ทหารลุยโค่นสวนยางรุกผืนป่า พร้อมเร่งเจรจาเพิ่มอีก1.7พันไร่RYT9 -- พฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2558 13:34:00 น.
ทหารลุยโค่นสวนยางรุกผืนป่า พร้อมเร่งเจรจาเพิ่มอีก1.7พันไร่
9 ก.ค.58 เวลา 10.00 น. พ.อ.จรัส ปัญญาดี รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 นายพิทยา สีศรีสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ฝั่งขวา นำเจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ฯลฯ เปิดยุทธการการตัดฟันและรื้อถอนยางพาราพื้นที่บุกรุกใหม่ (หลังปี 2545) ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าไม้ พื้นที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ฝั่งขวา บริเวณบ้านบ่อทอง ม.5 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย
สำหรับยุทธการดังกล่าวเป็นการนำร่องตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้เน้นหลัก การเจรจาขอความร่วมมือจากผู้บุกรุก ซึ่งพบว่าพื้นที่บ้านบ่อทองดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการบุกรุกจำนวน 5.56 ไร่ โดยเป็นดอยสูงชันและมีการปลูกเป็นสวนยางพาราต่อเนื่องจากพื้นที่ที่เข้าทำ กินก่อนปี 2545 แต่รุกเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้นำเลื่อยยนต์ทำการตัดต้นยางพาราดังกล่าวออกซึ่งมีผู้ที่ ทุกการบุกรุกให้ความร่วมมือโดยนำเจ้าหน้าที่ทำการตัดต้นไม้ออกด้วยดี
โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของนายอินสอน ชัยสุข ชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่ด้านล่างภูเขาบริเวณป่าสงวนแห่งชาตินี้บางส่วน แต่ก็ได้มีบางส่วนรุกเข้าไปในเขตป่าสงวน โดยมีการปลูกยางพาราในพื้นที่ที่บุกรุกจำนวน 3.36 ไร่ มีต้นยางพาราจำนวน 235 ต้น ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการทวงคืนผืน ป่าแต่ใช้หลักการเจราจา ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และข้อสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งพบว่ากรณีนี้นายอินสอนให้ความร่วมมือด้วยดีและยืนดีจะคืนผืนป่าให้อย่าง ไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้ในปัจจุบันยังมีพื้นที่ที่ถูกบุกรุกในลักษณะเดียวกันเหลืออยู่ในการ ดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 อีกประมาณ 200 ไร่ และเฉพาะเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ฝั่งขวา พบว่ามีเหลือที่บุกรุกอีกประมาณ 10 แปลง เนื้อที่ประมาณ 40 กว่าไร่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของรายต่างๆ เพื่อให้ปฏิบัติเหมือนนายอินสอน หากไม่ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้ายึดคืนตามกฎหมายต่อไป
ทางด้านนายอินสอน กล่าวว่า ตนเข้ามาทำกินในพื้นที่ดังกล่าวได้นานประมาณ 20 ปี และเข้ามาปลูกยางพาราและพืชต่างๆ รวมประมาณ 12 ไร่ จากนั้นได้ทำแนวรั้วและปลูกต้นไผ่กั้นเป็นแนวกันไฟ แต่ไม่รู้ว่ามีบางส่วนรุกเข้าไปในเขตป่าดังกล่าวเพราะไม่ทราบแนวเขตที่ ชัดเจน ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ไปบอกกล่าวก็ให้ความร่วมมือและยินดีจะตัดต้นยางพารา ที่รุกล้ำดังกล่าวทั้งหมดออกไปเอง โดยไม่รู้สึกเสียดายเพราะเมื่อทำไม่ถูกต้องก็ไม่ควรจะเสียดายและขอให้ผู้ที่ บุกรุกรายอื่นๆ ได้ทำเหมือนตนด้วยเพื่อให้ป่าไม้กลับไปเป็นของส่วนรวมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับพื้นที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ประกอบ ไปด้วยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติรวม 8 พื้นที่ มีพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการทวงคืนผืนป่าใน จ.เชียงราย ทั้งหมดจำนวน 238.88 ไร่ จำนวน 50 แปลง มีต้นยางพาราที่ปลูกบุกรุกจำนวน 19,583 ต้น และพื้นที่ จ.พะเยา จำนวน 1,501.89 ไร่ จำนวน 133 แปลง ต้นยางพาราจำนวน 131,006 ต้น รวมเนื้อที่ทั้ง 2 จังหวัดจำนวน 1,740.77 ไร่ ยางพาราจำนวน 150,589 ต้น.