ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557  (อ่าน 1118 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88287
    • ดูรายละเอียด
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่  15  กันยายน  พ.ศ. 2557
ปัจจัย[/t][/t]
[/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล และกระบี่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   (สศก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์สินค้าเกษตรของยางพารา   ซึ่งจะมีผลผลิตออกมากในช่วงไตรมาส 4 (ตุลาคม - ธันวาคม) คาดการณ์ว่ายางพาราจะมีผลผลิต   4.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่มี 4.38 ล้านตัน เนื่องจากเนื้อที่กรีดยางส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุให้ผลผลิตสูง ประกอบกับมีเนื้อที่ที่เปิดกรีดยางหน้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งในไตรมาส 4 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด   1.44 ล้านตัน หรือร้อยละ 31.51 ของผลผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ 1.38   ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.28
 
3. สต๊อคยาง
 
- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 12 กันยายน   2557 เพิ่มขึ้น 100 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.06 อยู่ที่ 166,428 ตัน จากระดับ 166,328 ตัน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557
 
4. เศรษฐกิจโลก
 
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สต๊อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนมิถุนายนที่ขยายตัวร้อยละ 0.3 เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตและการค้าต่างเพิ่มสต๊อคสินค้าของตนเอง
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ   เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากเดือนกรกฎาคม แตะ   4.444 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของชาวอเมริกันกระเตื้องขึ้น
- กระทรวงเศรษฐกิจ   การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมขยายตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการเพิ่มตัวเลขผลผลิตที่สูงขึ้นจากร้อยละ 0.2 ของการประเมินก่อนหน้านี้
- สำนักข่าวรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ช่วงต้นเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้นแตะ 84.6 จุด จาก   82.5 จุดเมื่อเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าคาดการณ์
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน   (NBS) เปิดเผยว่า
 
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมขยายตัวร้อยละ   6.9 เมื่อเทียบปีต่อปี ลดลงจากร้อยละ 9.0 ในเดือนกรกฎาคม
  • ยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคมขยายตัวร้อยละ   11.8 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 2.11 ล้านล้านหยวน
5. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 32.27 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.02   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 107.22 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น   0.04 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
6. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดตลาดที่ 92.27 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.56 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากการคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะปรับตัวลดลงทั่วโลก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในจีนและยุโรป ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
- องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันในอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.5 ล้านบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นของสต๊อคน้ำมันในสหรัฐฯ
 
7. การเก็งกำไร
 
- ตลาดล่วงหน้า TOCOM ปิดทำการ เนื่องในวัน Respect for the Aged Day
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 164.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 0.60 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
8. ข่าว
 
- สหรัฐฯ   ได้ขยายขอบเขตการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดกับธนาคาร OAO Sber Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และยังครอบคลุมถึงบริษัทพลังงาน เทคโนโลยี และกลาโหมของรัสเซีย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน   (NBS) เปิดเผยว่า การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่าง ต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม โดยรายงานชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในรอบ 8 เดือน (มกราคม - สิงหาคม) ขยายตัวร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงร้อยละ 0.5 จากอัตราการขยายตัวในช่วง 7 เดือน (มกราคม - กรกฎาคม) พร้อมเปิดเผยว่าในช่วง   8 เดือน (มกราคม - สิงหาคม) การลงทุนในทรัพย์สินถาวรขยายตัวร้อยละ 16.5   เมื่อเทียบปีต่อปี โดยระบุว่าอัตราการขยายตัวชะลอลงร้อยละ 0.5 จากอัตราการขยายตัวระหว่างเดือนมกราคม - กรกฎาคม
 
9.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากภาวะฝนตกชุกในหลายพื้นที่ ทำให้ผลผลิตมีน้อยมาก ประกอบกับโรงงานหลายแห่งก็เริ่มขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม   ราคายังไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจนช่วยกระตุ้นตลาด
 
  แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในกรอบจำกัดทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้า โตเกียว เพราะได้รับแรงหนุนจากเงินเยนและเงินบาทอ่อนค่า ประกอบกับภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ปลูกยางของไทย ทำให้อุปทานยางออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประชุมในสัปดาห์หนี้ และยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของจีน โดยเฉพาะการชะลอตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
[/td][/tr][/table]