นายกฯเข้าใจเกษตรกรไม่ขนยางขายให้รัฐ เพราะไม่คุ้มค่าขน โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 26 มกราคม 2559, 15:59

นายกฯเผยเข้าใจเกษตรกร ไม่ขนยางขายให้รัฐ เพราะไม่คุ้มค่าขนส่ง หลังราคาขยับขึ้นกว่า 40 บาท ชี้เลือกทางยาก แก้ปัญหาหวังให้ยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาราคายาง ว่า การรับซื้อยางเวลานี้ ยังมีจำนวนน้อยอยู่ ซึ่งวันนี้ราคาท้องตลาดขึ้นมา ที่กก.ละ 40 กว่าบาท ก็ต่างกันไม่มากนักจากราราคาที่รัฐบาลรับซื้อ เพราะเขาก็ขายเองด้วย เนื่องจากไม่อยากรับภาระในการขนมาขายให้ แต่ก็เป็นเรื่องของเขา เพราะรัฐบาลเพียงแค่ซื้อน้ำราคาเฉยๆ ส่วนการนำไปสู่การผลิต ก็ดำเนินการต่อ โดยกำลังจับคู่กันให้ได้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งระยะยาว ทั้งนี้จะต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน รัฐก็ต้องปรับสร้างความเข้มแข็งให้ได้ ขณะที่ประชาชนก็ต้องยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงบ้าง เพราะถ้าทุกคนยังยืนหยัดอันเดิมอยู่ มันไปไม่ได้หมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมครม.มีการขออนุมัติงบประมาณเกี่ยวกับเรื่องยางเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีการขอเพิ่มเงินเก่ายังใช้ไม่หมด ตอนนี้เพิ่งซื้อมา 70 ตัน เพราะอย่างที่บอก บางทีเมื่อขนมาไกลเกษตรกรก็ไม่อยากเอามา และต้องมีการแปรรูปมาก่อนด้วย เพราะถ้าซื้อน้ำยางแล้วขนขึ้นมาก็จะเป็นปัญหา ดังนั้นรัฐก็มองในแง่ของการหางบประมาณลงไปเพื่อให้เกิดการแปรรูปขึ้นต้นใน ท้องถิ่น เพราะถ้าหากขายเป็นน้ำยางดิบก็เป็นปัญหา ทั้งขนส่งลำบากและเสียง่าย ฉะนั้นต้องรีบทำยางก้อน ยางถ้วย รีดเป็นแผ่นยางให้เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่า
นายกฯ กล่าวว่า ต่อไปต้องมีการดูในเรื่องการกรีดยางที่ไม่ต้องใช้คน ตั้งเวลาใบมีด โดยที่จ.บึงกาฬ มีการนำมาโชว์แล้ว แต่ต้องดูด้วย ถ้าใช้เครื่องมือมากขึ้นพวกกรีดยางจะตกงานหรือเปล่า แต่ถ้าใช้เครื่องมือการกรีดยางก็จะเร็วขึ้น พร้อมลดต้นทุน ไม่ต้องใช้คนกรีด ซึ่งต้องปรับเข้าหากัน โดยต้องตามไปสู่การปลูกพืชแซมในสวนยาง ถ้าคิดอะไรให้เป็นระบบก็จะไปได้ แต่จะยากมันถึงไม่ทันใจ ถ้าจะเอาทันใจนายกฯก็สั่งอนุมัติงบประมาณโครมๆ อยากทำอะไรก็ทำ ซื้ออะไรก็ซื้อ แล้วก็เอามากองเพล่ะอยู่ โดยเราเลือกทางที่ยาก แก้ปัญหาแบบละเอียด แต่เป็นทางที่ยั่งยืน ตอนนี้การแก้ปัญหาราคายางจะใช้งบการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ถ้าไม่พอเขาก็จะขอเพิ่มขึ้นมา ซึ่งกรอบวงเงินได้มีการอนุมัติล่วงหน้าไว้แล้ว แต่เวลาจะใช้ต้องนำเสนอขออนุมัติมายังครม.อีกครั้ง การทำงานของรัฐบาล ถ้าให้ดำริอะไรไปแล้ว ก็ไปทำข้อพิจารณาขึ้นมา และขออนุมัติหลักการ เวลาจะใช้เงินก็ต้องไปทำแผนงานโครงการขอมาอีกรอบ แต่อะไรที่ทำไปแล้ว และงบไม่พอก็ต้องขออนุมัติงบเพิ่มเติม มีทั้งเงินต้น เงินชดเชยดอกเบี้ย