ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559  (อ่าน 1249 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88358
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่  4  มกราคม  พ.ศ. 2559

ปัจจัย


วิเคราะห์

1. สภาพภูมิอากาศ


- ประเทศไทยตอนบนโดยทั่วไปมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีเมฆบางส่วนกับมีฝนตกบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทำให้โดยทั่วไปสภาพอากาศเอื้อต่อการกรีดยาง ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น

2. การใช้ยาง


- ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับระบบการจัดเก็บภาษียานยนต์ของประเทศ เนื่องจากมีการขึ้นเฉพาะภาษียานพาหนะ จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีความยากลำบากที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศภายใต้สถานการณ์จัดเก็บภาษีในปัจจุบัน โดยมีรายงานว่าประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นกล่าวว่ายอดจำหน่ายรถใหม่ในญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 11 เดือนจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2558

3. สต๊อคยาง


- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 1 มกราคม 2559 เพิ่มขึ้น 9,118 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.80 อยู่ที่ 249,307 ตัน จากระดับ 240,189 ตัน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558

- สต๊อคยางญี่ปุ่น ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2558 ลดลง 4 ตัน หรือลดลงร้อยละ 0.07 อยู่ที่ 6,109 ตัน จากระดับ 6,105 ตัน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2558

4. เศรษฐกิจโลก


- ผลการสำรวจของสำนักข่าวเกียวโต นิวส์ พบว่า เกือบร้อยละ 90 ของบริษัทญี่ปุ่นคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในปี 2559 ขณะที่หลายบริษัทคาดว่าการบริโภคของภาคเอกชนและการใช้จ่ายด้านทุนจะฟื้นตัวหลังจากที่ชะลอตัวลงในปี 2558

- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขยับขึ้นแตะระดับ 49.7 ในเดือนธันวาคม 2558 จาก 49.6 ในเดือนพฤศจิกายน 2558

- สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน และสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 54.4 จาก 53.6 ในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นสถิติการขยายตัวสูงที่สุดในปี 2558

- ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่น้อยกว่าการคาดการณ์ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้กล่าวว่าภาคการเงินในหลายประเทศยังอ่อนแอและความเสี่ยงด้านการเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังเพิ่มขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เศรษฐกิจปี 2559 มีแนวโน้มซบเซาลง

- สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐจีนเปิดเผยว่า เดือนพฤศจิกายนจีนมียอดเกินดุลการค้าและบริการที่ 3.58 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่มียอดเกินดุลที่ 4.57 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ

- มาร์กิต อิโคโนมิกส์ ร่วมกับไฉซิน เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเดือนธันวาคมลดลงสู่ระดับ 48.2 จาก 48.6 ในเดือนพฤศจิกายน บ่งชี้ว่าภาวะการดำเนินงานของกลุ่มผู้ผลิตยังคงย่ำแย่ลงในเดือนธันวาคม

5. อัตราแลกเปลี่ยน


- เงินบาทอยู่ที่ 36.16 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.07 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ

- เงินเยนอยู่ที่ 120.28 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.26 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ

6. ราคาน้ำมัน


- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ปิดตลาดที่ 37.04 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.44 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีอิหร่านสั่งเตรียมพร้อมโครงการขีปนาวุธของประเทศเพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ปิดที่ 37.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.82 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 23,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แตะ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยผลผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเมื่อเดือนเมษายน

7. การเก็งกำไร


- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 145.5 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 4.4 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนมิถุนายน 2559 อยู่ที่ 154.0 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 5.0 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ

- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 120.9 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3.9 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม

8. ข่าว


- ราคาบ้านใน 100 เมืองของจีนโดยเฉลี่ยขยายตัวขึ้นเกือบร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับรายได้เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในรอบปี 2558 โดยองค์กรวิจัยอสังหาริมทรัพย์จีนเปิดเผยว่าราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยใน 100 เมืองสำคัญของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.74 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน

9. ข้อคิดเห็นของประกอบการ


- ราคายางปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยแหล่งข่าวรายงานว่าราคายางปีนี้ยังต้องเหนื่อยกันต่อไป ถ้าหากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับนี้ และนักเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้ายังเล่นกันอยู่แบบนี้ อาจต้องรอดูความชัดเจนภายใน 1 - 2 วันนี้ และต้องให้เวลาประเทศผู้ใช้ยางโดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นประเทศใหญ่ ว่าจะวางแผนบริหารการใช้ การผลิต การซื้อในช่วงต่อไปอย่างไร อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเนื่องจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไม่ค่อยดีในปี 2559

แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว โดยมีปัจจัยลบจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ยางในภาพรวม หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ประกอบกับสต๊อคยาง ณ ตลาดเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 249,307 ตัน (วันที่ 1 มกราคม 2559) จากเดิมที่ 240,189 ตัน (วันที่ 25 ธันวาคม 2558) บ่งชี้ว่าอุปสงค์ยางจีนยังคงซบเซา ขณะที่ราคาน้ำมันยังมีความผันผวนในทิศทางที่ปรับตัวลดลง


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา