บิ๊กตู่?อัดรถคันแรกเป็นดีมานด์เทียม
?บิ๊ก ตู่?อัดรถคันแรกเป็นดีมานด์เทียม โอ่เป็น?หวังเฉา หม่าฮั่น?ส่งคนโกงขึ้นศาล ยันรธน.ผ่านประชามติเริ่มโรดแม็พระยะ3หลังก.ค.60 ระบุไทยจะต้องร่วมTPP แต่ขอดูผลกระทบ เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 พ.ย.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปปาฐกถาพิเศษแก่สมาชิก Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: (JFCCT) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจต่างประเทศ ท่ามกลางการักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และสารวัตรทหาร ร่วมรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาในการปาฐกถานาน 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยมีเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการเชื้อเชิญให้นักลงทุนเข้ามาในลงทุนในประเศไทย โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า คนที่อยู่ในห้องนี้ถือเป็นเครื่องจักรของประเทศนี้ และประเทศของท่าน และถือเป็นต้นทางของโลกใบนี้ ซึ่งเราต้องสร้างโลกใบนี้ให้เป็นโลกแห่งความสุข มีสันติสุข ประชาชนมีรายได้เพียงพออยู่ดีกินดี ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนทุกชาติ วันนี้ความขัดแย้งมีสูงสาเหตุหลักมาจากความยากจน เหลื่อมล้ำความไม่เป็นธรรม การบังคับใช้กฎหมายมีปัญหา กฎระเบียบต่างๆไม่เป็นสากล เชื่อมต่อกันไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนเดียวของอุปสรรค์การค้าการลงทุน ซึ่งประเทศไทยพร้อมอำนวยความสะดวกให้นานาประเทศในทุกมิติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังสร้างมิติใหม่เชิงโครงสร้างบูรณาการเชื่อมต่อนานา ประเทศเข้าด้วยกัน คิดการเป็นประชาคมต่างๆ ซึ่งประชาคมอาเซียนจะเต็มตัวในปีหน้า ก็ต้องดูว่าจะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไรโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกประเทศต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจ โดนทำความเข้าใจว่าจะเดินไปข้างหน้ากันในแนวทางใด
?รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหาทุกอย่างที่หมักหมมมายาวนาน ซึ่งจะแก้ด้วยวิธีการเดิมๆ ไม่ได้ผมถึงต้องมายืนอยู่ตรงนี้ และครั้งนี้ถือเป็นปีที่ สองที่ได้มาพบพวกท่าน ประธานยังเป็นคนเดิมใช่หรือไม่ แสดงว่าเป็นมาสองปีแล้ว ผมไปยุ่งไม่ได้ มาตรา 44 ใช่ไม่ได้ ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจประเทศไทยด้วย เอาปัญหาทั้งหมดมาคลี่ดูไทยจะช่วยอะไรท่านได้บ้างเพื่ออำนวยความสะดวก แต่ต้องเข้าใจว่าเราก็มีหลักการอยู่เช่นกัน วันนี้ที่มา ก็เป็นตัวประกันมาเล่าให้ท่านฟังเพื่อให้เข้าใจถึงความเป็นครอบครัวเดียวกัน คือราอบครัวโลก ที่จะต้องเดินไปด้วยกันพี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อนลากธุรกิจยึดโยงกันถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะเกิดความเหลื่อมล้ำ เกิดช่วงว่าระหว่างประเทศ?
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกประเทศในโลกมีความแตกต่าง จึงต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ว่าทำไมแต่ละประเทศเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หลักเกณฑ์เดียวอาจใช่ไม่ได้ทั้งโลก ต้องฝากพวกท่านที่มาจากสมาคมหอการค้าประเทศต่างๆ ให้ไปอธิบายรัฐบาลประเทศทุกคนด้วย
?ผมไม่ได้มาทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อคนไทยประเทศไทย ที่เป็นประเทศของผมและทำให้กับพวกท่านที่เป็นมิตรประเทศ ตั้งแต่เข้ามาไม่เคยสร้างความเดือดร้อน เกิดความเสียหาย สิ่งที่เป็นในวันนี้เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ที่ผันผวนอยู่ตลอดเพราะเรายังจับมือกันไม่แน่น ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายเดินไปพร้อมๆกันทั้งโลก จึงต้องเชื่อมโยงตรงนี้ให้ได้ ตอนที่เป็น คสช.อย่างเดียว รู้สึกหนักใจ ผมมาแบบนี้รู้สถานะดี เพียงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติปลอดภัย เศรษฐกิจค้าดีขึ้น เพราะมันแย่ลงมาเป็นลำดับ สองสามรัฐบาลจากความเป็นประชาธิปไตยของไทย แต่พอผมเข้ามาก็ยุติความขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพ นำทุกอย่างเข้ากระบวนการยุติธรรม ขจัดสิ่งไม่ดีในการบังคับใช้กฎหมายด้วยกฎหมายเดิมที่มีอยู่ ไม่ได้ใช้อำนาจทำทุกอย่างโดยไม่คิดไตร่ตรอง ไม่ได้รัฐประหารมาเพื่อประโยชน์ เพื่ออำนาจ เพื่อสืบต่อ ไม่ใช่ผม ผมมาเพื่อแก้ไขสิ่งที่กำลังจะพังลงทั้งหมด ถ้าผมพังประเทศไทยพัง พวกท่านก็พังด้วย นี่คือเหตุผลที่อยากอธิบายความจำเป็น? นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ถึงอย่างไร ต้องเต็มใบจนได้ แต่ต้องดูความพร้อมของเราว่ามีแค่ไหนอย่างไร เพราะโลกเขาเป็นเราก็ต้องเป็น แต่ต้องขอเวลาอีกไม่นานจะให้ได้หรือไม่ในประเทศก็ทวงยิกๆทุกวัน ว่ามาไม่นาน สองปียังไม่ไปสักที ถ้าตนไปก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วกลับมาเหมือนเดิม เพราะหลายอย่างเพิ่งเริ่มขึ้น หลายอย่างต้องใช้ ม.44 เพื่อให้การทำงานเดินได้ แต่ก็เป็นการใช่อำนาจเชิงสร้างสรรค์ ส่วนเรื่องคนทำผิดกฎหมายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่ผิดกฎหมาย จะไปบังคับอะไรเขาได้ สิ่งสำคัญที่มีปัญหาในวันนี้คือการทำผิดกฎหมาย ยังมีการฝ่าฝืนให้เกิดแรงกระทบกับรัฐบาล กรุณาตรวจสอบด้วยใครพูดจริงพูดเท็จ โดยนิสัยและหน้าตา ทั้งชีวิตผมทำให้แผ่นดินนี้มาโดยตลอด ไม่เคยรังเกียรติชาติใดที่อยู่ในประเทศไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีมาตลอด ตอนนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุดในเวลาที่มีอยู่
บอกเดินตามโรดแม็พใช้ม.44 สร้างสรรค์ นายกฯ กล่าวว่า การดำเนินการระยะที่ 2 ของโรดแม็พหลังที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหา 11 เรื่องใหญ่ซึ่งให้ความสำคัญกับความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ บางอย่างยังทำไม่แล้วเสร็จก็ต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้เพราะปัญหามาจากการทำ ผิดและฝ่าฝืนกฎหมายทั้งสิ้น วันนี้ช่วงเวลาที่มีอยู่ต้องทำงานให้มากขึ้นตามที่มีการกำหนดระยะการปฏิรูป 37 วาระใน 11 ด้าน วันนี้เราต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ประชาธิปไตยเต็มใบในวันข้างหน้าให้ได้ แต่ต้องดูว่าความพร้อมเรามีมากแค่ไหน ถึงอย่างงไรก็ต้องเป็นประชาธิปไตยเพราะโลกส่วนใหญ่เขาเป็น บางอย่างต้องให้ประชาชนเขาเรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจและสร้างความเชื่อมโยง ทางด้านเศรษฐกิจให้ได้ที่มีการทวงถามว่าเข้ามานานแล้วทำไมยังไม่เป็นสักที ก็ต้องบอกว่าถ้าไปก็ไม่ต้องทำอะไรทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม ปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิมทุกอย่างยังอยู่หลายเรื่องนำเข้ากระบวนการตาม กฎหมายเพราะไม่เช่นนั้นจะเดินไม่ได้จึงใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อให้เกิดการบูรณาการและแก้ไขปัญหาได้ นี่คือการใช้อำนาจของตนในทางสร้างสรรค์ ส่วนคนที่ทำผิดกฎหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่ทำผิดก็ไปใช้อำนาจทางกฎหมายไม่ได้ วันนี้ที่มีปัญหาคือการทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายตามอำนาจของตน ของคสช.และกฎหมายเดิมที่มี ยังมีการฝ่าฝืนเพื่อสร้างแรงกระทบให้กับรัฐบาล ซึ่งถ้าไปมองแง่นั้นมองเดียวถามว่าจะมีอะไรดีขึ้นหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งชีวิตตนทำให้กับแผ่นดินนี้มาตลอด ตนไม่เคยรังเกียจใครในประเทศไทย ในการทำงานที่ผ่านมาตนทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีมาตลอด และต้องทำให้มากที่สุด สร้างสมดุลในการพัฒนาจึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์ กติกาประชาธิปไตยให้ได้เพื่อให้เป็นสากล แต่ต้องยอมรับว่าแต่ละประเทศมีการพัฒนาเติบโตไม่เท่ากัน หลายประเทศอาจจะผ่านช่วงศึกสงครามมาแล้วกว่าจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ก็ เสียเลือดเนื้อกันมาแล้ว ส่วนประชาธิปไตยในประเทศเราไม่ค่อยมีปัญหามาก แต่ทำให้ประเทศไม่พัฒนาจึงต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อจะเดินไปข้างหน้า ขณะนี้เรายังเป็นประเทศที่อยู่ในระดับที่มีรายได้ปานกลาง ในขณะที่บางประเทศไปถึงยอดแล้ว ดังนั้นหอการค้าต้องช่วยยกพวกเราขึ้นมา แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปเทียบเท่ากับยุโรปหรือตะวันตกเพราะมันไม่มีทาง เท่ากันได้ เพราะเขตอำนาจไม่เหมือนกันเพียงแต่ว่าหอการค้าร่วมฯ ยกระดับประเทศของท่านและของไทยตามไปด้วยกันเพื่อลดช่องว่าความแตกต่าง ทั้งเรื่องการลงทุนและการพัฒนาความเป็นอยู่เพื่อลดภาระของประเทศมหาอำนาจ หรือประชาคมโลกที่จะต้องมีดูแลกันแล้วไม่โตสักที หากไม่ร่วมกันสุดท้ายภาระก็ต้องตกอยู่ที่พวกท่าน เพราะบทบาทของประเทศใหญ่ก็ต้องช่วยดูแลแต่ละประเทศผ่านกลไกองค์กรต่างๆ ที่มีอยู่ด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนโรดแม็พระยะที่ 3 จะเริ่มเดือนกรกฎาคม 2560 เมื่อการเลือกตั้งเรียบร้อยและมีรัฐบาล หากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่จะปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของไทย ซึ่งเรื่องสิทธิประชาชนสำคัญที่สุด เพราะหลักการของประเทศคือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยรวมภาคประชาสังคม ข้าราชการ นักธุรกิจทุกคนเป็นผู้ที่ต้องกำหนดอนาคตประเทศ อนาคตของเศรษฐกิจไทย โดยความร่วมมือจากประชาคมโลก เพราะเราทั้งหมดคือครอบครัวเดียวกัน คือครอบครัวของโลก และภายในระยะเวลา 15 ปีจะมีประชากรเพิ่มขึ้นถึง 8,000 ล้านคน สิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมาคือเรื่องอาหาร พลังงาน น้ำ หากเราไม่สร้างความเข้มแข็งในวันนี้ ให้อยู่บนพื้นฐานความเข้มแข็งและพอเพียงของแต่ละประเทศก็จะเกิดปัญหาที่ยุ่ง กว่านี้ สิ่งที่โลกกำลังต้องการคือความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจที่มีการสร้างความเชื่อม โยง สร้างห่วงโซ่คุณภาพ รวมทั้งการแก้ปัญหาแนวคิดสุดโต่งที่มีแนวทางคิดมาจากความยากจน ซึ่งนำพาไปสู่ความขัดแย้งให้เกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องอากาศเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลไปถึงเรื่องการเกษตร น้ำอุปโภค บริโภคและน้ำที่รักษาระบบนิเวศ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำในการแก้ปัญหาน้ำในภูมิภาคอาเซียนที่เราจะต้อง ช่วยกันแก้ปัญหาระบบชลประทานทั้งหมด ทั้งทางที่จะช่วยกันได้คือการดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่คนทั้งโลกจะต้อง ช่วยกันดูแลร่วมกันซึ่งนักลงทุนสามารถเข้ามาช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา เหล่านี้ได้เพื่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างที่ทุกคนต้องการ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้มองในภาพรวมคือเข้ามาบริหารงานเพื่อ แสวงหาความร่วมมือไม่ใช่ความขัดแย้ง และต้องการลดอุปสรรคเรื่องการค้าขายลงไป ส่วนหนึ่งคือการต้องทำให้มีเสถียรภาพของรัฐบาล ช่วงเวลาที่รัฐบาลเข้าช่วงปี 2557 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจาก 26 ล้านคนหรือ 24 ล้านคน ความเชื่อมั่นครัวเรือนลดลงต่ำสุด การหดตัวจากปัจจัยเศรษฐกิจภายนอก รายได้ภาคเกษตรลดลง รวมทั้งความพยายามสร้างความเข้มแข็งอาจทำให้บางเรื่องตกลงไปบ้าง เกิดภาสะหนี้สินภาคเกษตรกร เรื่องของค่าแรงทุกรัฐบาลและทุกประเทศไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับนโยบายทางด้านการเมืองจึงเป็นปัญหาที่ผูกพันกันไปหมด ดังนั้นผู้ประกอบการต้องพิจารราเพื่อทำให้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใดต้องพัฒนาฝีมือแรงงานไปพร้อมกับการ รักษาธรรมชาติและดูแลชุมชนให้เข้มแข็งควบคู่ไปกับการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมกับธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนอะไรที่ช่วยเราได้ก็ของให้ช่วยเราด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ธุรกิจรถยนต์เมื่อปี 2557 มีผู้มาลงทุนหลายประเทศแต่ก็ยังมีปัญหาจากโครงการรถคันแรกที่คืนภาษีเป็น จำนวนกว่าแสนเป็นเงินก้อนโดยที่ยังไม่ได้มีการผ่อนชำระทำให้การส่งออกรถยนต์ เกิดมีปัญหาจาก ?ดีมานด์เทียม? ที่เกิดขึ้นแต่ขณะนี้เริ่มดีขึ้นเพราะรัฐบาลต้องทำในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่สร้างภาพลวงตาและต้องบอกว่า 20 ปีที่ผ่านาไม่เคยมีการปรับปรุงปัญหา แล้ววันนี้มีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศของรัฐบาลนี้เพื่อประชาชนและ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจนปัญหาเริ่มดีขึ้น ความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนของเดือนตุลาคมดีขึ้นจาก 57.7 เปอร์เซ็นต์วันนี้เป็น 62.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวจาก 44.3 เปอร์เซ็นต์มาเป็น 46.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนกันยายน 2558 ความเชื่อมั่นที่เคยลดลงเกิดการขยายตัวร้อยละ 7.3 เพิ่มขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 หลังจากที่รัฐบาลเข้ามาบริหารซึ่งถือว่าดีขึ้น วันนี้เศรษฐกิจของเราได้เรื่องของการท่องเที่ยวมาช่วย ดังนั้นท่าทีทางการเมืองต้องมาดูว่ามีปัญหากันตรงไหนและจะช่วยกันแก้อย่างไร ให้เกิดความเป็นธรรมเท่าเทียมกันควบคู่ไปกับการอักฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบ เศรษฐกิจจนการเบิกจ่ายดีขึ้น และในปีนี้เกิดการเบิกจ่ายงบ 92.4 เปอร์เซ็นต์เราเร่งแก้ทุกอย่าง ทั้งผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรื่องของการลงทุนในปี 2557 มี 64.3 เปอร์เซ็นต์ มีโครงการลงทุน 259 โครงการในเดือนธันวาคม 2557 ต่อมาเดือนกรกฎาคม 2558 ลงทุน 119 โครงการรวมแล้วเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขกว่า 3,000 โครงการและพันกว่าโครงการยืนยันว่าจะลงทุนแน่นอน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยให้รู้กลไกการ ตลาดโดยเป็นไปตามกติกาที่เรากำหนด
โอ่เป็น?หวังเฉา หม่าฮั่น?ส่งคนโกงขึ้นศาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาในระยะที่ 2 วงเงินรวมทั้งหมด 77,096 ล้านบาท ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องถนนอะไรต่างๆ ซึ่งเครื่องมือของรัฐบาลก็มีไม่กี่อย่าง เช่น มาตรการภาษี งบประมาณของรัฐ การเร่งรัดการลงทุน วันนี้เราก็ไปดูหลายโครงการที่รัฐทำเอง และรัฐทำกับรัฐวิสาหกิจ ตนก็สั่งให้ไปทำเพิ่ม ไปเอาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุนมาว่าต้องทำอย่างไร ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้า ท่าเรือ อยู่ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการประกวดราคาทั้งสิ้น ซึ่งมีทั้งหมด 6 โครงการในปี 58 ในวงเงิน 249,541 ล้านบาท คาดว่าจะมีความคืบหน้าในปี 59-60 ประมาณ 1.52 ล้านล้านบาท หรืออะไรที่ทำได้เร็วกว่านี้ ก็ต้องหางบประมาณทำให้เป็นไปตามแผนงานเดินหน้าประเทศของเรา จากการดำเนินการดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น จากปี 57 ตั้งแต่มีความขัดแย้งที่รัฐบาลเลือกตั้งอยู่ ครึ่งปีแรก ร้อยละ 3.2 ซึ่งช่วงนั้นตีกันอยู่นั้นขัดแย้งกันอยู่นั้น ก็ขึ้น 0.6 และ 0.2 แต่พอเราเข้ามาปี 57 ขึ้นมา 1.6 และในขณะนี้คาดว่าจะขึ้นมา 2.9 หรือดีกว่านั้นก็เป็นความหวังของเราที่ปรับขึ้นมา ก็เป็นความหวังของเราที่เราปรับทุกอย่างเพื่อให้ท่านช่วยเรา และทดแทนสิ่งที่เป็นปัจจัยภายนอก จากปัจจัยโลกที่เป็นความขัดแย้ง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการปราบปรามทุจริตประพฤติไม่ชอบ ตนขอบอกว่าตนไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น ตนมีหน้าที่เป็นเหมือนหวังเฉา หม่าฮั่น ที่นำคนไปให้เปาบุ้นจิ้นนำไปพิจารณา ซึ่งเป็นตัวแทนของกฎหมายตนไม่ได้ทำอะไรใหม่เลย ไม่ได้ไปรังแกนักการเมืองไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น เขาทำความผิดกันไว้แล้วแต่ไม่ได้รับการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และก็มีข้างนั้นข้างนี้ ขัดแย้งกันตลอด ตนก็แค่เอาเข้าไปในกระบวนการไม่ได้เร่งรัดอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั้งเรื่องโครงการับจำนำข้าว ตนก็ไม่ใช่คนที่เอาเข้าไปดำเนินการเป็นการทักท้วง เป็นการฟ้องร้ององค์กรอิสระ ตนก็เพียงแค่บอกว่าก็ไปพิจารณากันไป แค่นี้ยังไม่รับกันเลย และจะทำยังไง ท่านก็พูดว่ากฎหมายมีความสำคัญไม่ใช่หรือ
?กฎหมายคืออะไร ทุกประเทศในโลกมีความเท่าเทียมกันจริงหรือไม่ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มีอยู่สองอย่างในความคิดของผม อย่างแรกคือกฎหมาย คือสิ่งที่คนในโลกใบนี้เท่าเทียมกัน เพราะทุกคนปฏิบัติภายใต้กฎหมายเดียวกัน ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายในประเทศ ผมก็กฎหมายนี้ ท่านก็กฎหมายนี้ แต่มีบางส่วนไม่เคารพกฎหมายมันก็เลยเกิดความวุ่นวาย แต่ถ้าใครบางส่วนไม่เคารพกฎหมายมันก็จึงเกิดความวุ่นวายอย่างนี้ อย่างที่สองความเท่าเทียมก็คือธรรมชาติ ทั้งพระอาทิตย์ พระจันทร์ เฉลี่ยกลางวันและกลางคืนให้ขั้วโลกและกลางโลกทั้งหมดอย่างเป็นธรรม แต่อย่างอื่นมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว? นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แต่จะทำอย่างไรให้พวกเขามีความสุข ซึ่งตามปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นใช้ได้ ทุกอย่าง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจก็ได้ เรื่องการลงทุนให้มีความพอประมาณมากน้อยเท่าไหร่ ควรจะกู้เงินเท่าไหร่ รายได้จะได้เท่าไหร่ และจะดูแลใครบ้างด้วยหลักการมีเหตุผลและพอประมาณมีภูมิคุ้มกันภายใต้ความรู้ และคุณธรรม ที่สำคัญการดำรงชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ ต้องมีการยับยั้งชั่งใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการผิดกฎหมายไอยูยูนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของตน แต่ตนกำลังเข้ามาแก้ให้กับทุกท่าน ทั้งธุรกิจการประมงที่ผิดกฎหมาย การจับปลาที่ผิดกฎหมาย เกินข้อเท็จจริงของเรือที่ขึ้นทะเบียน การตรวจสอบย้อนกลับ การตรวจสอบท่าเรือประมง ตนทำให้ท่าน เพราะว่าตนต้องการค้าขายกับอียูกับประชาคมโลก ซึ่งตนไม่ทำก็ได้ แต่ทำวันนี้ประชาชนตนเดือดร้อนเท่าไหร่ ต้องนึกถึงตรงนี้บ้าง แต่ตนก็ต้องทำ เพราะตนเคารพต่อพันธะสัญญาของโลก ขอถามว่าที่เกิดขึ้นมาในกระบวนประชาธิปไตยทั้งหมด ทำหรือไม่ ท่านต้องไปมองตรงนั้น แล้ววันนี้ตนก็ยินดีที่ได้รับการตอบรับพอสมควร เพราะตนก็ทำอย่างที่สุดแล้ว ตนแก้ให้ทั้งหมด ทั้งการประมง ไอยูยู ค้ามนุษย์ ทุกอย่างมันสะสมมากี่ปีแล้ว กี่ปีที่เป็นประชาธิปไตยของไทย ก็ไม่แก้กัน แก้ไม่ได้ วันนี้ตนแก้ให้หมด เพื่อจะวางพื้นฐานที่ดีไปวันข้างหน้า ตามเวลาที่ตนมีอยู่ การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวไม่เคยจดได้ขนาดนี้ ตนเข้ามาภายใน 6 เดือน จดทะเบียนแรงงานได้ 1.6 ล้านคน ที่ผ่านมาไม่เคยจดได้ จดได้ 3-4 ล้านคน ที่เหลือเท่าไหร่ไม่รู้ วันนี้จดไปก็เพื่อดูแลเขาได้ การทำงานในประเทศไทยก็ต้องดูแลสิทธิมนุษยชนเขาด้วย เป็นภาระของเราทั้งสิ้น นี่คือการดูแลประชาคมโลก
?นั้นเหละคือสิทธิมนุษยชนที่ผมดูแลให้เขา ถ้าผมไม่ดูก็ได้ ก็ไล่กลับไป ท่านอย่าไปเชื่อ ไอ้ที่เขาว่าผมไปรังแก ไม่เปิดเวที ก็พูดโครมๆ อยู่ทุกวัน สื่อก็ให้พูด อะไรก็ให้พูด เพียงแต่ขอว่าอย่ามาพูดเรื่องการเมืองในเวลานี้ ยังไม่ยอมเลย ท่านไปดูสิ ใครพูด แล้วพูดไปเพื่ออะไร ใช่มัย นั้นเหละคือสิ่งที่เป็นปัญหา และทำให้ความขัดแย้งมันแก้ได้ช้า แต่ผมต้องแก้ให้ได้ อยู่ที่ท่านจะเข้าใจผมแค่ไหน เข้าใจประเทศไทยแค่ไหน เราเป็นเพื่อนกันมานาน ทำไมเราไม่มองไปข้างหน้าอีกร้อยปี อย่ามาพูดไอ้เรื่องเก่าตรงนี้ เรื่องความขัดแย้ง เรื่องประชาธิปไตยต่างๆ มองข้างหน้าไปนู้น? นายกฯกล่าว และว่า ตนไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบของตน แต่ทุกคนต้องมองว่าเข้ามาทำอะไร ที่เป็นประโยชน์ต่อท่านบ้าง ทำให้เขาเสียหายบ้างหรือไม่ ไปคิดมาว่ามันสมดุลกันหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของ ICAO ขอบคุณหลายประเทศที่ช่วยเหลือไทยมาโดยตลอด ในเรื่องของการกำกับดูแลภัยสากล ซึ่งเราก็ต้องมาตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ทั้งระบบ และที่ผ่านมามันเกิดโดยใคร แต่ยืนยันปลอดภัยไม่ต้องกลัว นักบินของตนเก่ง ซึ่งนักบินส่วนใหญ่มาจากพลเรือนส่วนหนึ่ง บางส่วนก็เป็นทหาร ทหารที่ทำงานในกองทัพอากาศและลาออกมาเป็นนักบิน แต่ทั้งหมดก็มีมาตรการความปลอดภัยอย่างดียิ่ง ปัญหาที่มีอย่างเดียวคือการเติบโตของสายการบินโลว์คอสต์ เมื่อมีเยอะขึ้นการแข่งขันมากขึ้นก็เลยมีปัญหากับการบินไทยของตนเหมือนกัน เพราะคนไปขึ้นโลว์คอสต์หมด
?กลับมาขึ้นการบินไทยกับผมให้มากขึ้นได้มัย แอร์ผมก็สวยดี อาหารผมก็อร่อย ขึ้นมาเถอะครับ ช่วยผมหน่อย ไม่อย่างนั้นก็ต้องปิดเส้นทางการบินเยอะแยะไปหมด ซึ่งวันหน้าเราก็ต้องเจริญเติบโตกันอีกไง มันปรากฏว่าคนรวยก็ไปขึ้นโลว์คอสต์ ซึ่งคนรายได้น้อยควรจะขึ้นโลว์คอสต์ คนมีรายได้เยอะควรจะสนับสนุนสายการบินดีๆ แต่นี่ไปโลว์คอสต์กันหมด ก็เหมือนกันรถเมล์ฟรี ไม่รู้ล่ะ จะรวยจะจน พอป้ายสีนี้มาก็ขึ้นกันหมด นี่ไงมันเป็นเรื่องของวินัยคนในชาติ ต้องแก้ที่ค่านิยมต่างๆ? นายกฯ กล่าว
เผยเปิดศูนย์ดำรงธรรม2ปีร้องเรียน3ล้านเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ การทำธุรกิจเล็กและใหญ่ ถ้าต้องการข้อมูลให้ติดต่อศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งมีทั้งในและต่างประเทศ ที่ศูนย์ดังกล่าวตั้งขึ้นมาสมัยรัฐบาลตน สองปีกว่าที่เปิดมามีเรื่องร้องเรียน 3 ล้านเรื่อง ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจะมีความเกี่ยวโยงหลายกระทรวง หลายกฎหมาย ก็ต้องไปว่ากัน ซึ่งประชาชนก็มีความสุขขึ้น แต่เสียอย่างเดียว เงินมันไม่มี เงินมันน้อยลง เพราะรัฐบาลดีมายเทียมไม่ได้ หาเงินไปให้สิ้นสุดไม่ได้ แต่ทุกคนจะต้องร่วมกันช่วยกันทำ การสนับสนุนยางเราดูแลเกษตรกรที่เดือดร้อน และสร้างความเข้มแข็ง อยากให้มาลงทุนยางรถยนต์ในประเทศไทยให้มากๆ หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับยาง เพราะการใช้ยางในประเทศไทยยังมีน้อยอยู่ ขอให้ช่วยมาสนับสนุนลงทุนในประเทศไทย ถ้าได้จะมีประโยชน์เยอะ ประเทศไทยไปได้แน่นอน? ?
?ไม่ต้องกังวลว่าจะผมจะไปเทข้างไหนเพราะประเทศไทยเลือกข้างไม่ได้อยู่ แล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศเล็ก อย่ามาระแวงผมว่าจะไปอยู่ข้างไหน มันเลือกไม่ได้หรอก ใครที่จะลงทุนกับเรามาร่วมกับเราก็ต้องร่วมมือด้วยถ้าอยู่ในกติกาที่คนทั้ง ประเทศรับได้ไม่ต้องไปมองว่าผมจะไปรบกับใคร? นายกฯ กล่าว
หวังรธน.ทุกประเทศอ่านแล้วต้องสบายใจนายกฯ กล่าวถึงการเข้าถึงข้อมูลของรัฐบาลด้วยพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร แอพพลิเคชั่นของทุกกระทรวงที่มีข้อมูลการค้าการลงทุนทั้งหมด รวมถึงการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ต้องมีการจดทะเบียน และพิสูจน์สัญชาติ แต่สาเหตุที่ช้าเพราะประเทศต้นทางเป็นผู้ดำเนินการแต่เขาไม่มีความพร้อม
นายกฯ กล่าวถึง เศรษฐกิจดิจิตัลรวมถึงการแก้ปัญหาไซเบอร์แต่ไม่ไปละเมิดสิทธิมนุษชยชน ตนไม่เคยพูดว่าจะไปละเมิดใคร แต่ให้ไปหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรในการดูแลเรื่องของการค้าการลงทุนระบบอีคอม เมิร์ซ แต่มาพูดกันว่าวิธีซิงเกิลเกตเวย์ แต่มีการเสนอมา แต่ต้องถามว่ามีการทำผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ไม่รู้ ให้ไปดูต่างประเทศเขา ไม่ใช่ตนเอาแต่ใจ ไม่ใช่เอาไปคุมคนที่มาต่อต้าน อยากจะต่อต้านก็เชิญ อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน
นายกฯ กล่าวว่า หากท่านกลัวว่าทุกอย่างทั้งหมดที่พูดมาไม่จริงนั้น ยืนยันว่าทุกอย่างจะอยู่ในกฎหมาย พ.ร.บ. และรัฐธรรมนูญ แต่รัฐธรรมนูญตนทำให้ประชาชน ซึ่งมันเขียนมากไม่ได้ แต่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ทั้งโลกอ่านแล้วสบายใจ แต่มันก็ต้องมีกฎหมายขอตนในการให้ดำเนินการต่อได้ ถามว่าได้ไหม เพราะพื้นฐานการศึกษาของคนไม่เท่ากันตนก็ไม่ได้เก่ง แต่เราทุกคนมีหน้าที่กัน
นายกฯ กล่าวว่า ความใกล้ชิดผูกพันที่มีกันมาอย่างยาวนาน ไม่ได้สร้างภายในวันเดียว อย่าให้การเข้ามาของตนเข้ามาทำลายมิตรภาพระหว่างเรากับท่านที่มีมาร้อยกว่า ปีเลย เพราะตนต้องการสร้างสิ่งดีดีให้เกิดขึ้นในร้อยปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามขอให้ดูความจริงใจ ดูหัวใจของผม ถ้าทุกคนตั้งใจทำงานร่วมมือกัน ตนว่าโลกใบนี้จะสดใส ก็ขอเวลาอีกไม่นาน อย่าเร่งนักเลย ไม่ใช่ว่าตนจะทำให้นานขึ้น แต่ทุกวันนี้คิดคิด นอนก็ฝัน แทนที่จะฝันอะไรถึงสิ่งดีดี ก็นอนฝันถอนหายใจเฮือกๆ เพราะห่วงว่าสิ่งที่สั่งไปแล้วเดินหรือยัง ทำอะไรอยู่
?เอาความจริงใจของผม เพราะผมเป็นชายชาติทหารอยู่แล้ว ผมสั่งท่านไม่ได้ แต่ท่านจะร่วมมือกับผมได้หรือไม่ และในประเทศผมยังสั่งใครไม่ได้ เพราะจะโดนหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ผมถามว่าแล้วมันจะไปยังไง มันวุ่นกันหมด แต่มั่นใจว่าประเทศไทยจะต้องดีขึ้นแน่นอน วีอาร์สตรองทูเก็ตเตอร์ เราจะต้องเดินไปด้วยกัน?พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ระบุไทยจะต้องร่วมTPPอยู่แล้วแต่ขอดูผลกระทบพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งแก่สมาชิก Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: (JFCCT) ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิร์ล กรุงเทพฯ ว่า วันนี้ต้องเร่งเจรจาอาเซปเพราะเป็นพื้นฐานของอาเซียน ส่วนข้อตกลงข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก Trans-Pacific Partnership (TPP) ก็กำลังศึกษา แต่คิดว่าลงอยู่แล้ว แต่ระยะยาว ต้องดูว่ามีผลกระทบกับประเทศไทยที่มีรายได้น้อย กระทบประเทศเกษตรกรรมหรือไม่ ทั้งนี้ประเทศไทยพร้อมร่วมมือประชาคมโลกอยู่แล้ว
นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า ตนทำกฎหมายแล้ว360 ฉบับ ทำเพื่อทุกคน เพื่อนาคต มีการแก้เกี่ยวกับการค้าการลงทุน สิทธิภาษี เพราะไม่ได้แก้มานาน ทั้งในเมื่อจะส่งเสริมการค้า ก็ต้องทำให้สอดคล้องกับทุกประเทศ ส่วนเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมีหลายอย่าง ถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า10สาย รถไฟความเร็วสูง ความเร็วปานกลางและรถไฟมาตรฐาน เพื่อศึกษาร่วมกันเป็นแนวทางในการเชื่อมโยงเหนือ ใต้ ออก ตก ที่ทุกประเทศต้องเชื่อมโยงกันให้ได้ เรามีหมดแล้ว เรามองไว้หมดแล้วว่าจะร่วมทุนได้ตรงไหน
ส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกฯ กล่าวว่า จะมีการประกวดราคาในปี62และดอนเมืองก็จะมีการปรับปรุง รวมทั้งปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาที่เป้าหมายจะเป็นสนามบินพาณิชย์อีกแห่งมี ความสะดวกปลอดภัย และจะเชื่อมต่อแอร์พอร์ตลิ้งจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ ไปหัวหินไปพัทยา ตนถามว่าเราจะไปร่วมกันได้หรือไม่ หรือใครสนใจจะมาลงทุน
สุวพันธุ์เผยนายกฯเรียกประชุมฝ่ายเกี่ยวข้องด้านปฏิรูปเมื่อเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประชุมร่วมกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี บนตึกไทยคู่ฟ้า ถึงแนวทางและกรอบการดำเนินการปฏิรูปร่วมกับสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ(สปท.)
ภายหลังการหารือร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมง นายสุวพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้แนวทางการปฏิรูปนั้น สปท.ก็กำลังคิดกันอยู่เช่นเดียวกับในส่วนของรัฐบาล หลังจากนี้จะได้จัดลำดับความสำคัญว่า จะปฏิรูปในเรื่องใดบ้าง โดยในวันที่ที่นายมีชัยเข้าร่วมประชุมด้วยนั้น เนื่องจากว่ากรธ.จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องข้อกฎหมายเพื่อรองรับการ ปฏิรูป เช่นหากรัฐบาลกำลังคิดเรื่องการศึกษา สปท.จะมีความเห็นอย่างไรมีกฎหมายอะไรที่ต้องออกหรือไม่ หรือในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องพูดถึงเรื่องการศึกษาอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในวันนี้ สืบเนื่องจากนายกฯได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 20ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าต้องการให้รัฐบาลสปท.และสนช.ดำเนินงานด้านการปฏิรูปให้เกิดความประสานสอด คล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สนช.เตรียมลงมติให้ความเห็นชอบป.ป.ท.ชุดใหม่รายงานข่าวจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แจ้งว่าทางคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ส่งรายชื่อประธานและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จำนวน 5 คน มายังสนช.เพื่อขอความเห็นชอบ ประกอบด้วย 1.นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด (ป.ป.ส.) 2.นายจิระรัตน์ นพวงศ์ ณ อยุธยา อดีตรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) 3.พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี อดีตที่ปรึกษา สบ.10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) 4.พล.อ.ชัยรัตน์ ชีระพันธุ์อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ และ5.นายอนุสิษฐ คุณากร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้คาดว่าทางคณะกมธ.วิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม สนช. ในสัปดาห์ต่อไปเพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ท. ทั้ง 5 คน ก่อนที่จะนำผลการตรวจสอบประวัติฯกลับมาให้ที่ประชุมพิจารณาและเห็นชอบอีก ครั้ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก (วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558) 
