ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาไม้ยางตกไร่ละแสนกว่าบาท หรือไม่ก็จากบทความเรื่อง ราคาไม้ยางพาราแพงกว่าราคาสวน  (อ่าน 4676 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87997
    • ดูรายละเอียด
ราคาไม้ยางตกไร่ละแสนกว่าบาท หรือไม่ก็จากบทความเรื่อง ราคาไม้ยางพาราแพงกว่าราคาสวน

ตามที่คุณดาสอบถามราคาไม้ยาง  ผมจะให้วิธีการซื้อไม้ยางก่อนนะครับ
      การซื้อไม้ยาง เป็นตัวกำหนดราคาไม้ยางพารา มี 2 แบบ คือ ราคาไม้ยางที่โรงงานเลื่อยแปรรูปซื้อจากพ่อค้าคนกลางหรือตนตัดไม้  กับ ราคาที่คนตัดไม้ยางมาซื้อจากเจ้าของสวน  ว่ากันทีละเรื่องนะครับ
     1) ราคาไม้ยางที่โรงงานเลื่อยแปรรูปซื้อจากรถที่เอาไปส่ง  โรงงานจะซื้อไม้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว ขึ้นไป (บางโรงงานลดเหลือเล็กสุด 4 นิ้ว แต่ต้องคละกับไม้โตในสัดส่วนพอประมาณ) ความยาวท่อนละ 1.10 เมตร เป็นราคาต่อกิโลกรัม ราคาจะอยู่ระหว่าง กก.ละ 1.50 - 4.50 บาท ราคาจะสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับความต้องการของโรงงานกับปริมาณของที่มี (Demand - Supply) หน้าแล้งราคาถูก หน้าฝนราคาแพง เพราะสวนที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปตัดไม่ได้  แต่หน้าแล้งเข้าได้หมดทุกสวนราคาก็จะถูก  ดังนั้นใครมีสวนยางที่จะโค่น ติดถนนใหญ่เข้าออกสะดวก แนะนำให้ขายในช่วงหน้าฝนซึ่งโรงงานจะให้ราคาดี เมื่อโรงงานให้ราคาดี คนตัดไม้ที่ซื้อจากสวนก็จะให้ราคาดีไปด้วย
     2) ราคาไม้ยางที่คนตัดไม้ยางซื้อจากสวน  คนที่ซื้อจะเอาไปขายที่โรงงานเลื่อยแปรรูปตามข้อ 1 อีกที  ราคาที่ซื้อ จะใช้วิธีประเมินจากปริมาณและคุณภาพไม้ยาง  ดังได้กล่าวไว้ในข้อแรก ไม้ยางขนาดโตๆ เป็นไม้ที่ต้องการของโรงงาน แต่ไม้ขนาดเล็กก็สามารถถัวเฉลี่ยได้  ดังนั้นถ้าไม้โตมีมาก ราคาก็จะดี  ถ้าไม้เล็กมีมากกว่า ราคาก็จะถูกกดลงมา  ต้องไม่ลืมว่าคนตัดไม้ต้องจ่ายค่าแรงงาน, ค่าน้ำมันรถ, ค่าน้ำมันเลื่อยโซ่ยนต์, ค่านายหน้า, ค่าผ่านทาง เป็นต้น ดังนั้นคนซื้อไม้จากเจ้าของสวนก็จะประเมินราคาที่เผื่อต้นทุนและกำไรไว้ด้วย ต้นยางขนาดโตๆ ไร่ละประมาณ 60-70 ต้น  ย่อมราคาดีกว่า สวนยางที่ใด้ขนาดเท่ากัน แต่ปริมาณเพียงไร่ละ 40-50 ต้น  อีกประเด็นที่สำคัญมาก คือ ฝีมือในการขายและการแข่งขันในพื้นที่ ถ้าการแข่งขันสูง ราคาก็จะดี แต่ถ้าโดนผูกขาด ก็จะถูกกดราคา  ส่วนคนที่มีลูกล่อลูกชนในการเสนอราคาขายและสามารถยืนราคาได้ดี ย่อมได้ราคาดีกว่า  เป็นต้น
        อย่างไรก็ตาม การตกลงจะซื้อขายไม้ยางพารา ขอแนะนำให้ทำสัญญาให้ชัดเจน  โดยการตกลงซื้อขายต้องมีมัดจำ และมีกำหนดเวลาที่แน่นอน ถ้าเลยเวลาแล้วยังไม่ชำระเงินทั้งหมด ก็ถือว่าสละสิทธิ์ ยึดเงินมัดจำและบอกขายเจ้าอื่นได้ทันที  เคสแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับญาติข้างบ้านมาแล้ว  คือตกลงจะซื้อไม้ยางราคาสามแสนบาท วางมัดจำเสร็จ ไม่ยอมเข้าโค่นไม้สักที จะปลูกยางต่อก็เตรียมดินไม่ได้  เงินก็ยังไม่ได้ มีแต่เงินมัดจำ 5% ซึ่งน้อยนิด เคสนี้ติดที่ไม่ได้ตกลงเรื่องเงื่อนเวลาครับ
         อีกเคส เกิดขึ้นกับผมเองครับ เมื่อ 2539-40  ผมโค่นต้นยางประมาณ 2 ไร่ บริเวณที่ทำบ้านอยู่ปัจจุบัน โค่นเพื่อสร้างบ้านครับ  ตกลงขายในราคารถ(ปิกอัพ)ละ 600 บาท โดยมีข้อแม้ ไม้ขนาด 4-6 นิ้ว ให้ตัดไว้ให้ผมขนาด 3.00 เมตร  เพราะผมจะเอาไว้ทำเสาเข็มก่อสร้างบ้าน  เมื่อโค่นเสร็จเขาก็ขนไม้ที่ได้ขนาด(ไม่เล็กกว่า 6 นิ้ว) ขึ้นรถไปและจ่ายเงินให้รถละ 600 ตามที่ตกลง ซึ่งเขาเอาไปส่งได้ กก.ละ 1.90 บาท  คันรถหนึ่งก็ประมาณ 1500-2000 กก. ไม้ที่เหลือเขาตัดเป็นไม้ฟืน ซึ่งไม้ฟืนไม่ต้องวัดขนาด  เขาเอาไปส่งเตาเผาถ่าน กก.ละ 1.00 บาท  แต่เขาจะไม่จ่ายให้ผมตามที่ตกลงกัน  ผมเลยต้องบังคับไม่ให้เอาไม้ออกจากสวน  เพราะที่เราตกลงกันคือราคารถละ 600 บาท  ซึ่งไม่ได้พูดถึงขนาดของไม้  ตกลงไม้ฟืนที่เหลืออยู่เอาไปเผาถ่าน ใช้ได้เป็นสิบกว่าปีครับ ถ่านชุดนั้นพึ่งใช้หมดไปเมื่อกลางปี 2555 นี่เอง
          เคสที่ 3  ขายไม้ยางโดยตกลงให้ขุดตอยาง + เคลียร์พื้นที่ + ไถบุกเบิก(สามจา) + ไถพรวน(เจ็ดจาน)  โดยมีข้อแม้ว่าห้ามไถโดนหลักโฉนด หากหลักโฉนดหายให้รับผิดชอบค่าสอบเขตกับที่ดินอำเภอ  งานนี้คนรับซื้อไม้ยางไปว่าจ้างคนอื่นมาไถพรวนให้ แล้วหลักเขตที่ดินประมาณ 40 หลัก บนพื้นที่ 6 ไร่ หายเกลี้ยงเลย  งานนี้นายหน้าคนที่มาติดต่อซื้อต้องจ่ายค่าตรวจสอบหลักเขต 3,500 บาท  แต่กว่าจะลงเอยกันได้ คุยกันอยู่นาน โชคดีที่ตกลงกันชัดเจน
          ที่เล่าให้ฟังทั้ง 3 เคส  เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้พึงระวัง เพราะการตกลงขายไม้ยางเกี่ยวข้องกับนายหน้า และพ่อค้าซึ่งมีผลประโยชน์สูง หากเกิดการขัดแย้ง ตกลงกันไม่ได้ อันตรายถึงชีวิตนะครับ  พอๆ กับนายหน้าขายที่ดินเลยแหละ เห็นมาเยอะแล้ว


ตัวอย่าง



สวนยางพาราที่สิ้นสุดการประมูล
[/t][/t]ที่ตั้งแปลงราคาที่เสนอตัวเลือก
1A[/t]หมู่ 5 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี2,680,000
(99,259 บาท/ไร่)รายละเอียด
1A[/t]ศูนย์วิจัยยางสุราษฎร์ธานี ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี12,731,144
(97,932 บาท/ไร่)รายละเอียด
2A[/t]หมู่ 7 ตำบลช้างซ้าย อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี450,000
(40,909 บาท/ไร่)รายละเอียด
2B[/t]หมู่ 10 ตำบลช้างขวา อำเภอกาญจดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี900,000
(60,000 บาท/ไร่)รายละเอียด
4B[/t]หมู่ 9 ตำบลปากแพรก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี370,000
(37,000 บาท/ไร่)รายละเอียด
2A[/t]หมู่ 6 ตำบลป่าร่อน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี1,400,000
(63,636 บาท/ไร่)รายละเอียด
3B[/t]หมู่ 5 ตำบลทุ่งเตาใหม่ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี500,000
(41,667 บาท/ไร่)รายละเอียด
4B[/t]ม.4 ตำบลทุ่งรัง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี260,000
(32,500 บาท/ไร่)รายละเอียดบันทึกนี้เขียนที่GotoKnow โดย ชนันท์ สุวรรณรัตน์


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2015, 09:15:32 AM โดย Rakayang.Com »