลุ่มประเทศในอาเซียนเราจะมีลักษณะใกล้เคียงกันหลายชนิด โดยเฉพาะยางพารา ที่ราคากำลังตกต่ำอยู่ขณะนี้

 โดยประเทศไทยมาครองแชมป์การส่งออกยางพารามากที่สุดในโลกเมื่อครั้งที่ ยางพาราราคาดี ส่งออกคิดมูลค่าปีละกว่า 4 แสนล้านบาท ถือเป็นมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรที่มากที่สุดของประเทศ

 ปัจจุบันราคายางพาราตกต่ำ เปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์นี้ (20 เม.ย.58) ราคาประมูลที่ตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยางแผ่นดิบ กิโลกกรัมละ 48.13 บาท ยางรมควันชั้น 3 กิโลกรัมละ 50.39 บาท ขณะที่ตลาดท้องถิ่น ยางแผ่นกิโลกรัมละ 46.50 บาท น้ำยางสดกิโลกรัมละ 45.50 บาทเท่านั้น

 ถ้าดูตัวเลขการผลิตยางธรรมชาติของโลก ไทย อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย มีพื้นที่ผลิตรวมกันกว่า 60% ของพื้นที่ปลูกยางพาราทั่วโลกเมื่อปี 2555 ทั้ง 3 ประเทศส่งออกยางพารามีมูลค่า 672.5 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 75% โดยไทยได้ส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% แต่อนาคตอันใกล้นี้ สัดส่วนอาจลดลง เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเราทั้งเมียนมาร์ สปป.ลาว และกัมพูชา ขยายพื้นที่ปลูกยางพาราขนาดใหญ่

 ตรงนี้สิครับ ที่ ผศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่าสถานการณ์ยางพาราของไทยในวันนี้ยังคงน่าห่วงส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคา ยางโลกตกต่ำ แม้ภาครัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มการใช้งานยางพาราในประเทศ แต่แนวโน้มในปีนี้ก็ยังไม่สดใส ขณะที่ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 4 แสนล้านบาท มีผู้ประกอบอาชีพการทำสวนยาง 1.5 ล้านครัวเรือน

 ด้วยเหตุนี้ คณะเศณษฐศาสตร์ และศุนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ร่วมมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดเวที ประเทศไทยกับ Global Connectivity ในหัวข้อ "AEC : อนาคตยางพาราไทย วิกฤติหรือโอกาส" เพื่อระดมความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการยางพาราไทยจากทุกภาคส่วนทั้ง ภาครัฐและเอกชนวิเคราะห์ถึงปัญหา และแนวทางการพัฒนายางพาราไทยไปสู่ความยั่งยืน ในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 เวลา 08.30-13.00 น. ณ ห้องบอลรูมโรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน รัชดาฯ กรุงเทพฯ

 งานนี้มีวิทยากรหลายท่านครับ อาทิ ผศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นายขุนศรี ทองย้อย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจรเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายบุญหาญ อู่อุดมยิ่ง ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมี ดร.อำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะปาฐกถาเรื่อง "ทิศทางการพัฒนายางพาราไทย"

 ผลสรุปจะออกมาอย่างไร ติดตามอ่านรายงานพิเศษหน้าเกษตร/ทำมาหากิน "คม ชัด ลึก" ในวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 นี้ครับ!     


คมชัดลึก (Th)      

61014
เร่งชงข้อมูลผ่าวิกฤติยางถึงรบ.สกย.เล็งรื้อระเบียบหนุนทำสวนผสมผสาน



  22เม.ย.58เร่งชงข้อมูลผ่าวิกฤติยางถึงรบ.สกย.เล็งรื้อระเบียบหนุนทำสวนผสมผสาน 
 นายเชาว์ ทรงอาวุธ รองผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยว่า ในระหว่างการจัดงานวันยางพาราแห่งชาติที่ จ.ตรัง เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา สกย.ได้จัดการเสวนาเรื่อง "ฝ่าวิกฤติยางพารา พัฒนาสู่ความยั่งยืน" ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องกับวงการยางพาราไทย ทั้งนักวิชาการ เอกชน สถานบันเกษตรกร เข้าร่วมกว่า 500 คน ทำให้ได้ความคิดเห็นที่หลากหลายที่เป็นประโยชน์ในการนำไปเป็นข้อมูลเพื่อ กำหนดยุทธศาสตร์หรือวางนโยบายพัฒนายางพาราของประเทศ ปี 2558/2559

 โดยในส่วนของนักวิชาการ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับปริมาณยางที่ใช้ในประเทศยังมีการใช้น้อยเพียงร้อยละ 14 ของปริมาณยางทั้งหมด ที่เหลือส่งออกขายในตลาดต่างประเทศ ทำให้ต่างชาติเป็นผู้กำหนดราคา ดังนั้น หากต้องการให้ราคายางของไทยมีความเสถียรภาพ และมั่นคงมากขึ้น จะต้องมียุทธศาสตร์เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้เพิ่มขึ้นด้วย ในการกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนายางพาราของรัฐบาล"

 สำหรับภาคเอกชน ได้ให้ความเห็น ว่า ราคายางนั้นขึ้น อยู่กับความต้องการของตลาดกับปริมาณ การผลิต หรือ Demand กับ Supply ต้องมีความสมดุลกัน แต่ปัจจุบันปริมาณของยางมีมากกว่าความต้องการในการใช้ยาง ทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งผลผลิตยางของไทยส่วนใหญ่จะส่งไป ขายตลาดประเทศจีนเป็นหลัก ในขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวทำให้ปริมาณความต้องการใช้ยางลดลง การซื้อยางของตลาดจีนจึงลดลงไปด้วย ประกอบกับประเทศจีนเอง ได้ปลูกยางพาราในประเทศบริเวณมณฑลยูนาน และยังได้เข้ามาลงทุนทำสวนยางพาราที่ลาวและกัมพูชา ดังนั้นอนาคตตลาดยางพาราของไทยจะพึ่งตลาดจีนเพียงตลาดเดียวไม่ได้ จะต้องวางยุทธศาสตร์ในการขยายตลาดส่งออกไปยังตลาดประเทศใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาดยุโรปด้วย

 ส่วนเกษตรกร แสดงความคิดเห็นว่า การทำสวนยางพาราในอนาคต ถ้าจะให้ยั่งยืนจะปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียว หรือปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยวไม่ได้แล้ว ต้องปลูกพืชผสมผสาน หลากหลายชนิดภายในสวนยาง โดยมียางพาราเป็นพืชหลัก ดังนั้นในการกำหนดยุทธศาสตร์ รัฐบาลจะต้องกำหนดมาตรการส่งเสริมการทำสวนยางพาราแบบผสมผสาน ตามแนว พระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 นายเชาวน์กล่าวต่อว่า หลังจากการเสวนาในครั้งนี้ สกย.จะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดมาสรุปเป็นข้อมูลส่งให้รัฐบาล เพื่อจัดทำแผนพัฒนายางพาราของไทยทั้งระบบ แต่สิ่งไหนที่สามารถทำได้เลย สกย.ก็จะดำเนินการแก้ไขระเบียบทันที เช่น การแก้ไขระเบียบให้ทันสถานการณ์ โดยเฉพาะการให้ทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จากที่เคยกำหนดให้ปลูกยางพาราไร่ละ 70-80 ต้น เหลือเพียงไร่ละ 40 ต้น โดยยังได้รับทุนสงเคราะห์อัตราเดิม คือ ไร่ละ 16,000 บาท เพื่อเกื้อต่อการทำสวนยางแบบผสมผสาน บรรยายใต้ภาพ เชาว์ ทรงอาวุธ




     แนวหน้า (Th)                  

61015
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนคาดยอดขายรถยนต์จีนทะลุ 25 ล้านคันในปี 2558



       สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 58)--นายตง หยาง รองประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์จีนจะสูงกว่า 25 ล้านคันในปี 2558

 ทั้งนี้ CAAM คาดว่า ยอดขายรถยนต์ของจีนอาจเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 25.13 ล้านคันในปี 2558

 โดยจำแนกออกเป็นยอดขายรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล ซึ่งคาดว่าจะมียอดขาย 21.25 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดขายรถเพื่อใช้ในทางพาณิชย์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.88 ล้านคัน

 นอกจากนี้ CAAM คาดว่ายอดขายรถยนต์ซีดานในปี 2558 จะเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 12.51 ล้านคน ขณะที่ยอดขายรถ SUV คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25% เทียบรายปี สู่ระดับ 5.1 ล้านคัน และยอดขายรถเอนกประสงค์คาดว่าจะอยู่ที่ 2.58 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 35% เทียบรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--                  IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

61016

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพุธที่  22  เมษายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t][/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ- ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด เกิดพายุฤดูร้อน   มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้อุณหภูมิลดลง 6   - 8 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 22 - 25 เมษายน 2558 ส่วนภาคใต้มีเฆมเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง   ๆ ร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
2. การใช้ยาง- รองประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) คาดการณ์ว่า   ยอดจำหน่ายรถยนต์จีนอาจเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 25.13   ล้านคันในปี 2558
- สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่า กรมศุลกากรเวียดนามเผยแพร่ตัวเลขการส่งออกยางในเดือนมีนาคม   2558 อยู่ที่ 64,800 ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ร้อยละ 58.0 ซึ่งกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามระบุว่า จากปัญหาราคาส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้เวียดนามต้องเผชิญกับความยากลำบาก   โดยไตรมาสแรกปี 2558 ปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 20.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.0 แต่มูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ   4.3 อยู่ที่ 286 ล้านหยวน
3. เศรษฐกิจโลก- สภาแห่งรัฐหรือคณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยว่า   จะมีการประกาศใช้มาตรการเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการสร้างงาน   ขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว โดยระบุว่าจะมีการเพิ่มการลดหย่อนภาษีและให้การอุดหนุนการประกันสังคมมากขึ้น   เพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจจ้างพนักงานมากขึ้น   นอกจากนี้จะมีการให้เงินอุดหนุนสำหรับการขอสินเชื่อธนาคารบางประเภทเพื่อให้ความช่วยเหลือธุรกิจที่เกิดใหม่
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า   ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าเดือนมีนาคมอยู่ที่ 2.293 แสนล้านหยวน   ถือเป็นการเกินดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 3 ปี   โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่ายอดส่งออกเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5   เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การนำเข้าลดลงร้อยละ 14.5
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เปิดเผยว่า   ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมันที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศลดลงแตะ   53.3 ในเดือนเมษายน จาก 54.8 ในเดือนมีนาคม จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก   หลังจากปรับตัวขึ้น 5 เดือนติดต่อกัน
- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจในลอนดอนคาดว่าปี 2558   เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวร้อยละ 2.8 ถึงแม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในระหว่างจัดการเลือกตั้งทั่วไป   ส่วนปี 2559 คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวร้อยละ 3.0
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก   กล่าวว่า เฟดจะพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลกจากนโยบายการเงินของเฟด   เพราะผลกระทบดังกล่าวอาจย้อนกลับมาสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐฯ   ได้
- เรดบุ๊ค รีเสิร์ซ รายงานว่า   ยอดค้าปลีกทั่วประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนเมษายน   เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในเดือนมีนาคม ขณะที่ตัวเลขเป้าหมายอยู่ที่ร้อยละ 0.8   เมื่อเทียบกับปีที่แล้วยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0   ซึ่งตัวเลขเป้าหมายอยู่ที่ร้อยละ 1.7
4. อัตราแลกเปลี่ยน- เงินบาทอยู่ที่ 32.38 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.05   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 119.64 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.19 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ปิดตลาดที่ 55.26 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.12   ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ   จะปรับตัวสูงขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent)   ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดที่ 62.08 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล   ลดลง 1.37 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- Vitol กลุ่มเทดเดอร์น้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกระบุว่า   อุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่งในช่วงต้นปีนี้กำลังชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของการบริโภค   หลังจากที่ราคาน้ำมันทรุดตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินปี 2551 ทั้งนี้ Vitol คาดว่าปีนี้อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นการขยายตัวเกือบ   2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว   ขณะที่บริษัทที่คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นราว 1.4 - 1.5   ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้
6. การเก็งกำไร- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 203.8 เยนต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 1.3 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกันยายน อยู่ที่ 204.7 เยนต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 1.3 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 169.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 3.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
7. ข่าว- ผลสำรวจภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ   พบว่า   รัฐที่มีรายได้พึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมันมีการลดการจ้างงานจำนวนมากในเดือนมีนาคม   โดยเมื่อพิจารณาทั่วสหรัฐฯ พบว่าวอชิงตัน ดี.ซี. และอีก 31 รัฐมีการจ้างงานลดลง   ขณะที่มีเพียง 18 รัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
- นักลงทุนจับตาดูการเจรจาปัญหานี้กรีซอย่างใกล้ชิด   หลังรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่าการเจรจาหนี้กรีซมีความคืบหน้า   และคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงได้ในสิ้นเดือนนี้
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ- ราคายางสูงขึ้นได้เล็กน้อย   เพราะผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมาก หลายพื้นที่ต้องเปิดกรีดยางล่าช้า เพราะยังไม่มีฝน   สภาพอากาศยังร้อนและแห้งแล้ง ดังนั้นหากมีปัจจัยด้านบวกใหม่ ๆ   เข้ามาในระยะนี้ก็จะส่งผลให้ราคาสูงขึ้นได้
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว โดยได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนขานรับรายงานว่าญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมีนาคมครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี และรัฐบาลจีนเตรียมประกาศมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับสต๊อคยางจีนวันที่ 17 เมษายน 2558 ลดลงแตะ 137,866 ตัน จาก 142,125 ตัน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 อย่างไรก็ตาม ราคายางยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เพราะมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง และความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ



ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา

61017

ราคาปิดตลาด(Close)ยางเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน(SHFE)ประจำวัน พุธ ที่ 22เมษายน 2558 ราคาเดือน ก.ย.-2015 เพิ่มขึ้น 210หยวนปิดที่ราคา(close) 13,225หยวน/ตัน ปริมาณ407,624 สัญญา


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น436,448 สัญญา *** Volume คือ จำนวนสัญญาที่มีการจับคู่ซื้อขายกันในแต่ละวัน
ราคาเดือนก.ย. 2015ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น407,624 สัญญา
เปิดซื้อขายกันที่ 13,230 หยวน/ตัน ราคาเปิดตลาดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 215 หยวน/ตัน  หรือ 1.65%
ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 13,320 หยวน/ตัน ราคาสูงสุดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 305 หยวน/ตัน  หรือ 2.29%
ลงไปต่ำสุดของวันที่ 13,130 หยวน/ตัน ราคาต่ำสุดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 115 หยวน/ตัน  หรือ 0.88%
และมาปิดที่ 13,225 หยวน/ตัน ราคาปิดเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 210 หยวน/ตัน  หรือ 1.59%
 ***ส่วนต่างคำนวณจาก(ราคาปิด)ลบ(ราคาSettleงวดก่อน)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) ห่างกัน190 หยวน/ตัน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด)  ลบ -5 หยวน/ตัน
ส่วนราคา settle ของยางเซี่ยงไฮ้ SHFE เดือนส่งมอบก.ย.-15 อยู่ที่ 13,225หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น210 หยวน/ตัน หรือ 1.61%
ราคาปิดและราคาSettleเท่ากัน210 หยวน
เทียบจาก(ราคาปิด)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)69.09บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1.10บาท/กก. และ หากคำนวนจากหยวนเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)2,133 ดอลลาร์/ตัน คิดเป็นกิโลกรัม =2.13 ดอลลาร์/กก. เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 33.88 ดอลลาร์/ตัน คิดเป็นกิโลกรัม =0.0339 ดอลลาร์/กก.
สัญญา(SHFE)ที่เปิดสถานะ(OI)ก่อนหน้านี้296,274สัญญาสัญญาที่เปิดสถานะ(OI)วันนี้302,842สัญญา เพิ่มขึ้น 6,568สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท=5.2241บาท/หยวนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ =6.1988หยวน)*ที่มา Bloomberg


แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับวันพรุ่งนี้         
     รูปแบบของการคำนวณ/Pivot point      
Levels   Standard   Woodie   Fibonacci
แนวต้านที่ 3   13510   13605   13415
แนวต้านที่ 2   13415   13415   13342
แนวต้านที่ 1   13320   13320   13298
จุดกึ่งกลาง   13225   13225   13225
แนวรับที่ 1   13130   13130   13152
แนวรับที่ 2   13035   13035   13108
แนวรับที่ 3   12940   12845   13035
หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน         
   
SpeciesContractPre settleOpenHighLowCloseSettlech1ch2VolumeO.I O.I   Changeคิดเป็นเงินไทยบาทเปลี่ยนแปลง(บาท) Close Change (%)
Natural Rubber1505129701309013120129551301513040457036028934-159667.990.240.35
15061275513005131551290513000130352452803281120-9267.911.281.92
150712880129851308512985130501303017015012164-268.170.891.32
150812725131751318013050131801310545538058524068.852.383.58
1509130151323013320131301322513225210210407624255596568869.091.101.61
151012970130551316013015130951307512510548770468.410.650.96
151112935130901317513030131101310517517011209118-11068.490.911.35
160113875139601404013895139551396580902362226490267872.900.420.58
160313790141451417013935141401409035030024104-273.871.832.54
16041371014290142901413014135141904254801022073.842.223.10
Total: 436448
302842[/t][/t]
6568

      
         
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61018
หมีขาวสนซื้อยางไทย8หมื่นตัน


  21เม.ย.58หมีขาวสนซื้อยางไทย8หมื่นตัน 
 หมีขาวสนซื้อยางไทย8หมื่นตัน ลุ้นขยายค้าไทย-รัสเซียหมื่นล้านดอลล์/รับติดภาษีสูง

 พาณิชย์ปลื้มช่วยรัฐบาลขายยางให้รัสเซีย 8 หมื่นตัน คาดลงนามได้หลังประชุม JC พร้อมตั้งเป้าขยายการค้าไทย-รัสเซียเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2559 ยอมรับอุปสรรคสำคัญรัสเซียเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสูง ทั้งข้าว สับปะรด เม็ดพลาสติก ยาง รถยนต์ ลุ้น 10 ผู้นำเข้าแดนหมีขาวซื้อยางไทยเพิ่มกลางปีนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการมาเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีรัสเซียครั้งล่าสุดว่า เบื้องต้นทางรัสเซียมีความต้องการยางพาราจากไทยปริมาณ 8 หมื่นตัน เพื่อไปผลิตยางล้อรถยนต์ และยางล้อเครื่องบิน ส่วนรายละเอียดคงต้องรอหลังจากที่มีการประชุมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - รัสเซีย (the Joint Russian-Thai Commission on Bilateral Cooperation- JC)ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมที่รัสเซียก่อน ขณะเดียวกันรัสเซียอยากให้ไทยสนับสนุนทางด้านสินค้าเกษตร และและการท่องเที่ยว ขณะที่ไทยเองอาจต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทางด้านอากาศ และยุทโธปกรณ์ทางทหาร แต่ทั้งนี้คงต้องรอผลการหารือ JC ที่จะมีขึ้น คาดว่าน่าจะมีการลงนามเร็วๆ นี้ สำหรับภาพรวมการค้า(ส่งออก+นำเข้า) ระหว่างไทยกับรัสเซียในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2553 - 2557) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 4.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยขาดดุลมาโดยตลอด(จากการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ที่ไทยนำเข้าสินค้าจากรัสเซีย) โดยการเยือนครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายตั้งเป้าขยายการค้าระหว่างกันให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือประมาณ 1 หมื่นล้านดอลาร์สหรัฐฯ ในปี 2559 ทั้งนี้สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทยไปรัสเซีย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ และข้าว ขณะที่ปัญหาอุปสรรคทางการค้าเช่น รัสเซียเก็บภาษีสินค้าหลายรายการในอัตราสูง ได้แก่ เครื่องดื่มและยาสูบ 26.1% เครื่องนุ่งห่ม 22%ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 19% ผลิตภัณฑ์จากนม 16% น้ำตาลและสารให้ความหวาน 12.6% ไม้และกระดาษ 12% ปลาและผลิตภัณฑ์จากปลา12%ธัญพืช 11% ผักและผลไม้ 11%สิ่งทอ 10% เป็นต้น ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังรัสเซียที่ปัจจุบันรัสเซียเก็บภาษีสูง เช่น ข้าว (0.12 ยูโรต่อกิโลกรัม) สับปะรด 12% เม็ดพลาสติก 10% ยาง 15- 20% เครื่องรับวิทยุ 6% ตู้เย็น 20% ยานยนต์ 25 - 30% รถพยาบาล 30% เป็นต้น ส่วนอุปสรรคที่มิใช่ภาษีเช่น สินค้าปศุสัตว์และประมง ซึ่งไทยมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าปศุสัตว์และประมง เช่น เนื้อไก่ เนื้อสุกร และอาหารทะเล แต่ปัจจุบันรัสเซียไม่อนุญาตให้นำเข้ายกเว้นโรงงานที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ให้สามารถส่งออกสินค้าไก่ไปยังรัสเซียได้เท่านั้น ประกอบด้วย โรงงานเชือดและชำแหละไก่จำนวน 23 บริษัท และโรงงานไก่ปรุงสุกจำนวน 12 บริษัท โดย เมื่อวันที่ 29 กันยายน - 10 ตุลาคม 2557 สำนักงานเฝ้าระวังสุขอนามัยพืชและสัตว์ของรัสเซีย ได้เดินทางมาตรวจโรงงานของไทยและได้ให้การรับรองโรงงานสุกรของไทยเพิ่มอีก 2 โรงงานทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าเนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็งไปยังรัสเซียได้ เป็นครั้งแรก แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเพิ่มเติมว่ากรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศได้มีกำหนดที่จะจัดคณะผู้นำเข้ายางพาราจำนวน 10 รายจากรัสเซียเดินทางมาเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกไทยในเดือนมิถุนายนนี้โดยขณะ นี้กรมอยู่ระหว่างเตรียมวางแผนการปฏิบัติงานเพื่อดำเนินโครงการและประสาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง




 เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ (Th)     
     

61019

ราคาFOBกรุงเทพ ประจำวัน พุธ ที่ 22  เมษายน  2558


ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาก่อนหน้านี้54.8ราคาวันนี้ 55.05 บาท/กก. ราคา ราคาเพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ 1.70 ดอลลาร์/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 0.01 ดอลลาร์/กก.


ยางแท่ง STR20 ราคาก่อนหน้านี้45ราคาวันนี้ 45.25 บาท/กก. ราคา ราคาเพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ 1.40 ดอลลาร์/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 0.01 ดอลลาร์/กก.


และน้ำยางข้น 60%  ราคาก่อนหน้านี้34.8ราคาวันนี้ 34.8 บาท/กก. ราคาราคาไม่เปลี่ยนแปลงคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ 1.07 ดอลลาร์/กก.ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ราคาที่แจ้งทางSMS
F.O.B Bangkok Price(22/04)May.2015 RSS3=THB55.05(+0.25)USD=1.70 STR20=THB45.25(+0.25)USD=1.40 Latex60%=THB34.80(+0.00)USD=1.07(Exchange rate=32.38Baht/1Dollar)
รายละเอียดเกี่ยวกับบริการ sms ราคายาง >> http://sms.rakayang.net/


ชนิดยาง / ชั้นยางราคายางส่งออก F.O.B. ส่งมอบ ( F.O.B. Price )
Type / Gradeเดือนพฤษภาคม 2558เดือนมิถุนายน 2558
May-15Jun-15
กรุงเทพฯสงขลากรุงเทพฯสงขลา
BangkokSongkhlaBangkokSongkhla
ยางแผ่นรมควันRSS 156.255.9556.456.15
RibbedRSS 255.655.3555.855.55
SmokedRSS 355.0554.855.2555
SheetRSS 454.7554.554.9554.7
RSS 554.354.0554.554.25
ยางแท่ง STR 5L48.254848.4548.2
StandardSTR 546.3546.146.5546.3
ThaiSTR 1045.6545.445.8545.6
RubberSTR 2045.254545.4545.2
น้ำยางข้น 60% 34.834.553534.75
Concentrated Latex


จัดทำโดย ทีมงานwww.rakayang.net

61020
ข่าวทั่วไป / "ถุงยาง" ยุคใหม่ รส "สุญญากาศ"
« เมื่อ: เมษายน 22, 2015, 01:37:51 PM »
"ถุงยาง" ยุคใหม่ รส "สุญญากาศ"


โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 22 เม.ย. 2558 10:01


 นักวิทยาศาสตร์เมืองจิงโจ้กลุ่มหนึ่งช่วยกันคิดทำถุงยางอนามัยใหม่ ชุดหนึ่ง โดยอวดว่า เมื่อใช้แล้วจะทำให้รู้สึกว่าดียิ่งกว่า ?ไม่ได้ใส่อะไรเลย? เสียอีก
นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย ?โวลลองกอง? ได้เริ่มคิดเอาวัตถุไฮโดรเจลมาใช้ทำ ?ถุงยางอนามัยอนาคต? อวดว่ามันมีคุณประโยชน์เหนือกว่าน้ำยางหลายเท่า ต่อจากที่มหาเศรษฐีบิลเกตต์ของโลกได้ประกาศท้าทายไว้เมื่อก่อนหน้าให้มีการ คิดทำถุงยางอนามัยแห่งอนาคตขึ้น ความจริงวัสดุไฮโดรเจลนี้ใช้กันอยู่มานานหลายสิบปีแล้ว นักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวหน้านายโรเบิร์ต กอกิน ยกย่องว่ามันเป็นวัสดุที่เหมาะจะเอามาทำถุงยางอนามัยมากที่สุด เขาวาดภาพให้เห็นว่า ลองหลับตานึกถึงถุงยางที่มีคุณสมบัติหล่อลื่นตัวเอง ปล่อยยา ?ไวอากร้า? ปริมาณน้อยออกมาได้เอง หรือเป็นสื่อไฟฟ้าและสนองตอบกับการกระตุ้นเตือน.






 

หน้า: 1 ... 4066 4067 [4068] 4069 4070 ... 5494