กยท.มั่นใจ ส่งออกยางไม่กระทบ
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า เมื่อพิจารณานโยบายด้านเศรษฐกิจของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐแล้ว ระยะแรกอาจทำให้อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน แต่คาดว่าในที่สุดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ซึ่งจะส่งผลดีกับราคายางในประเทศของไทย
ทั้งนี้ เนื่องจากการค้าขายยางระหว่างประเทศส่วนมากจะค้าขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ราคายางเมื่อคิดกลับเป็นเงินบาทมีราคาเพิ่มขึ้น และหากสหรัฐมีนโยบายกดค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น อุตสาหกรรมยางจะไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะไทยเป็นผู้ส่งออกยางเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตของจีน
"การแข็งค่าขึ้นของเงินหยวนจึงไม่ได้เป็นปัจจัยกดดันราคายาง แต่กลับจะส่งเสริมให้การส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่นโยบายการตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีนจะส่งผลทางอ้อม ทำให้ความต้องการซื้อยางจากไทยลดลง" นายธีธัช กล่าว
สำหรับปี 2558 ประเทศไทยส่งออกยางพาราไปยังประเทศสหรัฐประมาณ 16,500 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ถือเป็นผู้ซื้อยางจากไทยเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยส่วนมากยางที่ส่งออกจะเป็นยางประเภทยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น เป็นต้น
นายธีธัช กล่าวว่า กยท.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบแบบครบวงจร ได้เร่งหาแนวทางลดต้นทุนการผลิต ยกระดับคุณภาพของผลผลิตให้ได้มาตรฐานในระดับสากล พร้อมทั้งแสวงหาตลาดใหม่เพื่อทำการค้าระหว่างประเทศ ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตยางคุณภาพและส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก
(ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559)