ผู้เขียน หัวข้อ: 'สาทิตย์'ชี้ปัญหายางพารา เกิดจากการบริหารด้วยความไม่เข้าใจถ่องแท้  (อ่าน 724 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87601
    • ดูรายละเอียด
'สาทิตย์'ชี้ปัญหายางพารา  เกิดจากการบริหารด้วยความไม่เข้าใจถ่องแท้
วันเสาร์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561, 10.21 น. แนวหน้า


10 มี.ค.61 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดตรัง ถึงกรณีเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพารา 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับแกนนำชาวสวนยางทุกกลุ่ม  และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สร.กยท.) เตรียมเคลื่อนไหวขับไล่ พลเอก ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข  ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย หลังจากเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาเป็นผู้จัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของพนักงานการยางแห่งประเทศไทย รวมทั้งเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางฯ และเสียงคัดค้านของกลุ่มชาวสวนยางทุกกลุ่ม เป็นความตั้งใจเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับนายทุน ทำลายองค์กรการยางแห่งประเทศไทย
 
 โดยนายสาทิตย์ กล่าวว่า นโยบายการบริหารจัดการเรื่องยางพาราภาครัฐมีปัญหามาก ความจริงสภาสมัยที่ผ่านมาได้ออกกฎหมายที่รวมหน่วยงานด้านยางพาราเข้าไว้เป็นหน่วยงานเดียวกัน มีความมุ่งหวังการจัดการเรื่องยางพาราจะมีเอกภาพและประสิทธิภาพ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากรวมทุกหน่วยงานเข้ามาแล้ว การบริหารจัดการกับตรงกันข้าม ตนเข้าใจว่าปัญหาใหญ่สุดมาจากบอร์ดของการยางแห่งประเทศไทยที่ได้คนที่ยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องหลักการการบริหารจัดการยางพาราอย่างถ่องแท้และชัดเจน จึงทำให้เกิดปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์ต่อพี่น้องชาวสวนยางพาราตามความจริง เช่น ราคายางพาราไม่เขยิบขึ้นในขณะเดียวกันมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบบางประการทำให้มีการต่อต้านเกิดขึ้น
 
 นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า อย่างกรณีเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) ที่ให้ภาคเอกชนจัดเก็บ ซึ่งผิดหลักเกณฑ์โดยสิ้นเชิง เงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา  (Cess) เป็นเงินของชาวสวนยางพาราที่จัดเก็บเพื่อนำเงินมาพัฒนาระบบยางพาราโดยส่วนรวม ซึ่งคนจัดการจะต้องเป็นภาครัฐต้องมีการจัดการที่ชัดเจน ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการปรับอัตราของการจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) ขึ้นเพื่อให้มีเงินมากเพียงพอในการพัฒนาระบบยางพารา ดังนั้นระบบจัดเก็บรัฐต้องดูแล การให้เอกชนเข้ามาดูแลผิดวัตถุประสงค์ และทำให้เกิดปัญหาตามมา ปัญหาใหญ่ที่ตามมา คือบอร์ดมีลักษณะไม่ฟังเสียงใคร และมีการรวบอำนาจการบริหารจัดการไม่สามารถทำให้ทุกภาคส่วนออกมาพูดจาได้
 
 ?ดังนั้นเมื่อมีแกนนำยางพาราออกมาเคลื่อนไหว อย่ามองว่าเป็นประเด็นการเมือง เคลื่อนไหวกระทบความมั่นคงของรัฐบาล แล้วใช้วิธีความมั่นคงมาจัดการ เพราะว่าการเคลื่อนไหวมาจากปัญหา คนที่มีปัญหาต้องมีโอกาสที่จะส่งเสียงบ้าง การไม่มีโอกาสที่จะส่งเสียงมันเป็นการสร้างความกดดันให้เกิดขึ้น และเมื่อไม่มีการมีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหายางอย่างมีประสิทธิภาพก็ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นอย่างใช้การใช้การบริหารจัดการแบบเดียวกับปัญหาความมั่นคง เพราะมันคนละเรื่องกัน อย่ามองว่าแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อจะที่ไปโค่นล้มนั่นโน่น นี่ไม่ใช่ ถ้ามีการบริหารถูกต้องฟังเสียง เปิดการมีส่วนร่วมทุกอย่างก็จบจึงต้องเกิดการยอมรับของบอร์ดก่อนว่าอย่ารวบอำนาจ และอย่าตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงใคร? นายสาทิตย์ กล่าว
 
 นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าเสียงปากท้อง เสียงท้องของคนต้องดังกว่าเสียงใดๆ ดังนั้นตนให้กำลังใจกับคนที่ออกมาพูดในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ขณะเดียวกันก็เรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกรุณารับฟังเสียงประชาชนและเปิดโอกาสช่องทางให้เขาได้พูด และถ้าลงมาดูบอร์ดให้ดูประสิทธิภาพบริหารจัดการด้วยว่ามีปัญหาอย่างไร แล้วจะรู้ว่าปัญหายางพาราไม่ได้เกิดจากการเคลื่อนไหวของคน แต่เกิดจากบริหารภาครัฐที่เป็นปัญหา