ผู้ว่าฯสั่งหน่วยงานสาธารณสุขเคาะประตูพบยังมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ กรณีกลิ่นเหม็นจากโรงงานยาง

[Rakayang.Com]

ผู้ว่าฯสั่งหน่วยงานสาธารณสุขเคาะประตูพบยังมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ กรณีกลิ่นเหม็นจากโรงงานยาง 



วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 - 19:09 น.


คลิป https://youtu.be/xmqGu998yRQ
ผวจ.อุดรธานี ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีกลิ่นเหม็นจากโรงงานยาง โดยผู้ว่าสั่งหน่วยงานสาธารณสุขเคาะประตูพบยังมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจำนวนมาก
          เมื่อวานนี้ นายสายันต์ หมีแก้ว นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สนง.สิ่งแวดล้อม ภาค 9 , นายเทียนชัย คละประสงค์ วิศวกร สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม จากศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี และ มทบ.24 ลงพื้นที่โรงงานยางแท่ง 2 โรง เพื่อติดตามการแก้ไขกลิ่นเหม็น ตามคำสั่งของนายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี โดยยังได้กลิ่นเหม็นที่ บ.จำปา ในระดับ 1-2 ส่วนรถโมบายตรวจคุณภาพอากาศ ยังจอดเก็บตัวอย่างอากาศอยู่ในหมู่บ้านเป็นวันที่ 6

         โดยโรงงานแรก กำลังผลิต 5,000 ตันต่อเดือน ทางโรงงานได้เร่งแก้ไขใน 4 ข้อ ข้อแรก ไม่มีการรับซื้อยางก้อนถ้วยเพิ่มเติม , ข้อ 2 ขนยางก้อนถ้วยที่สต็อกอยู่กว่า 12,000 ตันออกไป 5,000 ตัน , ข้อ 3 แก้ไขบ่อบำบัดน้ำเสียไร้อากาศ ที่ใช้สำหรับบำบัดน้ำเสียเข้มข้น หรือน้ำเซรั่ม ที่ไหลอกมาจากยางก้อนถ้วย ด้วยการซ่อมแซมบ่อ และเตรียมจัดการตะกอนสะสม พร้อมเก็บน้ำเสียในภาชนะไปปล่อยลงสู่บ่อบำบัด และข้อ 4 ปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ มีความคืบหน้าไปมากกว่า 50 %

         ส่วนโรงงานอีกแห่ง กำลังผลิต 10,000 ตันต่อเดือน ทางโรงงานเร่งแก้ไขใน 3 ข้อ ข้อแรก ไม่มีการรับซื้อยางก้อนถ้วยเพิ่มเติม , ข้อ 2 ขนยางก้อนถ้วยที่สต็อกอยู่กว่า 30,000 ตันออกไป 8,000 ตัน

ซึ่งต้องย้ายไปไกลถึง จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการไปแล้วกว่า 50 % และข้อ 3 ปรับปรุงวิธีกองยาง ที่เป็นกองขนาดใหญ่ 3 กอง กระจายเป็นกองย่อย ๆ ที่ยังไม่ดำเนินการ โดยทั้ง 2 โรงงาน ยืนยันจะดำเนินการเสร็จก่อนวันที่ 3 มีนาคม ตามที่ สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี กำหนด นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้ส่งรถโมบายมาเก็บตัวอย่าง

           อากาศต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.และจะเก็บไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อเก็บอากาศไปตรวจเปรียบเทียบ หากพบโรงงานใดยังมีมลพิษ จะมีคำสั่งให้แก้ไขอีกครั้ง หากยังไม่สามารถแก้ไขที่เกินกำลังได้ อาจต้องสั่งปิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่รองรับ ส่วนปัญหาสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ ได้ให้บุคลากรด้านสาธารณสุขลงพื้นที่พบประชาชนแบบเคาะประตูบ้าน เพื่อนำมา