เกษตรกรในเวียดนามลดพื้นที่ปลูกยางลงหลายเฮกตาร์เนื่องจากราคายางตกต่ำ พื้นที่ปลูกยางหลายพันเฮกตาร์ในภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศเวียดนามถูกกำจัดเป็นจำนวนมากตั้งแต่ราคายางในตลาดโลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกขนานนามว่า ?ทองคำขาว? ได้ลดฮวบลง
ตามที่นาย Vuong Quoc Thoi ผู้อำนวยการเกษตรและการพัฒนาชนบทจังหวัด Tay Ninh กล่าวว่า พื้นที่ปลูกยางจำนวน 1,300 เฮกตาร์ในจังหวัดได้ถูกกำจัดจนหมด
นาย Thoi กล่าวว่า ราคายางในตลาดโลกลดลงอย่างมากเนื่องจากมีผลผลิตส่วนเกินจำนวนมาก ประเทศไทยจำหน่ายน้ำยางในตลาดถึง 200,000 ตัน ในขณะเดียวกันจีนนำเข้ายางจากเวียดนามถึงร้อยละ 50 ของปริมาณการส่งออกยางทั้งหมดของเวียดนาม แต่ได้ปรับลดปริมาณการนำเข้าลง
?ราคายางเคยเพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านดงต่อตัน แต่ขณะนี้ได้ลดลงอย่างมากเหลือเพียง 20 ล้านดงต่อตันเท่านั้น? นาย Thoi กล่าว
นาย Nguyen Quang Tuan เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมาเกษตรกรได้โค่นต้นยางในพื้นที่ประมาณ 100 เฮกตาร์ ในจังหวัด Dak Nong
ด้าน นาย Nguyen Van Toi ผู้อำนวยการเกษตรจังหวัด Binh Phuoc ได้ยืนยันว่าต้นยางในจังหวัดได้ถูกโค่นลง แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถบอกจำนวนที่ชัดเจนได้ก็ตาม ซึ่งเขาคิดว่าถือเป็นเรื่องปรกติสำหรับเกษตรกรที่จะปลูกพืชชนิดหนึ่งเมื่อสามารถทำกำไรได้ และตัดทิ้งเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่ไม่สามารถทำกำไรให้ได้อีกต่อไป
?สวนผลไม้สามารถทำกำไรได้สูงถึง 400 ? 500 ล้านดงต่อเฮกตาร์หลังจากสามปีก่อน ในขณะที่สวนยางสามารถทำกำไรได้เพียง 90 ล้านดงต่อเฮกตาร์เท่านั้น
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เกษตรกรลดการปลูกยางลงและหันไปทำสวนผลไม้แทน? นาย Toi กล่าว
ใครควรจะถูกตำหนิ?
นาย Toi ได้กล่าวย้ำว่าเกษตรกรไม่สามารถตำหนิเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเรื่องราคายางที่ตกต่ำและการปลูกยางที่ไม่ได้ผลกำไรของพวกเขาได้
?ครั้งหนึ่ง เราได้ให้คำแนะนำว่าเกษตรกรควรโค่นต้นยางในพื้นที่ที่ไม่ทำกำไรจำนวน 20,000 เฮกตาร์ แต่พวกเขาก็ยังตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้และปลูกยางต่อไป พวกเขามีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองและต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจดังกล่าวเองด้วย? นาย Toi กล่าว
ด้าน นาย Thoi ผู้อำนวยการเกษตรและการพัฒนาชนบทจังหวัด Tay Ninh ไม่สามารถตอบได้ว่าใครควรรับผิดชอบกรณีที่ผลผลิตยางมีมากเกินไป ?ในอดีต ราคาน้ำยางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกยางในบริเวณพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ปลูกข้าวจำนวน 5,000 เฮกตาร์ถูกเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่ปลูกยางแทน? เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม นาย Thoi คิดว่าเกษตรกรไม่ควรถูกตำหนิในกรณีนี้ และไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐเนื่องจากกลยุทธ์การพัฒนายางจัดเป็น ?แผนแบบเปิดกว้าง?
สำหรับความเห็นเกี่ยวกับความล้มเหลวของโครงการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม นาย Pham Minh Dao ผู้อำนวยการเกษตรจังหวัด Dong Nai ให้ความเห็นว่า ?ไม่เพียงแต่ยางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพืชชนิดอื่นๆ อีกที่กำลังแย่ และมันจะดีกว่าหากจะถามไปยังกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท?
นาย Dao เชื่อว่ามีปัญหาหลายอย่างในตัวโครงการและการดำเนินโครงการ และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเกษตรกรถึงปลูกพืชอย่างเป็นปกติเมื่อราคาแกว่งตัว และโค่นทิ้งเมื่อราคาตกลง
?หลายโครงการได้ถูกดึงขึ้นมา แต่ไม่มีหน่วยงานใดที่จะก้าวเข้ามากำหนดกลไกที่เหมาะสมเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว? เขากล่าว
ก่อนสิ้นปี 2556 เวียดนามมีพื้นที่ปลูกยางจำนวน 915,000 เฮกตาร์ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายของรัฐที่กำหนดไว้ในยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ปลูกยางที่มีจำนวน 800,000 เฮกเตอร์ และมากกว่าที่กำหนดในปี 2563
ที่มา
http://rubberjournalasia.com (02/07/57)