ผู้เขียน หัวข้อ: หุ้นวิตกสถานการณ์โควิด และข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน  (อ่าน 638 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83025
    • ดูรายละเอียด

หุ้นวิตกสถานการณ์โควิด และข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน

เผยแพร่: 29 มิ.ย. 2563 09:31   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามต่างประเทศ วิตกสถานการณ์โควิด และข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน ขณะที่ยังต้องจับตาปัจจัยในประเทศทั้งในส่วนของความคาดหวังการทำ Window dressing ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการคลายล็อกเฟส 5

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับลดลง หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงแรงเมื่อคืนวันศุกร์ และเช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่มียอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกทะลุ 5 แสนราย รวมถึงข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ยังต้องจับตาปัจจัยในประเทศทั้งในส่วนของความคาดหวังการทำ Window dressing ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการคลายล็อกเฟส 5 ของมาตรการเข้มสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทางศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาในวันนี้ พร้อมมองแนวรับที่ 1,306-1,311 จุด และแนวต้านที่ 1,338-1,342 จุด

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค ที่ส่วนใหญ่ปรับลดลงในเกณฑ์ 1% หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 700 จุดเมื่อคืนวันศุกร์ และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้านี้ก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง จากจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งทะลุ 5 แสนรายทำให้ตลาดกังวลว่ารัฐบาลทั่วโลกอาจกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีรายงานข่าวข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกของทั้งสองประเทศอาจเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น

อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาปัจจัยภายในประเทศ โดยยังมีความคาดหวังการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window dressing) ที่อาจจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นไตรมาส 2/63 รวมถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ในวันนี้ ที่จะพิจารณาเรื่องการผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรมในระยะที่ 5 ซึ่งตลาดส่วนใหญ่รับรู้ไปบ้างแล้ว รวมถึงยังต้องจับตาสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อาจจะมีขึ้นในระยะต่อไปด้วย

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,306-1,311 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,338-1,342 จุด