วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ปัจจัย
วิเคราะห์
1.สภาพภูมิอากาศ
- บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีเมฆมาก กับมีฝนกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
2.การใช้ยาง
- สมาคมกลุ่มประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) ได้ประมาณการผลิตยางธรรมชาติของประเทศสมาชิกในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10.937 ล้านตัน ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วที่มีปริมาณการผลิต 10.952 ล้านตัน
3.สต๊อกยาง
- สต๊อกยางจีน ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 มีจำนวน 230,759 ตัน เพิ่มขึ้น 2,147 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.94 จากสต๊อกยางเดิม 228,612 ตัน ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
- สต๊อกยางญี่ปุ่น วันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 ลดลง 346 ตัน หรือลดลงร้อยละ 4.78 แตะระดับ 6,899 ตัน จากสต๊อกยางเดิม 7,245 ตัน ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2558
4.เศรษฐกิจโลก
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า เฟดควรเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ขณะที่กรรมการเฟดมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำ และการจ้างงานจะยังคงมีเสถียรภาพ โดยมีความเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมายร้อยละ 2.0
- รายงานของนิลสัน ซึ่งเป็นบริษัทด้านการสำรวจตลาดระดับโลก ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2558 โดยดัชนีจีนของนิลสัน ลดลง 1 จุด จากไตรมาส 2 มาอยู่ที่ 106
- ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 ปี 2558
GDP ขยายตัวร้อยละ 2.0 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.7
การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 106.0 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 อยู่ที่ระดับ 104.5
การส่งออกและการนำเข้า ไตรมาส 3 ปี 2558 หดตัวร้อยละ 7.7 และ 4.9 ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ร้อยละ 4.1 และ 3.7 ตามลำดับ
อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 3 ปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 0.1 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.8
อัตราว่างงาน อยู่ที่ร้อยละ 5.2 ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.2
- ภาวะเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 3 ปี 2558
GDP ขยายตัวร้อยละ 6.9 ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.2
การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวที่ร้อยละ 5.9 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 8.0
การส่งออกและการนำเข้า ไตรมาส 3 ปี 2558 หดตัวร้อยละ 5.9 และร้อยละ 14.4 เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 12.9 และ 1.2 ตามลำดับ
อัตราเงินเฟ้อ ไตรมาส 3 ปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 1.7 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.0
5. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 35.80 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 123.11 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.14 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
6. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดที่ 40.39 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.15 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากมีความคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจะเพิ่มสูงกว่าอุปสงค์
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
7. การเก็งกำไร
-TOCOM ส่งมอบเดือนธันวาคม 2558 ปิดทำการเนื่องจากเป็นวันขอบคุณชนชั้นแรงงาน
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 122.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ไม่เปลี่ยนแปลง
8. ข่าว
- รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า ผู้บริหารของเฟดได้ดำเนินการในทุกวิถีทางที่สามารถทำได้เพื่อเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดเงินของประเทศต่าง ๆ จากการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
9. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ
- ราคายางน่าจะทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ กระตุ้นตลาด ถึงแม้ว่าผลผลิตยางยังมีปริมาณน้อย เพราะภาวะฝนตกต่อเนื่อง แต่ตลาดต่างประเทศยังคงซบเซา ส่งผลให้ราคาไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากในระยะนี้ ต้องรอดูสถานการณ์หลังเทศกาลคริสมาสและปีใหม่
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ โดยมีปัจจัยบวกจากอุปทานยางออกสู่ตลาดน้อย เนื่องจากภาคใต้ยังเผชิญกับภาวะฝนตกหนัก และนักลงทุนมีมุมมองบวก หลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางจีนเตรียมดำเนินมาตรการเพื่อหนุนสภาพคล่องสำหรับสถาบันการเงิน ส่วนปัจจัยลบมาจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ขณะสต๊อกยางจีนเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในปีนี้อย่างต่อเนื่อง มีระดับ 230,759 ตัน ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน จากระดับ 228,612 ตัน
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา