ปักธงผลิตยางแท่งเพื่อนบ้าน
โพสต์ทูเดย์ ผู้ส่งออกยางพาราจ่อตั้งโรงงานผลิตยางแท่งในประเทศเพื่อนบ้าน มั่นใจปี '59 ราคายางฟื้น
นายหลักชัย กิตติพล ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ส่งออกยางพาราเริ่มหันมาลงทุนในอุตสาหกรรมยางพาราปลายน้ำมากขึ้น จากเดิมเป็นเพียงผู้ส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำ เนื่องจากการปรับตัวดังกล่าวจะสามารถ เพิ่มมูลค่าสินค้าและสามารถเป็น ผู้กำหนดราคาเองได้
"สำหรับบริษัท ไทยฮั้วยางพารา มีแผนจะตั้งโรงงานผลิตยางแท่งใน สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันได้เข้าไปปลูกยางพาราอยู่แล้ว" นายหลักชัย กล่าว
ที่ผ่านมา บริษัทได้รับสัมปทานปลูกยางพาราในแขวงเวียงจันทน์ บอลิคำไซ คำม่วน สะหวันนะเขต และสาละวินใน สปป.ลาว ซึ่งได้ เริ่มปลูกยางพาราไปแล้วกว่า 5 หมื่นไร่ และเริ่มกรีดยางได้ในปีนี้ โดยบริษัทมีแผนจะเข้าไปลงทุน ตั้งโรงงานผลิตยางแท่งมูลค่า 200 ล้านบาท กำลังการผลิต 2 หมื่นตัน/ปี
ขณะที่ในกัมพูชาได้รับสัมปทานพื้นที่ปลูกยางพาราที่เมืองอันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งอยู่ห่างจากด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษของไทยเพียง 20 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ปลูก 1 แสนไร่ แต่เริ่มปลูกไปแล้ว 5 หมื่นไร่ คาดว่าจะเริ่มกรีดยางได้ในปี 2560-2561 และจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตยางแท่งในปี 2561 ขนาดกำลังการผลิต 5 หมื่นตัน/ปี มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท
ด้านในประเทศไทย บริษัทได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตยางแท่ง ที่ จ.ยโสธร กำลังผลิต 6 หมื่น ตัน/ปี ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ช่วงกลาง ปี 2559
ขณะเดียวกัน ยังมีแผนจะร่วมลงทุนกับจีน โดยล่าสุดมีนักธุรกิจจีนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ประเภท รถบรรทุกและรถสิบล้อในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จ.ระยอง กำลังการผลิต 5 ล้านเส้น/ปี โดยบริษัทจะเข้าไปร่วมถือหุ้นด้วย 20% คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปลายปีนี้
"ในเดือน ต.ค.นี้ จะเจรจากับรัฐวิสาหกิจจีนเพื่อลงทุนตั้งโรงงานผลิตยางรถเก๋ง วงเงินลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งการที่บริษัท รวมถึงนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตยางในภูมิภาคนี้มากขึ้น ก็เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)" นายหลักชัย กล่าว
นอกจากนี้ นายหลักชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ว่า จะเป็นช่วงที่ราคายางพาราต่ำที่สุดแล้ว แต่หลังจากนั้นจะเริ่มดีขึ้น โดยในช่วงปลายปีน่าจะได้เห็นราคายางแผ่นอยู่ที่ 60-65 บาท/กิโลกรัม เพราะภาพรวมเศรษฐกิจทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) จีน และญี่ปุ่น มีการใช้ยางเพิ่มขึ้น แต่ราคายางอาจไม่ได้พุ่งพรวด เนื่องจากประเมินว่าปีนี้ความต้องการยางทั่วโลกจะเพิ่ม 3.5% แต่ซัพพลายยางพาราจะเพิ่ม 5.5%
โพสต์ ทูเดย์ (Th)