ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557  (อ่าน 1300 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88287
    • ดูรายละเอียด
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันศุกร์ที่  12  กันยายน  พ.ศ. 2557
ปัจจัย[/t][/t]
[/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนกระจายร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้และภาคตะวันออกมีฝนกระจายเกือบทั่วไป   ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถเดือนสิงหาคมของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.04 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1.71 ล้านคัน และปรับตัวขึ้นร้อยละ 6.72 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ส่วนการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.71 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.22 เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงร้อยละ 0.34 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมันรายงานว่า   ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมขยายตัวร้อยละ 0.8   เมื่อเทียบเป็นรายปี สะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของเยอรมันยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดนับ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์   2553 เนื่องจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศสเปิดเผยว่า   ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนกรกฎาคม และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฤดูกาลลดราคาสิ้นสุดลง ประกอบกับค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวขึ้น
- ผลสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 11.1 จุดในไตรมาส 3 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ -14.6 จุด นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งมีมุมมองเป็นบวกต่อ แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ   3 ของโลก โดยดัชนีคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ที่ 9.9 จุดในไตรมาส 4 และ 7.3 จุดในไตรมาสแรกปีหน้า
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า   ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นการปรับตัวลดลงรุนแรงกว่าเดือนกรกฎาคมที่ลดลงร้อยละ 0.9 และหากเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PPI   เดือนสิงหาคมปรับลงร้อยละ 0.2 จากเดือนกรกฎาคม และเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 30   ติดต่อกัน ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่ยังมีอยู่จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 32.25 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.10   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 107.26 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.57 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดตลาดที่ 92.83 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น   1.16 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและ รัสเซียอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันนตลาดโลก   ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ณ ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น   0.04 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 98.08 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- สำนักงานพลังงานสากล (IEA.)   ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกปี 2558 ต่ำกว่าระดับประเมินเดือนก่อน   โดยปรับลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 1.3 อยู่ที่ 93.8   ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม2557 อยู่ที่ 179.6 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น   2.4 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ 190.3 เยนต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 2.6 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 163.4 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   ลดลง 0.1 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ   เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน   2557 ปรับขึ้น 11,000 ราย อยู่ที่ 315,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 300,000 ราย
- สหภาพยุโรป (EU.) ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ มีผลบังคับใช้วันที่ 12 กันยายน   2557 โดยระบุว่ากลุ่มประเทศสมาชิก EU. และบริษัทเอกชนใน EU. จะไม่จัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารของรัฐบาลรัสเซีย 5 แห่ง   ขณะเดียวกันการซื้อขายพันธบัตรชุดใหม่ หลักทรัพย์ หรือตราสารหนี้ที่มีอายุการไถ่ถอนมากกว่า 30 ปี ซึ่งออกโดยธนาคารเหล่านี้จะถูกระงับ
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ   ๆ เพราะผู้ประกอบการชะลอการซื้อ เพื่อรอดูการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่าจะมีความชัดเจนหรือไม่ในมาตรการแก้ไข ปัญหาราคายางตกต่ำ
 
   แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยมีปัจจัยบวกจากราคาชี้นำตลาดล่วงหน้าโตเกียวปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน และเงินเยนอ่อนค่าเหนือระดับ 107 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดในรอบ 6 ปี จากสัญญาณบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุน เศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยลบมาจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตลาดแรงงานยังมีความผันผวน และจีนยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 16 - 17 กันยายนนี้

ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
[/td][/tr][/table]