แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Rakayang.Com

หน้า: 1 ... 4067 4068 [4069] 4070 4071 ... 5470
61021
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ



สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 เมษายน 2558 07:52:03 น.
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 31 มี.ค.2558


-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ริชมอนด์ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วขึ้น



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,776.12 จุด ร่วงลง 200.19 จุด หรือ -1.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,900.88 จุด ลดลง 46.56 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.89 จุด ลดลง 18.35 จุด หรือ -0.88%


-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของยูโรโซน หลังจากมีรายงานว่าอัตราว่างงานเดือนก.พ.ปรับตัวลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังอยู่ในระดับติดลบ ยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดของยูโรโซน


ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 397.3 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,033.64 จุด ลดลง 49.88 จุด หรือ -0.98% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,966.17 จุด ร่วงลง 119.84 จุด หรือ -0.99% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,773.04 จุด ดิ่งลง 118.39 จุด หรือ -1.72%


-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) โดยมีแรงถ่วงจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลง


ดัชนี FTSE 100 ลดลง 118.39 จุด หรือ 1.72% ปิดที่ 6,773.04 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมี.ค. รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่ายอดส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะเพิ่มขึ้น หากชาติมหาอำนาจมีมติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน


สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.60 ดอลลาร์/บาร์เรล


สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.11 ดอลลาร์/บาร์เรล


-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้


สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,183.20 ดอลลาร์/ออนซ์


สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 7.6 เซนต์ ปิดที่ 16.598 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 26 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,143.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 735.30 ดอลลาร์/ออนซ์


-- ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 วันเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เดินหน้าความพยายามที่จะหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาคด้วยโครงการซื้อพันธบัตร ส่วนธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้


ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0742 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0823 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4815 ดอลลาร์สหรัฐ


ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.95 เยน เทียบกับระดับ 120.16 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9723 ฟรังก์ จาก 0.9676 ฟรังก์


ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7612 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7652 ดอลลาร์


ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,776.12 จุด                            ลดลง 200.19 จุด     -1.11%


ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,900.88 จุด                           ลดลง 46.56 จุด      -0.94%


ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,067.89 จุด                           ลดลง 18.35 จุด      -0.88%


ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,773.04 จุด                         ลดลง 118.39 จุด     -1.72%


ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,966.17 จุด                             ลดลง 119.84 จุด     -0.99%


ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,033.64 จุด                           ลดลง 49.88 จุด      -0.98%


ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,861.90 จุด                เพิ่มขึ้น 45.60 จุด     +0.78%


ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,891.50 จุด                   เพิ่มขึ้น 45.40 จุด     +0.78%


ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,586.44 จุด                             เพิ่มขึ้น 64.57 จุด     +0.68%


ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,206.99 จุด                         ลดลง 204.41 จุด     -1.05%


ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,041.03 จุด                           เพิ่มขึ้น 10.99 จุด     +0.54%


ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,747.90 จุด                        ลดลง 38.67 จุด      -1.02%


ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,940.49 จุด                    เพิ่มขึ้น 41.08 จุด     +0.52%


ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,900.89 จุด                              เพิ่มขึ้น 45.77 จุด     +0.18%


ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,518.68 จุด              เพิ่มขึ้น 80.02 จุด     +1.47%


ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,830.78 จุด                         เพิ่มขึ้น 8.95 จุด      +0.49%


ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,447.01 จุด                         ลดลง 7.25 จุด       -0.21%


ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,957.49 จุด                           ลดลง 18.37 จุด      -0.07%


อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

61022
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดร่วง $2.1 เหตุดอลล์แข็ง,วิตกเฟดขึ้นดบ.



สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 เมษายน 2558 07:45:16 น.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้


สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,183.20 ดอลลาร์/ออนซ์



สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 7.6 เซนต์ ปิดที่ 16.598 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 26 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,143.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 735.30 ดอลลาร์/ออนซ์


สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดไดออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เขาคาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราว่างงานของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้


การแสดงความเห็นของนายแลคเกอร์สอกคล้องกับที่นางเจเน็ต เยลเลนประธานเฟดได้กล่าวในระหว่างการแถลงในการประชุมที่จัดโดยเฟดสาขาซานฟรานซิสโกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาวะทางเศรษฐกิจ


อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

61023
ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.08 เหตุวิตกอุปทานน้ำมันสูงขึ้น



สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 เมษายน 2558 07:30:06 น.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมี.ค. รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่ายอดส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะเพิ่มขึ้น หากชาติมหาอำนาจมีมติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน



สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.60 ดอลลาร์/บาร์เรล


สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.11 ดอลลาร์/บาร์เรล


สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า กลุ่มโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 1 ใน 3 ของผลผลิตทั่วโลกนั้น มียอดการผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 481,000 บาร์เรล แตะระดับ 31.029 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2556


นักลงทุนจับตาดูผลการเจรจาในประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน จีน สหรัฐ รัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี รวมทั้งหัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งจัดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยนับเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งแรกนับตั้งแต่มีการตัดสินใจขยายกำหนดเส้นตายเมื่อเดือนพ.ย. 2557


ขณะที่นักการทูตหลายรายเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐ และชาติมหาอำนาจ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านแล้ว ขณะที่นายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย เดินทางกลับสู่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเข้าร่วมการหารือดังกล่าว


นักวิเคราะห์คาดว่า อิหร่านอาจจะเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากชาติตะวันตกตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน


ทั้งนี้ ปัจจุบัน อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังผลิตเกินความต้องการเป็นจำนวนถึง 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่าอิหร่านมีน้ำมันในสต็อกกว่า 30 ล้านบาร์เรล


อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

61024
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 200.19 จุด หุ้นพลังงานดิ่ง,วิตกเฟดขึ้นดบ.



สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 เมษายน 2558 06:28:14 น.


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ริชมอนด์ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วขึ้น


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,776.12 จุด ร่วงลง 200.19 จุด หรือ -1.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,900.88 จุด ลดลง 46.56 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.89 จุด ลดลง 18.35 จุด หรือ -0.88%



สำหรับตลอดเดือนก.พ.นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 2% ดัชนี S&P 500 ปรับลง 1.7% และดัชนี NASDAQ ร่วงลง 1.3%


ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาบ้านทั่วสหรัฐ ที่ขยับขึ้นเพียง 4.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกประจำเดือนมี.ค.ขยับขึ้นสู่ระดับ 46.3 จากระดับ 45.8 ในเดือนก.พ.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552


นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากที่นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เขาคาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราว่างงานของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วขึ้น


หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง นำโดยหุ้นเชฟรอนร่วงลง 1.8% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับลง 0.7% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมี.ค.


หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลงเช่นกัน รวมถึงหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นดิสคัฟเวอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส


นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานอาจจะเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่า อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.


อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

61025


"บิ๊กตู่" เล็งใช้มาตรา 44 ออกกฎหมาย แก้ปัญหาสวนยางบุกรุกป่า เชื่อเกิดผลดีมากกว่าเสีย


วันอังคาร 31 มีนาคม 2558 เวลา 17:58 น.

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการแก้ไขปัญหายางพารา ว่า เราต้องจัดสรรทรัพยากรในพื้นที่ที่มีการบุกรุก โดยจะไปดูในเรื่องการปลูกพืชเศรษฐกิจในพื้นที่เหล่านั้น บางอย่างปลูกเกิน บางอย่างผลิตเกิน ฉะนั้นต้องเคลียร์ในเรื่องนี้และรัฐจะดูแลตามความเหมาะสม ขณะนี้กำลังหาทางว่าจะใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 ออกกฎหมายแก้ปัญหาได้หรือไม่ ซึ่งเรากำลังหารืออยู่เพื่อให้เอาไม้ยางตามป่าเขา ออกมาข้างนอกได้ เพราะตามกฎหมายปกติเอาออกมาไม่ได้ โดยเรื่องนี้ถือว่าจำเป็น เพราะ สนช.ไม่สามารถออกกฎหมายได้ทัน ถามว่ากลัวมาตรา 44 หรือไม่ ตนมองว่าดีเสียอีก เพราะทำงานได้เยอะกว่าเดิม เพราะกฎอัยการศึกใช้ในความมั่นคงเป็นหลัก.






ที่มา เดลินิวส์

61026
ลุยแก้ยางทั้งระบบ เตรียมพร้อมเปิดกรีดใหม่ วัดฝีมือ 'อำนวย' อยู่หรือไป


วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2015 เวลา 09:00 น.



อำนวย ปะติเส  จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลทำให้ "ยางพารา" พืชเศรษฐกิจไทยที่มีการส่งออกและสร้างรายได้เข้าประเทศปีละไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านบาท ทั้งในรูปวัตถุดิบ อาทิ ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง น้ำยางสด รวมถึงไม้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางแปรรูป ได้ประสบปัญหาราคาตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านครัวเรือนได้รับผลกระทบ ขณะที่สถานการณ์ทิศทางราคายางทั้งในและต่างประเทศ ณ เวลานี้ยังน่าห่วง "ฐานเศรษฐกิจ" ฉบับนี้สัมภาษณ์ นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแลยางพาราทั้งระบบของประเทศ ถึงการแก้ไขปัญหา และความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูการกรีดยางใหม่ที่จะเริ่มในเดือนพฤษภาคม
- 16 มาตรการยังอืด


นายอำนวยกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลชุดปัจจุบันได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหา และพัฒนายางทั้งระบบรวม 16 มาตรการซึ่งอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการประกอบด้วย 1.โครงการบริหารจัดการสต๊อกยางพาราของรัฐ 2.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางพารา วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท 3.โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา วงเงิน 5 พันล้านบาท 4.โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท
5.โครงการควบคุมปริมาณการผลิต 6.โครงการลดต้นทุนการผลิต 7.โครงการผลิตเพื่อเสริมรายได้ในสวนยางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 8.โครงการพัฒนาตลาดตามแผนปรับโครงสร้างระบบตลาดยางพารา 9.โครงการจัดตั้งสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมยาง 10.โครงการจัดหาตลาดใหม่เพื่อการส่งออกยางพารา 11.โครงการส่งเสริมการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์ยางในประเทศ/โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง 12.โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง 13.โครงการชดเชยรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง 14.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพเสริม วงสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท และ 16.โครงการสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท
"16 มาตรการนี้ ที่ผ่านมาบางโครงการก็เดินหน้าไปมาก แต่บางโครงการก็ยังไม่เดินเลย ดังนั้นในฤดูการผลิตยางที่จะเปิดกรีดในรอบใหม่ในเดือนพฤษภาคมนี้จะต้องขับเคลื่อนทุกโครงการให้ได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวสวนยาง"
-สต๊อกเก่าคาดขาดทุนหมื่นล.
ในส่วนของสต๊อกยางพารา 2.1 แสนตันที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคายางในประเทศตกต่ำ ที่รัฐบาลชุดก่อนได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางโดยใช้เงินซื้อแทรกแซงราคาจากเกษตรกรรวมค่าบริหารจัดการ 2.2 หมื่นล้านบาท (โดยองค์การสวนยาง หรือ อ.ส.ย.ได้รับซื้อยางแผ่นดิบจากเกษตรกรราคาประกันที่กิโลกรัมละ 100 บาท และยางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 กิโลกรัมละ 104 บาท)  ซึ่งยางจำนวนดังกล่าวทาง อ.ส.ย.ได้ลงนามซื้อขายกับบริษัท ไชน่า ไห่หนาน รับเบอร์  อินดัสทรีกรุ๊ป จำกัด จากจีนไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 และอยู่ระหว่างการส่งมอบให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน
"ทั้งนี้หากประเมินผลการปิดบัญชีโครงการในเบื้องต้น โดยคำนวณตามหลักบัญชีทางคณิตศาสตร์โดยประเมินจากราคาซื้อที่ซื้อมากับราคาที่ขายไปรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โครงการ จะขาดทุนระหว่าง 8 พัน-1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อมีการส่งมอบสินค้าแล้วเสร็จและได้เงินแล้วจะนำส่งคืนให้กระทรวงการคลังต่อไป ขณะเดียวกันปัจจุบัน อ.ส.ย.ยังมีสัญญาซื้อขายยางใหม่กับไชน่า ไห่หนาน อีก 2 แสนตันโดยให้ราคาในส่วนของยางแผ่นรมควันที่ 63 บาท/กิโลกรัม กำหนดส่งมอบเดือนละ 1-2 หมื่นตัน โดยให้ส่งมอบ 2 หมื่นตันแรกก่อน เริ่มส่งตั้งแต่หลังตรุษจีนที่ผ่านมา กำหนดส่งมอบให้แล้วเสร็จใน 12 เดือน"
นอกจากนี้ทาง อ.ส.ย.ยังอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดเพื่อซื้อขายยางแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)กับจีน ผ่านทางบริษัทซิโนเคมฯ (Sinochem) อีก 2 แสนตันแลกการจัดซื้อหัวรถจักรจากจีน ราคาขายจะใช้ราคาตลาดล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ 90% และตลาดโตคอม 10% โดยนำราคาทั้ง 2 ตลาดมาหารถัวเฉลี่ย แล้วบวกด้วยราคาพิเศษจากรัฐบาลจีน โดยทั้ง 2 สัญญาใหม่รวมเป็น 4 แสนตันที่ไทยต้องส่งมอบให้กับรัฐบาลจีนนี้ คิดเป็น สัดส่วน 5% ของผลผลิตยางทั้งประเทศ 4  ล้านตัน ขณะเดียวกันรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ ได้พยายามเปิดตลาดใหม่ทั้งตลาดอินเดีย และฝรั่งเศส เพื่อซื้อขายยางในรูปแบบจีทูจี
-ปรับแผนราคารับซื้อใหม่
ด้านโครงสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง(บัฟเฟอร์ฟันด์) ที่ให้ อ.ส.ย. เข้าซื้อยางในราคาชี้นำราคาตลาด วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ความคืบหน้าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ถึง วันที่ 6 มีนาคม 2558 (ที่ปิดโครงการแล้วจากยางผลัดใบและเกษตรกรปิดกรีดยาง) มีปริมาณยางรับซื้อจำนวน  1.2-1.3 แสนตัน ซึ่งมีการบริหารสต๊อกยางของโครงการในลักษณะที่เป็น Moving Stock  ซื้อมา-ขายไป ไม่เก็บไว้นาน สำหรับแผนบัฟเฟอร์ฟันด์ รอบ 2 เริ่มฤดูการเปิดกรีดยางใหม่ในเดือนพฤษภาคมคมนี้ จะดึงตลาดเครือข่ายของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.)ที่มีอยู่ 108 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วม เพื่อตัดปัญหายี่ปั๊ว ซาปั๊วกดราคารับซื้อยางจากเกษตรกร และจะเปลี่ยนรูปแบบจากเดิม ที่จะกำหนดราคากลางในการซื้อยางจากใช้ราคาของตลาดกลาง 6 แห่งของสถาบันวิจัยยาง บวก 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็นกำหนดตามราคาเอฟโอบีบวกอีกกิโลกรัมละ 1 บาท  เชื่อว่าจะสามารถดึงราคาให้ปรับเพิ่มขึ้นตามกลไกตลาด หากเป็นไปได้จะทำใบคำสั่งซื้อ ที่รับรองโดย อ.ส.ย. ให้เกษตรกร แล้วส่งเงินถึงบัญชีเกษตรกรโดยตรง
"เพื่อรองรับฤดูการเปิดกรีดยางใหม่ ได้ขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด 69 จังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยาง ให้จัดทำข้อมูลยางพาราอย่างเป็นระบบ ทั้งพื้นที่ ผลผลิตที่ออกสู่ตลาด ผู้รับซื้อยางพารา จำนวนโรงงานในจังหวัด โดยให้รายงานมายังกระทรวงเกษตรฯภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากพบความผิดปกติ ซัพพลายเทียมพุ่ง สูงกว่าข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จะให้จัดทำใหม่"
-เดิมพันตำแหน่งอยู่หรือไป
ทั้งนี้ในวันที่ 2 เมษายน 2558  จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการ(เวิร์กช็อป)ใหม่ ในงานวันพระยารัษฎา บิดายางพาราไทย และวันยางพาราแห่งชาติ ประจำปี 2558 หัวข้อ "ฝ่าวิกฤติยางพารา พัฒนาอย่างยั่งยืน" ที่จังหวัดตรัง  จากนโยบายของรัฐบาลตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ยังมีปัญหาอุปสรรค จะได้หารือกันถึงข้อดี ข้อเสียอย่างไร เพื่อช่วยกันหาทางออกและข้อเสนอแนะสำหรับปรับปรุงแนวทางการพัฒนายางพาราของประเทศให้นำไปสู่ความยั่งยืน เป็นข้อมูลสำคัญที่รัฐบาลต้องการนำไปใช้สำหรับวางนโยบายพัฒนายางพาราทั้งระบบของประเทศใน ปี 2558/2559 แล้วจะทำเป็นฐานข้อมูลนำมาประมวลอีกครั้งในวันที่ 4 เมษายนนี้ ที่ สศก. หลังจากนั้นจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป
"จากนี้มาตรการทั้งหมดจะเน้นนำ เงินให้ถึงมือเกษตรกรมากที่สุด โดยแผนงาน/นโยบายที่มีเดิมและที่ปรับปรุงใหม่จะเป็นตัวกำหนดชี้ชะตาการทำงานของผมด้วย"


จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,039  วันที่ 29 มีนาคม - 1 เมษายน  พ.ศ. 2558

61027

สัญญานเผาจริงการปลดพนักงานของแต่ละค่ายธุรกิจ


1. Honda เพิ่มวันหยุดยาว ในเดือนเมษายน พฤษภาคม กรกฎาคม สิงหาคม มีวันหยุด ติดต่อกัน 10 วัน และหยุดทุกวันเสาร์- อาทิตย์


2. Toyota เริ่มทยอยปลดพนักงาน Sup ไป 1 lot แล้ว เนื่องจากเเบกรับภาระขาดทุน ไม่ไหว รถที่ผลิตออกมาจอดเต็ม Stock ขายไม่ได้


3. GM ปลดพนักงาน Sup ออกหมดเเล้ว เเละแบรนด์เนมที่เป็นของ Isuzu ให้นำกลับไป ประกอบที่สำโรงเเล้วเพื่อลด Cost ส่วน บ. แม่ GM ที่อเมริกา ทางรัฐบาลของสหรัฐ อุ้มไว้เเล้ว หากไม่อุ้มอีก 3 เดือนข้างหน้า GM จะล้มละลาย


4. Nissan ลดการผลิตลง 50% เเละกำลังลดพนักงานออกชุดเเรก เดือนหน้า


5. Misubishi ยังมียอดขายที่ต่างประเทศอยู่บ้าง จะกระทบจริงเดือน มค. ปีหน้า


6. AAT กำลังทำกิจกรรมลดต้นทุนอย่างหนัก ทั้งไม่ให้มี OT ทำกิจกรรรม Balance งานใหม่ทั้งระบบเพื่อลดค่าใช้จ่าย เเละยังไม่ปลดคน...ปีหน้าไม่เเน่


7. Fujisu เอาออกไปแล้ว 300 คน


8.Seiko Instrument เอาออกไปแล้ว 400 คน


9. Statschippac ตั้งแต่เดือนหน้า หยุดทำงานทุกๆวันจันทร์


10.TOT เท9พันล้านโละพนักงานอีกกว่า 3,500คน ลดภาระเงินเดือนที่จ่ายปีละ 1.4หมื่นล้าน


11. Sumsung - lg ย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปเวียดนาม และยกเลิกสายการผลิตtvในไทย


12. อินโด ปิดน่านน้ำ ส่งผลให้ แรงงานประมงกว่า 3,000 อัตรา จ่อตกงาน ธุรกิจประมงขาดทุนยับ!!


12.การบินไทย ปรับลงพนักงานอีกกว่า 5,000 อัตรา หลังขาดทุนต่อเนื่อง!!


13.เครือ eu ยกเลิกการนำเข้าสินค้าประมงไทย สิ้นเดือนนี้!
หากไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ / ประชาธิปไตยได้


14.ธุรกิจท่องเที่ยวชั้น เฟริสคราส จ่อเจ๊งยับ!! หลังหลายประเทศ ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ยกเลิกกฏอัยการศึก!


15. โรงแรมใหญ่ๆ ในประเทศไทย ทะยอยปิดตัว หลังนักท่องเที่ยวหดหาย แบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว ยกตัวอย่าง รร. เก่าแก่ อย่าง อิมพีเรียล ควีนปาร์ค ที่ ปิดตัวลงเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา


16.นิคอน โตโยต้า ย้ายฐานการผลิตจากไทยแต่เริ่มไปเปิดฐานการลงทุนใหม่ ที่ประเทศลาว โดยเริ่มบุกตลาดด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร และ พลังงาน


17.หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ - ขนาดกลาง เริ่มปรับลดโอที หลังประสบปัญหาขาดทุน/ยอดสั่งซื้อลดลงต่อเนื่อง...!!!phigo


ขอขอบคุณ คุณ Louisphigo49 (กลุ่มช่วยเหลือแบ่งปัน 12 มี.ค.2558)

61028
ปลดฟ้าผ่า!" ผจก..มูลภัณฑ์กันชน"พบเอื้อ ?กลุ่มทุนยางพารา?หมื่นล้าน


สั่งปลด" ผจก.โครงการมูลภัณฑ์กันชน"แก้ปัญหายางพาราล้มเหลว หลังพบเอื้อประโยชน์ให้ต่อกลุ่มทุนและพ่อค้าคนกลาง กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ทั้งที่เงินถึงมือเกษตรกรแค่ 10%

วันนี้(31 มี.ค.) มีรายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ลงนามในคำสั่งเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ปลด นางเรไร รัตนสุภา ผู้จัดการโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง เนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้สั่งการให้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จความไม่โปร่งใสในการใช้เงินโครงการมูลภัณฑ์กันชนกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท

ซึ่งนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยให้เวลา 15 วัน เพื่อเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ต้องการให้สอบข้อเท็จจริงถึงเหตุที่เงินในโครงการไม่ถึงมือเกษตรกรชาวสวนยาง และการซื้อยางในโครงการมีการทุจริตหรือเอื้อต่อพ่อค้าคนกลางหรือไม่
ก่อนหน้านี้นายกฯและรองนายกฯได้รับข้อมูลจากนายทหารในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้เงินและได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรสวนยางว่าเม็ดเงินจากโครงการมูลภัฑณ์กันชน ถึงมือเกษตรกรแค่ 10% แต่ไปตกอยู่ในมือพ่อค้าและเอกชนในวงการยางทั้งหมดโดยมีความสนิทกับเจ้าหน้าที่องค์การสวนยาง(อสย.)ในพื้นที่รับเปิดจุดรับซื้อยางแผ่นรมควันชั้นสาม เพื่อพยุงราคายางที่ราคา 62 บาทต่อกิโลกรัม ทั่วประเทศ

พบว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้พ่อค้ามากกว่าเกษตรกร ขนยางใส่รถปิกอัพไปขายแต่ต้องรอคิวไม่ต่ำกว่า3-4วัน ทำให้ไม่คุ้มกับต้นทุนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายขนไปขายยังจุดรับซื้อของอสย.อยู่ในตัวเมือง ยังโดนกลุ่มพ่อค้าจองคิวขายไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้โครงการดังกล่าวไม่ช่วยดึงราคายางหน้าสวนยางยังอยู่ราคา 38-40 บาทเท่านั้น และคาดว่าราคายางในฤดูเปิดกรีดใหม่ช่วงเดือนพ.ค.ยังตกต่ำต่อไปเพราะ มียางค้างสต็อกจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กว่า2.1แสนตันและ จากรัฐบาลคสช. ที่ใช้เงินในโครงการมูลภัณฑ์กันชนฯ รับซื้อมาใหม่กว่า1แสนตัน

มีรายงานว่า นางเรไร รัตนสุภา จะกลับไปนั่ง ตำแหน่ง ปฏิบัติการแทน ผอ.สำนักยุทธศาสตร์และพัฒนาองค์กร องค์การสวนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

61029
คยปท. ชี้! หลังสงกรานต์ประกาศขยับราคายางฯ


 โดย ไทยรัฐออนไลน์ 31 มี.ค. 2558 15:30

คยปท. ประกาศหลังเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะขับเคลื่อนราคายางพารา พร้อมตรวจสอบโครงการมูลภัณฑ์กันชน ขณะที่ชาวสวนยังกรีดยางต่อ เหตุไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว...

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.58 นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผยว่า หลังเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทาง คยปท.จะเริ่มดำเนินการ การขับเคลื่อนราคายางพาราอีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นช่วงฤดูกาลปิดหน้ากรีด โดยชาวสวนยางพาราจะเปิดหน้ากรีดยางในช่วงปลายเดือนเมษายนและต้นเดือนพฤษภาคม

โดย คยปท.จะเริ่มเสนอชุดความจริงตรวจสอบขายยางพาราที่ค้างสต๊อก 210,000 ตัน เช่น สัญญาซื้อขาย การส่งมอบยางพาราแต่ละครั้ง จนกระทั่งสิ้นวันส่งมอบยางพาราทั้งหมด จำนวน 210,000 ตัน จากนั้นก็จะมีการตรวจสอบยางพาราในโครงการมูลภัณฑ์กันชน ว่ามีจำนวนเท่าใด ตลอดจนมีการตรวจสอบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยางพาราในโครงการมูลภัณฑ์กันชนและฝ่ายเศรษฐกิจรัฐบาลด้วย

ส่วนทางด้าน น.ส.ปราณี จิตนารี เกษตรกรชาวสวนยางพาราในเขตเทศบาลตำบลเขาหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงนี้จะเป็นฤดูกาลยางผลัดใบ ซึ่งชาวสวนยางพาราจะหยุดกรีดกัน แต่ชาวสวนยางพาราอีกจำนวนหนึ่งจะต้องกรีดกันต่อไป เนื่องจากเกษตรกรไม่มีรายได้ทางด้านอื่นๆ มาเลี้ยงครอบครัว และต้องเก็บเงินเพื่อเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่ายของบุตรหลานในช่วงเปิดเทอมนี้ จนทำให้น้ำยางสดหดตัวลงไปมาก อย่างไรก็ตามสำหรับสวนยางพาราของตนนั้นเมื่อก่อนกรีดได้วันละ 50-60 กก. แต่มาวันนี้ได้ประมาณวันละ 20 กก. เท่านั้น โดยราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 48 บาทเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่มีค่าใช้จ่ายในครัวเรือนทุกๆ วัน.

61030

สรุปราคาปิดตลาด ยางตลาดล่วงหน้า ประจำวัน อังคาร ที่ 31  มีนาคม  2558

เปรียบเทียบเปอเซนต์ราคายาง RSS3 ตลาดล่วงหน้า(ราคาปิดตลาด)
TOCOM Day ราคา Settle ลดลง -1.01%
SHFE ปิดตลาด  ลดลง -1.44%
AFET ปิดตลาด  ลดลง -0.14%
SICOM  ราคาลดลง -1.88 %


รายละเอียดการปิดตลาดต่างๆมีดังนี้...
=========================
ราคาปิดตลาด TOCOM ช่วง Day Session


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 11,298 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ตัวแทนตลาด ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด 5,546 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 208.30 เยน โดยราคาเปิด  เพิ่มขึ้น 0.30 เยน(0.14%)
ขึ้นไปสูงสุด 208.60 เยน โดยราคาสูงสุด  เพิ่มขึ้น 0.60 เยน(0.29%)
ลงไปต่ำสุด 205.60 เยน โดยราคาต่ำสุด  ลดลง -2.40 เยน(-1.15%)
ปิดตลาดที่ 205.6 เยน โดยราคาปิด  ลดลง -2.4 เยน(-1.153846154%)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) 3 เยน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด) -2.7เยน
ส่วนราคา Settle อยู่ที่205.9 เยน
ราคา Settle ลดลง -2.1 เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -1.009615385%
เทียบจากราคา(Settle)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)55.81949 บาท/กก. ลดลง -0.56931บาท/กก. และ หากคำนวนจากเยนญี่ปุ่นเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย) 1.716262399 ดอลลาร์/กก.ลดลง -0.017504376 ดอลลาร์/กก.
สัญญา(TOCOM)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 28614 สัญญา ปัจจุบัน 27825 สัญญา  ลดลง -789 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2711 บาท/เยนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ = 119.97 เยน)


AFET ปิดตลาด ยาง RSS3 


ยาง RSS มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น68 สัญญา
ราคาเดือน ตัวแทนตลดา ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น39 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่55.90บาท/กก. ราคาเปิด ลดลง -0.1 บาท/กก.
ขึ้นไปสูงสุดที่56.00บาท/กก. ราคาสูงสุด ลดลง 0 บาท/กก.
ลงไปต่ำสุดที่ 55.7บาท/กก. ราคาต่ำสุด  ลดลง -0.3 บาท/กก.
ราคาสูงสุดกับต่ำสุดต่างกัน 0.3 บาท
ปิดตลาดที่55.75บาท/กก.คิดเป็นราคาดอลลาร์ = 1.714224217 ดอลลาร์/กก. (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 32.522 บาท/ดอลลาร์)
ราคา ลดลง -0.25 บาท/กก. (หรือเปลี่ยนแปลง -0.007687104 ดอลลาร์/กก.)
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -0.14%
สัญญา(AFET)ที่เปิดสถานะ(OI)งวดก่อน1463 สัญญา ปัจจุบัน 1468 สัญญา  เพิ่มขึ้น 5 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน


ราคาปิดตลาด(Close)ยางเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน(SHFE)


มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น433600 สัญญา *** Volume คือ จำนวนสัญญาที่มีการจับคู่ซื้อขายกันในแต่ละวัน
ราคาเดือนก.ย. 2015ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น383832 สัญญา
เปิดซื้อขายกันที่ 12650 หยวน/ตัน ราคาเปิดตลาดเปลี่ยนแปลง  ลดลง -70 หยวน/ตัน  หรือ -0.550314465%
ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 12750 หยวน/ตัน ราคาสูงสุดเปลี่ยนแปลง  เพิ่มขึ้น 30 หยวน/ตัน  หรือ 0.235294118%
ลงไปต่ำสุดของวันที่ 12510 หยวน/ตัน ราคาต่ำสุดเปลี่ยนแปลง  ลดลง -210 หยวน/ตัน  หรือ -1.678657074%
และมาปิดที่ 12540 หยวน/ตัน ราคาปิดเปลี่ยนแปลง ลดลง -180 หยวน/ตัน  หรือ -1.435406699%
 ***ส่วนต่างคำนวณจาก(ราคาปิด)ลบ(ราคาSettleงวดก่อน)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) ห่างกัน240 หยวน/ตัน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด)  ลบ -110 หยวน/ตัน
ส่วนราคา settle ของยางเซี่ยงไฮ้ SHFE เดือนส่งมอบ42248 อยู่ที่ 12635หยวน/ตัน ลดลง-85 หยวน/ตัน หรือ -0.668238994%
ราคาปิดและราคาSettleเท่ากัน-85 หยวน
เทียบจาก(ราคาปิด)คิดเป็นเงินไทย(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)65.80490198บาท/กก. ลดลง -0.944567971บาท/กก. และ หากคำนวนจากหยวนเป็นดอลลาร์สหรัฐ(ก่อนหักค่าใช้จ่าย)2023.396531 ดอลลาร์/ตัน คิดเป็นกิโลกรัม =2.023396531 ดอลลาร์/กก. เปลี่ยนแปลง ลดลง -29.04396934
สัญญา(SHFE)ที่เปิดสถานะ(OI)ก่อนหน้านี้311546สัญญาสัญญาที่เปิดสถานะ(OI)วันนี้309726สัญญา ลดลง -1820สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน ดอลลาร์/ตัน คิดเป็นกิโลกรัม = ดอลลาร์/กก.
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท=5.247599839บาท/หยวนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ =6.1975หยวน)*ที่มา Bloomberg

ราคาปิดตลาดยาง SICOM ประเทศสิงค์โปร์




ราคายางRSS3 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน เม.ย.ปิดที่169.4 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -1.1 เซนต์สหรัฐ
เปิดซื้อขายที่170.8 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดเพิ่มขึ้น 0.30 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด171 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 168.5 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -2.00 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 279 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคารมแผ่นได้ในกรอบ 45-49 บาท เฉลี่ย 47 บาท


ราคายางTSR20 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน เม.ย.ปิดที่145 เซนต์สหรัฐ  ราคาเพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์สหรัฐ
เปิดซื้อขายที่143 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดเพิ่มขึ้น 0.20 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด145 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 142.5 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -0.3 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 1995 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคาเศษยางได้ในกรอบ 35-41 บาท เฉลี่ย 38 บาท


หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle


=====================================================================
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net




61031

ราคาปิดตลาดยาง SICOM ประเทศสิงค์โปร์ ประจำวัน อังคาร ที่ 31มีนาคม2558 ราคายาง RSS3 ราคาเดือนเม.ย. ราคาลดลง -1.1เซนต์สหรัฐ ปิดที่169.4  เซนต์สหรัฐ



ราคายางRSS3
ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน เม.ย.ปิดที่169.4 เซนต์สหรัฐ  ราคาลดลง -1.1 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ -1.88 %
เปิดซื้อขายที่170.8 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดเพิ่มขึ้น 0.30 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด171 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 168.5 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -2.00 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 279 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคารมแผ่นได้ในกรอบ 45-49 บาท เฉลี่ย 47 บาท


Contract MonthLastChg From Prev SettleBidAskOpenHighLowCloseVolOpen IntSettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
Eเม.ย.-15169.4-1.1--170.8171168.5-1541,167-170.555.09-0.36-0.65%
Eพ.ค.-151720.2169.1171.5171.5172171.5-6915-171.855.940.07+0.12%
Eมิ.ย.-15171-1.5169172.3171.7171.8171-20823-172.555.61-0.49-0.87%
Eก.ค.-15171.8-1.5171.6171.9171.9171.9170-53755-173.355.87-0.49-0.87%
Eส.ค.-15171-1170.5172171.4172169-41172-17255.61-0.33-0.58%
Eก.ย.-15171.5-1.5169173171.5171.5171.5-5161-17355.78-0.49-0.87%
Eต.ค.-15--166173.5-----29-1750000
Eพ.ย.-15--163174.5-----0-175.80000
Eธ.ค.-15---------0-176.50000
Eม.ค.-16---------0-177.50000
Eก.พ.-16---------0-178.50000
Eมี.ค.-16---------0-179.50000
total
279
4022


ราคายางTSR20
ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน เม.ย.ปิดที่145 เซนต์สหรัฐ  ราคาเพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ 3.14 %
เปิดซื้อขายที่143 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดเพิ่มขึ้น 0.20 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด145 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 142.5 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -0.3 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขาย 1995 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิดราคาเศษยางได้ในกรอบ 35-41 บาท เฉลี่ย 38 บาท


Contract MonthLastChg From Prev SettleBidAskOpenHighLowCloseVolOpen IntSettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
Eเม.ย.-151452.2137146.4143145142.5-22207-142.847.160.72+1.54%
Eพ.ค.-15141.7-1.9141.7142142.6142.6141-1336,108-143.646.08-0.62-1.32%
Eมิ.ย.-15141.8-2.3141.3142.6143.8143.8141-2745,364-144.146.12-0.75-1.60%
Eก.ค.-15142.6-3.3142143.5145145141.6-3444,653-145.946.38-1.07-2.26%
Eส.ค.-15144-2.1143.1144.1145.3145.3142-4474,322-146.146.83-0.68-1.44%
Eก.ย.-15142.7-3.7143144.5146.9146.9142.5-2602,640-146.446.41-1.20-2.53%
Eต.ค.-15144-2.6143.5-145145143.4-1071,766-146.646.83-0.85-1.77%
Eพ.ย.-15145.5-2.1143.8145.3146146143.6-1381,301-147.647.32-0.68-1.42%
Eธ.ค.-15146-2.4145.5146147.3147.3144.3-197643-148.447.48-0.78-1.62%
Eม.ค.-16147-2.2-148.5147147147-20448-149.247.81-0.72-1.47%
Eก.พ.-16148-1.7146-148148148-15333-149.748.13-0.55-1.14%
Eมี.ค.-16147.7-2.3147-147.8148.3146.8-38109-15048.03-0.75-1.53%
total
1995[/t][/t] 27,894



หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle



จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61032

TOCOM ปิดตลาดช่วง Night Session ประจำวัน อังคาร ที่31มีนาคม 2558ก.ย.-2015ลดลง-0.3เยน ปิดที่205.60เยนปริมาณ
                                                                                                                                                             
มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น3,308สัญญา
ราคาส่งมอบเดือนก.ย.-2015ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด2,097สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่205.20เยน โดยราคาเปิดลดลง-0.70เยน
ขึ้นไปสูงสุด207.20เยน โดยราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น1.30เยน
ลงไปต่ำสุด205.20เยน โดยราคาต่ำสุดเพิ่มขึ้น-0.70เยน
ปิดตลาดที่205.60เยน โดยราคาปิดเพิ่มขึ้น-0.30เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์-0.15%
คิดเป็นเงินไทย55.92บาท/กก.ลดลง-0.08บาท
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน0.272บาท/100เยน)
หากคำนวณจากราคาเปิดราคา เพิ่มขึ้น0.40เยน
ราคาต่ำสุดและราคาสูงสุด บวกลบกันแล้วห่างกัน2.00เยน


หมายเหต : ราคาปิดช่วง Night Session ดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวตั้งในการคำนวณราคาในวันถัดไป การคำนวณราคาในวันถัดไปจะใช้ราคา settement price ของช่วง Day session เท่ากับ205.90เยน


MonthLast Settlement PriceOpenHighLowCloseChangeVolumeSettlement%Changeคิดเป็นเงินไทย(บาท/กก.)เปลี่ยน(บาท)
Apr-152082082082082080129-
0.00
56.58
0.00
May-15209208.1209.3208.12090157-
0.00
56.85
0.00
Jun-15209.1209209.7208.7209.20.114-
0.05
56.90
0.03
Jul-15206.3206.2207.4206206.2-0.1132-
-0.05
56.09
-0.03
Aug-15205.8205.3207.2205.2205.6-0.2779-
-0.10
55.92
-0.05
Sep-15205.9205.2207.2205.2205.6-0.32,097-
-0.15
55.92
-0.08
Total 3,308
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61033

AFET ปิดตลาด ยาง RSS3  ประจำวัน อังคาร ที่ 31 มีนาคม 2558พ.ย.-2015 ลดลง -0.25 บาท ปิดที่ราคา  55.75 บาท ปริมาณการซื้อขาย 39สัญญา


ยาง RSS มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น68 สัญญา
ราคาเดือน พ.ย.-2015 ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น39 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่55.90บาท/กก. ราคาเปิด ลดลง -0.1 บาท/กก.
ขึ้นไปสูงสุดที่56.00บาท/กก. ราคาสูงสุด ลดลง 0 บาท/กก.
ลงไปต่ำสุดที่ 55.70บาท/กก. ราคาต่ำสุด  ลดลง -0.3 บาท/กก.
ราคาสูงสุดกับต่ำสุดต่างกัน 0.30 บาท
ปิดตลาดที่55.75บาท/กก.คิดเป็นราคาดอลลาร์ = 1.71 ดอลลาร์/กก. (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 32.529 บาท/ดอลลาร์)
ราคา ลดลง -0.25 บาท/กก. (หรือเปลี่ยนแปลง -0.01 ดอลลาร์/กก.)
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ลดลง -0.14%
สัญญา(AFET)ที่เปิดสถานะ(OI)งวดก่อน1,463 สัญญา ปัจจุบัน 1,468 สัญญา  เพิ่มขึ้น 5 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน



แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับวันพรุ่งนี้         
รูปแบบของการคำนวณ/Pivot point         
Levels   Standard   Woodie   Fibonacci
แนวต้านที่ 3   56.23   56.40   56.12
แนวต้านที่ 2   56.12   56.10   56.00
แนวต้านที่ 1   55.93   55.90   55.93
จุดกึ่งกลาง   55.82   55.80   55.82
แนวรับที่ 1   55.63   55.60   55.70
แนวรับที่ 2   55.52   55.50   55.63
แนวรับที่ 3   55.33   55.20   55.52
         
หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน         
         
 
ContractOpenHighLowBidBidOfferOfferLastLastChg.Settle. PriceVolumeOpen Interest
MonthVol.Vol.Vol.Prev.NewChg.Total*EFP Prev.Curr.Chg.
Req.
May-15
4
55.3
56
2
55.5
55.5
0
0
0
190
190
0
Jun-15
1
55.7
57.1
4
56.2
55.7
-0.5
0
0
213
213
0
Jul-15
2
55.6
57.2
1
56.2
55.65
-0.55
0
0
148
148
0
Aug-15
2
55.8
57.2
1
56.3
56.3
0
0
0
248
248
0
Sep-15
55.8
55.8
55.8
1
55.8
57
1
55.8
1
-0.5
56.3
55.8
-0.5
1
0
264
263
-1
Oct-15
56.8
56.8
55.8
3
55.8
56
8
55.8
2
-0.4
56.2
55.8
-0.4
28
0
348
331
-17
Nov-15
55.9
56
55.7
3
55.75
56
4
55.75
1
-0.25
56
55.75
-0.25
39
0
52
75
23
contract = 5,000 kg; price quotation = Baht/kgTotal
68
0
1,463
1,468
5
       
         
จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

61034
ล้มดีลยางอีกถึงคิวไห่หนานอำนวยปัดไม่รู้



บิ๊กอ.ส.ย.จ่อล้มสัญญา "ไชน่า ไห่หนานฯ" ยางเก่าพ่วงยางใหม่ 4.1 แสนตัน ระบุผิดสัญญารับมอบสินค้าไม่ทัน 31 มี.ค.นี้ เผยล่าสุดยังรับมอบได้แค่ 2 พันตันเศษ จากเงื่อนไขเดือนละ 2 หมื่นตัน ด้าน "อำนวย" โบ้ยยังไม่ได้รับรายงาน เตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริง ลั่น หากอ.ส.ย.บริหารสัญญาไม่ได้ จะลงไปจัดการเอง
นางเรไร รัตนสุภา ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) และผู้จัดการโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง หรือบัฟเฟอร์ฟันด์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"  ถึงการซื้อขายยางพาราในสต๊อกเก่าของรัฐบาล 2.1 แสนตัน พ่วงยางใหม่อีก 2 แสนตัน รวมประมาณ 4.1 แสนตัน ระหว่างอ.ส.ย.กับบริษัท ไชน่า ไห่หนาน รับเบอร์ อินดัสทรี กรุ๊ป จำกัด รัฐวิสาหกิจจีนว่า ล่าสุดทางอ.ส.ย.ได้เตรียมยกเลิกสัญญากับไชน่า ไห่หนานฯ เนื่องจากรับส่งมอบยางล่าช้ามาก ซึ่งนับจากวันที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 ล่าสุด ณ วันที่ 25 มีนาคม 2558 บริษัทเพิ่งมีการรับมอบยางไปเพียง 2 พันตันเศษ จากในสัญญาระบุจะมีรับมอบยางเดือนละ 2 หมื่นตัน ขณะที่สัญญาการรับมอบจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้ ทางอ.ส.ย. จะถือโอกาสยกเลิกสัญญาดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางรัฐบาล
สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ซึ่งได้ยินนางเรไรพูดหลายครั้งแล้วว่า สัญญาการส่งมอบของบริษัทดังกล่าวล่าช้ามาก ทางอ.ส.ย.ได้ทำหนังสือหลายครั้งเพื่อเร่งให้รับมอบยาง ขณะที่การจะยกเลิกสัญญาซื้อขาย อาจเพราะมีตัวเลือกใหม่ที่ดีกว่า เห็นได้จากช่วงนี้ทางรัฐบาลเองก็ได้มีการเดินทางไปเจรจาขายยางพารา และข้าวในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดมีหลายประเทศให้ความสนใจ และหากปล่อยให้ยืดเยื้ออาจจะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน จึงต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม ขณะที่เวลานี้อยู่ในช่วงฤดูปิดกรีด เรื่องดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบกับราคายางในตลาดมากนัก


ด้านแหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.)กล่าวว่า ในการประชุมกนย. ครั้งที่ 1/2558 (19 ก.พ. 58) ทางอ.ส.ย.ได้ทำรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อ รักษาเสถียรภาพราคายางในสต๊อกต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มียางแผ่นรมควันอัดก้อนและยางแท่งในโกดัง 44 แห่ง ประกอบด้วยยางแผ่นรมควันอัดก้อน จำนวน 36 โกดัง และยางแท่งจำนวน 8 โกดัง ปริมาณยางรวม 2.07 แสนตัน โดยแบ่งเป็นยางประเมินคือ แผ่นรมควันชั้น 1-5 (อัดก้อน) จำนวน 1.64 แสนตัน และยางแท่ง จำนวน 3.21 หมื่นตัน ส่วนยางที่ไม่ประเมินคือ ยางฟอง จำนวน 6.25 พันตัน และยางคัตติ้ง จำนวน 4.64 พันตัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ครม.ได้รับทราบแนวทางในการระบายยางในสต๊อกของอ.ส.ย. หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 อ.ส.ย.ได้ลงนามสัญญาซื้อขายยางพาราในโครงการเก่า (ผลิตปี 2554-2555) จำนวน 2.08 แสนตันกับไชน่า ไห่หนานฯ แบ่งเป็นยางแผ่นรมควันทุกประเภท 1.76 แสนตัน ราคาเอฟโอบี กิโลกรัมละ 63.56 บาท ยางแท่ง STR 20 จำนวน 3.2 หมื่นตัน ราคาเอฟโอบี กิโลกรัมละ 55.50 บาท กำหนดส่งมอบภายใน 10 เดือน (ครบกำหนด 21 ก.ย. 58) ส่วนยางใหม่ (ยางที่ผลิตในปี 2557-2558) ที่ขายพ่วงอีก 2 แสนตัน แยกเป็นยางแผ่นรมควันชั้น 3 จำนวน 1.5 แสนตัน ราคาเอฟโอบี 63.56 บาท/กิโลกรัม  และยางแท่ง STR 20 อีกจำนวน 5 หมื่นตัน ราคาเอฟโอบี 55.50 บาท/กิโลกรัม กำหนดส่งมอบภายใน 18 เดือน (ครบกำหนด 21 พ.ค. 59) ทั้งนี้กำหนดส่งมอบให้ใช้ราคาของงวดแรก 2 หมื่นตัน ส่วนงวดถัดไปใช้ราคาเอฟโอบี กรุงเทพฯ (ราคา ณ ท่าเรือต้นทาง) บวก 1 บาท เป็นงวดๆ ต่อเนื่องไปจนกว่าราคาเอฟโอบียางแผ่นรมควันชั้น 3 มีราคาเท่ากับกิโลกรัมละ 70 บาท คู่สัญญาจะได้ตกลงกันใหม่


ต่อเรื่องนี้ นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแลยางพาราทั้งระบบ กล่าวว่า เรื่องการซื้อขายยางกับไชน่า ไห่หนานฯ คงต้องว่ากันไปตามเงื่อนไขสัญญา ซึ่งข้อมูลความคืบหน้า ได้ให้อ.ส.ย.ทำรายงานให้รับทราบทุกวัน แต่ล่าสุดก็ยังไม่ได้รับรายงานว่าไชน่า ไห่หนานฯ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาและเตรียมบอกยกเลิก อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้อ.ส.ย.เป็นเจ้าของยางและเป็นผู้บริหารสัญญาการซื้อ ขาย หากถึงที่สุดแล้วไม่สามารถบริหารสัญญาให้เป็นไปตามเป้าหมายได้จะต้องตัดสิน ใจ และนำเรื่องเสนอต่อหน่วยเหนือให้รับทราบเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อ ไป (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์หน้า 6)
"เพิ่งทราบข่าวเรื่องนี้ และจะได้ลงไปจี้และตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ยางในสต๊อกราว 2.1 แสนตัน อ.ส.ย.ได้เซ็นสัญญาซื้อขายให้กับบริษัทยี่ฟังเหลียนจากสิงคโปร์ ซึ่งผมได้เข้าไปบอกยกเลิกสัญญาไปแล้ว จากเขาผิดสัญญารับมอบสินค้า อย่างไรก็ตามตามเป้าหมายเดิมที่เราขายยางในสต๊อกเก่า 2.1 แสนตันให้กับไชน่า ไห่หนานฯ เมื่อขายได้เงินแล้วจะส่งเงินคืนคลัง ส่วนยางใหม่อีก 2 แสนตัน จะเอาเงินมาหมุนในโครงการมูลภัณฑ์กันชนฯ"


ด้านแหล่งข่าวธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ทางอ.ส.ย.ได้ส่งคืนเงินกู้ ให้กับธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จำนวน 45.5 ล้านบาท จากโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ที่กู้ไปเป็นวงเงินจำนวน 2.2 หมื่นล้านบาท หากอ.ส.ย.ขายยางทั้งหมดได้เงินมา 1 หมื่นล้านบาทแล้วจะต้องคืนเงินให้กับธ.ก.ส. อีกทั้งอ.ส.ย.จะต้องดำเนินการขอสำนักงบประมาณชดเชยผลขาดทุน แล้วนำมาคืนให้กับธ.ก.ส.พร้อมกับดอกเบี้ย ส่วนยางในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯนั้น มีการอนุมัติให้อ.ส.ย.ขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ให้กับธ.ก.ส.ออกไป จากเดิมวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 และขยายระยะเวลาโครงการในส่วนการรับซื้อเพิ่มเติมอีก 6 พันล้านบาท รวมเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท ทางธ.ก.ส.ได้โอนให้กับอ.ส.ย.ไปเรียบร้อยแล้ว






หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

61035

ทิศทางตลาด TOCOM ประจำวันที่ 31/3/2558 (รอบNightวันนี้-Dayพรุ่งนี้)

บทความย้อนหลัง 30/3/2558

(เดือน ส.ค)
หากเปิดตลาดสามารถยืนเหนือจุดกึ่งกลางที่ 209 เยนได้ ให้มองกรอบบนอยู่บริเวณ แนวต้านแรกที่ 210.8 เยนหากสามารถทะลุขึ้นไปยืนได้แข็งแกร่งเรามามองต้านที่ 2 ที่ 213.4และ 215.2 ตามลำดับ

หากเปิดตลาดไม่สามารถยืนเหนือ จุดกึ่งกลางที่ 209 เยนได้ ให้มองกรอบล่างบริเวณ 206.4 เยน เป็นแนวรับแรก หากหลุดแนวรับดังกล่าว แนวรับถัดไปจะอยู่ 204.6 เยนและ 202 ตามลำดับ

(เดือน ก.ย)
เปิดตลาดสามารถยืนเหนือจุดกึ่งกลางที่ 208.6 เยนได้ ให้มองกรอบบนอยู่บริเวณ แนวต้านแรกที่ 210.4 เยนหากสามารถทะลุขึ้นไปยืนได้แข็งแกร่งเรามามองต้านที่ 2 ที่ 212.9 และ 214.7 ตามลำดับ

เปิดตลาดไม่สามารถยืนเหนือ จุดกึ่งกลางที่ 208.6 เยนได้ ให้มองกรอบล่างบริเวณ 206.1 เยน เป็นแนวรับแรก หากหลุดแนวรับดังกล่าว แนวรับถัดไปจะอยู่ 204.3 เยนและ 201.8 ตามลำดับ

ต้นสัปดาห์ราคายังลงต่อและหากไม่สามารถเกาะ 205 เยนให้แน่นราคามีแนวโน้มจะได้เห็นการลงมาทดสอบแนวรับแถว 203 เยน และ uptrend line เป็นเป้าหมายถัดไป เพราะราคาโตคอมไม่สามารถยืนเหนือ 216ได้ และหลุดแนวรับสำคัญหลายจุด คือ 212 209 จุดรับสำคัญอีกจุดคือ 205 เยน

ความเคลื่อนไหวของตลาด ณ.วันที่ 31/3/2558

ปิดตลาดเมื่อวานนี้ ช่วงNight โตคอมปิดตลาด(เดือน ก.ย.) 208.3 เยนไม่สามารถยืนเหนือจุดกึ่งกลาง 208.6 เยนได้ ซึี่งชี้ให้เห็นว่า ตลาดโตคอมราคาจะวิ่งไปในแนวลบได้อีก

เช้านี้เปิดตลาดราคาวิ่งในกรอบแคบอยู่ที่ 208.3 เยนและทำจุดสูงสุดแค่ 208.6 เยนเท่านั้น ก่อนเจอแรงกดหนักช่วงจีนเปิดตลาด ต่ำสุดในวัน ที่205.6 เยน  วิ่งลงมาหลุดแนวรับแรกที่ 206.1 เยน ปิดตลาดอยู๋ที่จุดต่ำสุดของวันที่  205.6 เยน ปรับลดลงมา-2.4 เยนซึ่งเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนราคา settle ปิตลาดที่ 205.9 เยน ลดลง -2.1 เยน สัญญา(TOCOM)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 28614 สัญญา ปัจจุบัน 27825 สัญญา  ลดลง -789 สัญญา

ซึ่งคาดการณ์สำหรับในการเล่นช่วงบ่ายวันนี้จนถึงช่วง Day ในวันพรุ่งนี้

(เดือน ก.ย)
เปิดตลาดสามารถยืนเหนือจุดกึ่งกลางที่ 206.7 เยนได้ ให้มองกรอบบนอยู่บริเวณ แนวต้านแรกที่ 207.8 เยนหากสามารถทะลุขึ้นไปยืนได้แข็งแกร่งเรามามองต้านที่ 2 ที่ 209.7 และ 210.8 ตามลำดับ

เปิดตลาดไม่สามารถยืนเหนือ จุดกึ่งกลางที่ 206.7เยนได้ ให้มองกรอบล่างบริเวณ 204.8 เยน เป็นแนวรับแรก หากหลุดแนวรับดังกล่าว แนวรับถัดไปจะอยู่ 203.7 เยนและ 201.8 ตามลำดับ


ต้นสัปดาห์ราคายังลงต่อและหากไม่สามารถเกาะ 205 เยนให้แน่นราคามีแนวโน้มจะได้เห็นการลงมาทดสอบแนวรับแถว 203 เยน และ uptrend line เป็นเป้าหมายถัดไป เพราะราคาโตคอมไม่สามารถยืนเหนือ 216ได้ และหลุดแนวรับสำคัญหลายจุด คือ 212 209 จุดรับสำคัญอีกจุดคือ 205 เยน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดTocom

ดัชนีนิกเกอิอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรเพื่อปรับโพสิชันในวันสุดท้ายของปีงบการเงิน 2557


จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

หน้า: 1 ... 4067 4068 [4069] 4070 4071 ... 5470