ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558  (อ่าน 946 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88322
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพุธที่  7  ตุลาคม  พ.ศ. 2558
ปัจจัย


วิเคราะห์

1. สภาพภูมิอากาศ


- ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีฝนตกหนาแน่นและตกหนักบางแห่งร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนกระจายเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง

2. การใช้ยาง


- สมาคมผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์อังกฤษ (SMMT) เปิดเผยว่า ตัวเลขจดทะเบียนรถยนต์ใหม่เดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 สู่ระดับ 462,517 คัน เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 43 ติดต่อกัน

3. เศรษฐกิจโลก


- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 สู่ระดับ 4.833 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง และการขยายตัวที่ซบเซาในต่างประเทศ โดยระบุว่าการส่งออกลดลงร้อยละ 2.0 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2

- กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมันเปิดเผยคำสั่งซื้อภาคการผลิตเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในจีนและในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมัน

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้สู่ร้อยละ 3.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินปี 2552 โดยลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ร้อยละ 3.3 และต่ำกว่าการขยายตัวในปีก่อนที่ร้อยละ 3.4 ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า

    เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวร้อยละ 1.5 ในปีนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง
    เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 6.8 ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี และอยู่ที่ร้อยละ 6.3 ในปีหน้า
    เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวร้อยละ 0.6 จากเดิมที่ร้อยละ 0.8 แต่ยังดีกว่าปีก่อนที่หดตัวร้อยละ 0.1
    เศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ขยายตัวร้อยละ 4.0 ในปีนี้ ลดลงจากร้อยละ 4.2 ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม
    เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปีนี้ขึ้นสู่ระดับร้อยละ 2.6 จากเดิมที่ร้อยละ 2.5

- สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ออกคำเตือนตลาดเกิดใหม่ว่า ปีนี้จะเป็นปีแรกที่กระแสเงินทุนสุทธิไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ในรอบ 27 ปี โดยมีเม็ดเงินมากกว่า 1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐไหลออกจากบราซิล ตุรกี และแอฟริกาใต้่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มประเทศผลิตของจีนกระเตื้องขึ้นเล็กราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกพากันหลีกเลี่ยงการ

4. อัตราแลกเปลี่ยน


- เงินบาทอยู่ที่ 36.22 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.12 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ

- เงินเยนอยู่ที่ 120.31 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.14 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ

5. ราคาน้ำมัน


- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนปิดตลาดที่ 48.53 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในเดือนกันยายน พร้อมกับคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะปรับลดลงไปจนถึงช่วงกลางปี 2559 ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปิดที่ 51.92ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.67 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล

6. การเก็งกำไร


- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 164.4 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.9 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 อยู่ที่ 174.9 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.1 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ

- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 132.6 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.4 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม

7. ข่าว


- รัฐมนตรีการค้ากลุ่ม G20 เห็นพ้องกันที่จะทำการปฏิรูปในวงกว้างและด้วยความมุ่งมั่นมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าการค้ามีการขยายตัว หลังจากพบว่าการค้ามีการเติบโตต่ำกว่าเศรษฐกิจโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ทศวรรษ

8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ


- ราคายางทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อย เนื่องจากผู้ประกอบการมียางในสต๊อคพร้อมรอขาย หลังจากเก็บไว้ระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศยังคงเงียบเหงา เพราะผู้ซื้อจากจีนยังหยุดทำการ

?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ ทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ราคายางยังมีความผันผวนหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงสู่ร้อยละ 3.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินในปี 2552 และผู้ซื้อยางจากจีนยังอยู่ในช่วงหยุดยาวเนื่องในวันชาติ



ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา