ผู้เขียน หัวข้อ: ทึ่ง! ?รองเท้ายางพารา? เตรียมโกอินเตอร์อีกทางเลือกแก้ปัญหาราคายางตกที่นครศรีฯ  (อ่าน 617 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87601
    • ดูรายละเอียด
ทึ่ง! ?รองเท้ายางพารา? เตรียมโกอินเตอร์อีกทางเลือกแก้ปัญหาราคายางตกที่นครศรีฯ
เผยแพร่: 27 ม.ค. 2561 12:13:00   โดย: MGR Online



นครศรีธรรมราช - สุดทึ่งนักธุรกิจชาวดูไบสั่ง ?รองเท้ายางพารา? ออกจำหน่ายสู่ตลาดโลก จากแหล่งตลาดท่องเที่ยวในท่องถิ่น จ.นครศรีธรรมราช ด้วยฝีมืออดีตพนักงานบริษัทยางฯ


วันนี้ (27 ม.ค.) ที่บ้านเลขที่429/2 หมู่ 6 ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอินดี้รองเท้าแฮนเมดจากยางพารา ของนางพิมพ์ชนา ศรีจันทร์คง อายุ 42 ปี มีกลุ่มชาวบ้านในชุมชนอายุประมาณ 30-40 ปี เป็นผู้หญิงล้วนกว่า 20 คน เร่งผลิตรองเท้าอย่างตั้งใจ โดยมีตัวอย่างของรองเท้าที่ทำเสร็จแล้ววางโชว์อย่างสวยงาม เป็นรองเท้าที่ทำจากยางพาราทั้งสิ้น และมีรูปแบบต่างๆ เอาไว้ให้เลือก


นางพิมพ์ชนา ศรีจันทร์คง หรือน้องหญิง อายุเพียง 42 ปี เล่าว่า สาเหตุที่ตนได้ทำรองเท้าแฮนเมดยางพารานั้น เนื่องจากเรียนจบเคมีการยางจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.ภูเก็ต และได้โอกาสไปทำงานในห้องแล็บของบริษัทโตไกรับเบอร์พาร์ท ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ประมาณ 4 ปี จากนั้นก็มาทำงานห้องแล็บของบริษัทเมสันอินดักส์ของอเมริกา ประมาณ 13 ปี และตอนนั้นพ่อแม่ไม่มีใครดูแล ประกอบกับเป็นลูกลูกคนเดียว และมีครอบครัว เลยตัดสินใจลาออกทิ้งเงินเดือนที่ถือว่าสูงมากเมื่อมาเทียบกับในประเทศไทย จากนั้นกลับมาอยู่บ้านที่ อ.เชียรใหญ่ เพื่ออยู่กับครอบครัว และดูแลพ่อแม่




ตอนกลับมาอยู่บ้านใหม่ๆ เมื่อปี 2553 ยอมรับว่าเสียดายงานที่ทำเป็นอย่างมาก แต่เห็นสภาพชาวบ้านในชุมชนเดียวกันมีปัญหาเรื่องราคายางตกต่ำ และน้ำท่วมไม่มีรายได้ จึงนั่งคิดว่าจะทำอะไรที่จะมีรายได้โดยดึงชาวบ้านมาด้วย และบังเอิญไปเห็นเว็บไซต์ของต่างประเทศเกี่ยวกับรองเท้ายางพารา จึงสนใจ และได้ติดต่อรองเท้ายางพาราแล้วนำมาตกแต่งเพิ่มมูลค่า และส่งขายราคาตั้งแต่ 250-450 บาท แล้วแต่รูปแบบ ช่วงนั้นสั่งรองเท้ามา 10 โหลมีรายได้หมื่นกว่าต่อเดือน และหลังจากนั้นก็เริ่มเพิ่มขึ้นมีการส่งขายกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ


โดยการทำนั้น ตนจะสั่งรองเท้ายางพาราสำเร็จรูปมา และนำลูกปัดและสินค้าตกแต่งเป็นรูปแบบต่างๆ ก็ได้รับความสนใจในระดับหนึ่ง โดยตนได้ดึงชาวบ้านในชุมชน 22 คนมาเป็นลูกมือ โดยชาวบ้านจะมีรายได้วันละ 300 บาทขึ้นไป แล้วแต่ออร์เดอร์ในระยะแรกๆ และเมื่อถึงช่วงที่ทางหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการทำตลาดหน้าพระธาตุในทุกวันเสาร์ ก็มีคนมารับไปขาย แต่ทางหอการค้ามีนโยบายว่าจะต้องเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นเองไปขายเลยไปนั่งขาย โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาก วันไหนถ้ามีทัวร์จีนหรือทัวร์ต่างชาติมาลงจะขายดีมากๆ


จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีชาวไทยที่มีสามีเป็นชาวดูไบมาเดินเที่ยวตลาดหน้าพระธาตุฯ และมาซื้อไปใส่เอง พออีกเสาร์หนึ่งก็มาอีก และมาติดๆ กันหลายเสาร์ จึงมีการเจรจาซื้อถึง 5 พันคู่ และล่าสุดได้มีการสั่งเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ โดยเค้าจะทำแบรนด์คอลเล็กชันของดูไบเอง ซึ่งตรงนี้ตนดีใจมากเพราะทำให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้ไปด้วยจากวันละ 300-400 บาท กลายเป็น 600 บาท




นางพิมพ์ชนา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางหอการค้านครศรีธรรมราช ได้เข้ามาช่วยเรื่องการตลาด และตนก็จะมีการผลิตรองเท้ายางพาราเอง โดยตนได้ไปประสานกับโรงงานที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช จะรับซื้อน้ำยางสดสะอาดในชุมชนของเรา โดยตั้งใจว่าจะซื้อในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดเพื่อช่วยชาวบ้านในชุมชนด้วย แล้วจะส่งไปให้โรงงานที่บางขันอบยางผสมให้ แล้วแปรรูปออกมาเป็นรองเท้ายางพารา โดยจะทำเองหมดทุกขั้นตอน โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการในอีก 7-8 เดือนข้างหน้านี้


นายกรกรก เตติรานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราได้เริ่มกับชุมชนกลุ่มนี้ในรูปแบบ 1 ชุมชน 1 บริษัท โดยเราได้ผลักดันให้เปิดตลาดในตลาดหน้าพระธาตุฯ เพราะเราเล็งเห็นว่าสามารถเปิดตลาดในกลุ่มสินค้ายางพาราได้ และขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งผลตอบรับที่ได้มามาจากนักธุรกิจต่างประเทศที่มาเที่ยวตลาดหน้าพระธาตุฯ และคิดว่าจะสามารถขยายผลต่อไปได้