ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดแผนสร้างเสถียรภาพยางพารากยท.พุ่งเป้า4ประเด็นหลัก-เดินหน้าพัฒนาอุตฯยางรถยนต์  (อ่าน 657 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87905
    • ดูรายละเอียด
เปิดแผนสร้างเสถียรภาพยางพารากยท.พุ่งเป้า4ประเด็นหลัก-เดินหน้าพัฒนาอุตฯยางรถยนต์


  นายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการยางแห่งประเทศไทย หรือบอร์ด กยท. เปิดเผยว่า เพื่อสร้าง ความมั่นคงด้านราคายางของประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบ ธุรกิจยาง ผู้ส่งออก และเกษตรกรชาวสวนยาง จำเป็นต้องมีส่วนร่วมพัฒนา 4 เรื่องหลัก คือ 1.จัดพื้นที่ปลูกยางให้มีความเหมาะสมในรูปแบบโซนนิ่ง และต้องมีข้อมูลแหล่งผลิตและปริมาณผลผลิตที่ชัดเจน 2.เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ 3.เร่งรัดการพัฒนาอุตสาหกรรมยางล้อยานยนต์ และ 4.ต้องมีการแบ่งปัน ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ส่งออกและ เกษตรกรชาวสวนยาง โดยใช้หลักการเดียวกับอ้อย และมีสวัสดิการให้กับชาวสวนยางด้วย
 "การส่งออกยางของไทยขณะนี้ ยังต้องพึ่งพิงตลาดยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยางขั้นต้น หรือไพรมารีโปรดักส์ (Primary product) หากไทยสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ ยางสำเร็จรูป หรือฟีนิชโปรดักส์ (Finish product) ให้มีความหลากหลายมากขึ้น และส่งออกได้ เช่น ยางล้อยานยนต์ จะช่วย เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศพร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้า และแก้ไขปัญหาราคายาง ได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันควรลดวิธีการซื้อขายยางแบบเก็งราคา และมุ่งพัฒนาตลาดซื้อขายยางแบบส่งมอบจริง เพื่อแก้ปัญหาการปั่นราคาและเก็งกำไร เป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาได้"
 นายสมชายกล่าวอีกว่า ไทยจำเป็น ต้องเร่งรัดการพัฒนาอุตสาหกรรมยางล้อ โดยเร่งส่งเสริมให้สร้างโรงงานผลิตยางล้อ ที่ทันสมัย และพัฒนาศูนย์ทดสอบคุณภาพ ยางล้อให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของ สากล เพื่อสนับสนุนการผลิตและส่งออก ยางล้อยานยนต์ไปต่างประเทศ เพื่อลดการ พึ่งพาตลาดส่งออกยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์ และยางกึ่งสำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม ตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ยางขั้นต้นก็จำเป็นต้องรักษาไว้เช่นกัน ซึ่งคาดว่า ภายในเวลา 3 ปี ราคายางจะมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
 "การแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง ผู้ประกอบธุรกิจยาง ผู้ส่งออก เกษตรกร ชาวสวนยาง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถ ใช้แนวทางการบริหารจัดการอ้อยและน้ำตาล มาเป็นต้นแบบได้ คือ โรงงานกับชาวไร่เหมือน กับหุ้นส่วนกัน และรัฐบาลเป็นคนกลาง โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังในการบริหารจัดการเรื่องแบ่งผล ประโยชน์ให้ ชัดเจน จะทำให้ราคายางมีความคงที่มากขึ้น ซึ่งทั้ง 4 ประเด็น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้อง ขับเคลื่อนในระยะเริ่มต้น คาดว่า จะเป็นกลไก ทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้นได้ภายใน 3 ปีนี้" รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าว--จบ--
 
      แนวหน้า (Th)