เหลี่ยม "จีน"

[Rakayang.Com]

เหลี่ยม "จีน"

วันที่ 30 กันยายน  พ.ศ. 2558 เวลา 02:33 น. ที่มา www.khaosod.co.th




 เมืองไทย 25 น.
 
ทวี มีเงิน

 สถานการณ์ ราคายางตกต่ำไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้นเป็นหนังชีวิตเรื่องยาว เพราะวันนี้ (30 ก.ย.2558) สัญญาซื้อขายยางพาราในสต๊อก 400,000 ตันที่ บ.ไห่หนานของรัฐบาลจีนทำไว้กับรัฐบาลไทยสิ้นสุดลง แต่การซื้อขายอืดเป็นเรือเกลือไปไม่ถึงไหน
 
 
 
 จน ถึงวันนี้บริษัทไห่หนานรับซื้อไปแค่ 17,000 ตันเท่านั้น นั่นแปลว่ายังมียางแผ่นรมควันกองเต็มโกดัง สต๊อกเหลือบานเบอะ 3.8 แสนตัน นี่ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคายางดิ่งเหวไม่มีโอกาสโงหัวจนทุกวันนี้
 
 
 
 เรื่อง นี้จะไปโทษใครไม่ได้ เป็นความผิดพลาดของผู้แทนเจรจาฝ่ายเราเองที่ไม่มีชั้นเชิงในการเจรจาต่อรอง จึงพลาดที่ไปทำสัญญาซื้อขายยางตามคุณภาพหรือ "คัดตามราคา" ทั้งที่ปกติการขายล็อตใหญ่ๆ อย่างนี้จะต้องทำสัญญา "ขายเหมา" เท่านั้น
 
 
 
 คนซื้อก็จะเหมาราคาเฉลี่ยกันไปเพราะยางในสต๊อก มีหลายเกรด ตั้งแต่ดีที่สุดจนถึงแย่ที่สุด
 
 
 
 ครั้น สัญญาเปิดช่องให้ซื้อขายตามคุณภาพ ทำให้จีนสบช่องเลือกซื้อเฉพาะยางเกรดดีๆ ยางที่มีเชื้อราอยู่นิดๆ หน่อยๆ เกรดต่ำๆ จะไม่ยอมซื้อหรือตีกลับ เวลาเจรจาซื้อขายในแต่ละล็อต ก็มัวทะเลาะกันตกลงกันไม่ได้ทำให้การระบายยิ่งช้า
 
 
 
 งาน นี้ฝ่ายจีนแสดงธาตุแท้ว่า "เหลี่ยมจัด" ใช้วิธีปกป้องตัวเองโดยการทำหนังสือวันละไม่ต่ำกว่า 2 ฉบับหาเรื่องตำหนิตรงนั้นทีตรงนี้ที เป็นอย่างนี้ตลอดเพื่อใช้เป็นข้ออ้างจะไม่ทำตามสัญญา ขณะที่รัฐบาลไทยจะขายคนอื่นไม่ได้ เพราะสต๊อกทั้งหมดทำสัญญาซื้อขายกับจีนรายเดียว
 
 
 
 แถม มีปัญหาใหม่ตามมาคือของเก่าในสต๊อกระบายไม่ได้ ยังคาเต็มโกดัง ยางแผ่นที่ออกใหม่จึงไม่มีที่เก็บ นับจากนี้ไม่รู้ชะตากรรมยางพาราไทยจะไปทางไหนดี ไร้ทิศทาง
 
 
 
 งานนี้ถือว่า "แพ้เหลี่ยมจีน" ชนิดเสียมวยที่ไปเปิดช่องให้เขาบิดพลิ้วได้
 
 
 
 ฟัน ธงเลยว่า จากนี้ไปสต๊อกจะเป็นตัวฉุดราคายางดิ่งเหวไม่ให้โงหัวทุกวันนี้ 40 กว่าบาท ชาวสวนยางก็ขาดทุนจนหลังแอ่นไม่เฉพาะยางเท่านั้นที่แพ้เหลี่ยมจีน กระทั่งข้าวที่จีนรับปากจะรับซื้อจากไทยก็โดนเบี้ยว ล่าสุดในการเจรจาโครงการรถไฟความเร็วสูงก็เริ่มออกลายให้เห็น 1 ปีเต็มๆ ที่เจรจากัน ยังตกลงเรื่องดอกเบี้ย ราคาค่าก่อสร้างไม่ได้
 
 
 
 ระวังจะเจอเหลี่ยมจีน...เสียค่าโง่ซ้ำซาก