วุฒิสมาชิกสหรัฐลงมติสกัดกั้นความพยายามของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะขายอาวุธ 22 รายการให้กับประเทศอาหรับ 3 แห่งโดยไม่ผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส |
วุฒิสภาลงมติด้วยคะแนนเสียง 53 ต่อ 45 เสียงเพื่อสกัดการขายอาวุธ 2 รายการ และต่อมาได้ลงมติ 51 ต่อ 45 เสียงเพื่อสกัดกั้นการขายอาวุธที่เหลือ 20 รายการ โดยได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายราย |
การลงมติซึ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า สมาชิกรัฐสภาเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคณะบริหารของปธน.ทรัมป์เมื่อเดือนที่แล้วที่หลีกเลี่ยงกระบวนการทบทวนของสภาคองเกรส เพื่อที่จะขายอาวุธมูลค่า 8.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และ จอร์แดน |
สภาคองเกรสของสหรัฐได้ระงับการขายอาวุธให้กับซาอุดีอาระเบียและ UAE โดยระบุถึงวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในความขัดแย้งของเยเมน และการฆาตรกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย |
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว คณะบริหารของปธน.ทรัมป์ประกาศว่า จะใช้มาตรการฉุกเฉินของกฎหมายควบคุมการส่งออกอาวุธเพื่อทำการขายอาวุธ 22 รายการให้กับ 3 ประเทศอาหรับเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามของอิหร่าน |
นายโรเบิร์ต มีเนนเดซ วุฒิสมาชิกของพรรคเดโมแครตซึ่งสนับสนุนมติสกัดกั้นการขายอาวุธระบุว่า ความเป็นหุ้นส่วนเหล่านี้ไม่ได้เป็นการไฟเขียวสำหรับการขายอาวุธ และไม่ได้เป็นการสนับสนุนโดยตรงสำหรับการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาคนั้น |
สื่อสหรัฐรายงานว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก็ได้ยืนยันที่จะลงมติขัดขวางการขายอาวุธด้วยเช่นกัน |
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งสองสภาอาจจะไม่ได้คะแนนเสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 ที่จำเป็นต่อการล้มล้างมาตรการวีโต้จากคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ โดยสื่อสหรัฐรายงานว่า ทำเนียบขาวได้วางแผนที่จะวีโต้ความพยายามของสภาคองเกรสที่จะขัดขวางการขายอาวุธ |