ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557  (อ่าน 1125 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88303
    • ดูรายละเอียด
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่  29  กันยายน  พ.ศ. 2557
ปัจจัย[/t][/t]
[/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง   และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่ว ไป   ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ   30 ของพื้นที่ สภาพอากาศโดยรวมเอื้อต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน   (CAAM) คาดการณ์ว่า ยอดจำหน่ายยานยนต์ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก จะสูงกว่า 24 ล้านคันในปีนี้ และคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์จะสูงกว่า   24 ล้านคันเช่นกัน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของยอดการผลิตรวมทั่วโลก ทำให้จีนเป็นผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดของโลก ทั้งนี้รองประธาน   CAAM เผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ในจีนปี 2556 อยู่ที่ 21.98 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.87 เมื่อเทียบรายปี ส่วนยอดการผลิตปี 2556 อยู่ที่ 22.12 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.76 ขณะที่ช่วงเดือนมกราคม   - สิงหาคม ยอดจำหน่ายและการผลิตสูงกว่า 15 ล้านคัน แม้อัตราขยายตัวชะลอลงเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ   7.67 และร้อยละ 8.61
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า   ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 4.6 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวรวดเร็วที่สุด นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 โดย GDP ล่าสุดได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนที่ร้อยละ   4.2 และกลับมาขยายตัวจากไตรมาสแรกที่หดตัวร้อยละ 2.1
- ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย   GfK เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีเดือนตุลาคมลดลงสู่ 8.3   จุด จาก 8.6 จุดในเดือนกันยายน   เป็นการปรับตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ระดับ 8.5 จุด ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีที่ลดลงชี้ให้เห็นว่าวิกฤตความวุ่นวายระหว่าง รัสเซียและยูเครน   ตลอดจนเหตุการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคอื่น ๆ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจของเยอรมนีซึ่ง มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน   (NBS) เปิดเผยว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 4.8256 แสนล้านหยวน   (7.845 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ) โดยผลกำไรของธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมของจีนลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวขึ้นถึงร้อยละ 13.5 ในเดือนกรกฎาคม   โดย NBS ระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมมีผลกำไรรวมในช่วง 8 เดือนแรกที่ระดับ 3.83 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น
 ร้อยละ 10 เมื่อเทียบรายปี อย่างไรก็ตาม   อัตราการขยายตัวของผลกำไรในช่วง 8 เดือนลดลงร้อยละ 1.7   จากช่วงเดือนมกราคม ? กรกฎาคม

- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนสิงหาคมลดลงแตะ 7.27 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาล เช่น ยอดขาดดุลบัญชีการท่องเที่ยวในช่วงการท่องเที่ยวในฤดูร้อน
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 32.35 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.05   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 109.43 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.76 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปิดตลาดที่ 93.54 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล   เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ ปรับทบทวนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ   (GDP) ไตรมาส 2 เป็นขยายตัวเร็วขึ้นจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นได้จุดกระแสคาดการณ์ว่าจะทำให้ อุปสงค์น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม 2557 อยู่ที่ 169.7 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.0 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ 180.8 เยนต่อกิโลกรัม   ลดลง 3.6 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 156.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   ลดลง 0.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยของจีนจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้าน ราคาต่อไป   แม้ว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะมีแนวโน้มการขยายตัวของยอดจำหน่ายเมื่อเทียบเป็นรายปีก็ตาม พร้อมนี้มูดีส์ระบุว่า มูลค่ายอดจำหน่ายที่ลดลงทั้งหมดของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยปี นี้จะลดลงไปร้อยละ   5 - 10 เมื่อเทียบรายปี นับเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมกราคม   - สิงหาคม ที่ร่วงลงไปร้อยละ 10.9
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางยังปรับตัวลดลงหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ตามตลาดต่างประเทศที่ยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่การขายออกยากมาก เนื่องจากผู้ซื้อจากต่างประเทศชะลอการซื้อ   หรือซื้อในราคาที่ต่ำ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องขายในราคาต่ำจึงจะมีผู้ซื้อ และยังไม่มีกระแสข่าวด้านบวกที่มาช่วยหนุนราคายาง
 
   แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว โดยจีนผู้ใช้ยางรายใหญ่ของโลกเศรษฐกิจยังคงซบเซา ส่งผลให้กำลังซื้อมีน้อย อีกทั้งความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ปริมาณยางที่ออกสู่ตลาดน้อย ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคายางได้ในระดับหนึ่ง
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
[/td][/tr][/table]