TEGH ปักหมุดปีนี้ยอดขายยางแท่งแตะออลไทม์ไฮหวังอานิสงส์ราคายางสูงขึ่นหนุนผลงานโตสวย
ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 29, 2024 15:13 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
TEGH ปักหมุดปีนี้ยอดขายยางแท่งแตะออลไทม์ไฮหวังอานิสงส์ราคายางสูงขึ่นหนุนผลงานโตสวย
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) เปิดเผยว่า สำหรับปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแท่งมีโอกาสที่ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% และราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ TEGH มียอดการผลิตและจำหน่ายยางแท่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งในปี 66 มียอดขายยางแท่ง 197,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 5,700 ตัน คิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 3%
TEGH ปักหมุดปีนี้ยอดขายยางแท่งแตะออลไทม์ไฮหวังอานิสงส์ราคายางสูงขึ่นหนุนผลงานโตสวย
ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มที่ดีหลังจากปรับปรุงกระบวนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และจะติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายในปี 2569 ด้านธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จะรับรู้รายได้จากการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 ได้ภายในไตรมาสแรก และคาดว่าเริ่ม COD โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 2 ได้ในปีนี้
"TEGH มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง และในปี 67 บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโต สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุน ควบคู่กับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทาง (Carbon Neutrality) ในปี 2573" นางสาวสินีนุช กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 66 บริษัทฯ มีรายได้ 12,143 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ จำนวน 12,143 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ จำนวน 10,093 ล้านบาท, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 1,907 ล้านบาท และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จำนวน 133 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีผลการดำเนินงานในระดับที่ดี เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางล้อ ทำให้ราคายางขายยางแท่งปรับตัวดีขึ้น ความต้องการสินค้าจากยุโรปและจีนกลับมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 รวมถึงมีการขยายตลาดไปยังประเทศอินเดียได้มากขึ้น อีกทั้งเรายังได้รับผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฏหมาย EUDR เนื่องจากเรามีการเตรียมความพร้อม และลูกค้าให้ความสนใจขอเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเซีย ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังของปี 67 นี้
โดย ศศิธร ซิมาภรณ์