ชาวสวนยาง โวย...!!! กยท.ไม่รักษาสิทธิประโยชน์ให้ชาวสวนยางโครงการประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้กับเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.
ตาม ม.49(5) เรื่องการจัดสวัสดิการให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง
ที่ดำเนินการโดย กยท.(การยางแห่งประเทศไทย)
ได้ดำเนินการมาเป็นรอบปีที่ 2
(15 สิงหาคม 2562-15 สิงหาคม 2563)ยังคงเป็นบริษัทไทยไพบูลย์ประกันภัยจำกัด(มหาชน) เช่นเดิม
หลังจากที่ในรอบปีก่อน
(15 สิงหาคม 2561-15 สิงหาคม 2562)
ก็เป็นบริษัทเดียวกันนี้ ที่ชนะการประมูลแข่งขันการประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับชาวสวนยาง โดยเสนอราคาต่ำสุดในวงเงินประกันที่ประมาณ 89 บาท/ราย
โดยจ่ายสินไหมทดแทนที่ 5 แสนบาท/ราย กรณีอุบัติเหตุเสียชีวิตโดยรถยนต์
2.5 แสนบาท/ราย กรณีเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุด้วยรถจักรยานยนต์
และจ่ายเงินค่าทำศพให้กับชาวสวนยางรายละ 3 หมื่นบาท ในการเสียชีวิตทุกกรณี
ตามรายละเอียด...**แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์**การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
ได้จัดทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม
เพื่อเป็นสวัสดิการของเกษตรกรชาวสวนยาง
(ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง บัตรสีเขียว)
กับบริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)"การประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม TPB"
เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ก่อนวันที่ 31 ก.ค. 61 ทุกท่าน
จะได้รับสิทธิในประกันกลุ่ม
ระยะเวลาประกันภัย
ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค 61เวลา 16.30 น.
ถึง 15 ส.ค 62 16.30 น. ขอให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กทย. (บัตรสีเขียว) ทุกราย
แจ้งรายชื่อบุคคลที่เกษตรกรชาวสวนยางประสงค์จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ (ตามเอกสารแนบ)
พร้อมกับหลักฐานสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ของผู้รับผลประโยชน์
**ทั้งนี้
ผู้รับผลประโยชน์ต้องเป็นบุตร สามี ภรรยา บิดา มารดา พี่ น้อง??ถ้าเป็นบุคคลอื่นต้องมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตระหว่างผู้เอาประกันภัยกับผู้รับผลประโยชน์ เท่านั้น
?? สามารถยื่นแบบแจ้งผู้รับผลประโยชน์
ณ การยางแห่งประเทศไทย ในจังหวัดของท่าน
ได้ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ในวันและเวลาราชการ
.
https://m.facebook.com/groups/192795780878396?view=permalink&id=1187762661381698กยท. (การยางแห่งประเทศไทย)
พิจารณาตกลงสนองรับราคาอัตราค่าเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มพร้อมเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ
เพื่อเป็นสวัสดิการของเกษตรกรชาวสวนยาง จำนวน 1,361,398 ราย (หนึ่งล้านสามแสนหกหมื่นหนึ่งพันสามร้อยเก้าสิบแปดราย)
กับ บริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 89 บาท/คน/ปี
รวมเป็นเงินค่าเบี้ยประกันทั้งสิ้น 121,164,422 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหกหมื่นสี่พันสี่ร้อยยี่สิบสองบาทถ้วน)ให้มีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2561
เวลา 16.30 น.
ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2562
เวลา 16.30 น.ต่อเนื่องด้วยปีที่ 2
(15 สิงหาคม 2562-15 สิงหาคม 2563)ประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องเกษตรกรขาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)ด้วย กยท. ได้จัดทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.??ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2562??ถ้าเกิดกรณีเสียชีวิต ให้ติดต่อมาที่ กยท. สาขาที่ขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อยื่นเอกสารขอรับทุนประกัน ?สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กยท.จ.สงขลา
เบอร์ติดต่อ 074-439051 ในวันเวลาราชการ
Cr.กยท.จ.ขอนแก่นhttps://www.thansettakij.com/content/406467กดปุ่มเปิดชิงเค้กประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มชาวสวนยาง 1.3 ล้านราย
เผยสเปคบริษัทต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจวินาศภัย ไม่เคยทำความเสียหายให้ กยท.ต้องมีความน่าเชื่อถือ เล็งประโยชน์สูงสุด
ชี้เกษตรกรที่จะได้รับความคุ้มครองจะต้องมาขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้
ส่วนบริษัทไหนจะได้ลุ้น 13 ส.ค.นี้นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล
รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านบริหาร
เผยกับ ?ฐานเศรษฐกิจ? ว่า
ในแต่ละปี กยท. จะจัดสรรงบประมาณ 49 (5) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง
ตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558
จัดทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม TPB
โดย บริษัท ไทยไพบูลย์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกตามเงื่อนไขที่กำหนดโดย กยท.
ดำเนินการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยแบบกลุ่มจะสิ้นสุดความคุ้มครองในวันที่ 15 สิงหาคม นี้
ดังนั้นเพื่อดำเนินความคุ้มครองให้กับชาวสวนยางอย่างต่อเนื่อง
จึงต้องประกาศเสนอราคาประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มเพื่อเป็นสวัสดิการของเกษตรกรชาวสวนยางทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้เสนอราคาจะต้องเป็นนิติบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย
ซึ่งออกให้โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ต้องไม่เป็นนิติบคคุล หรือกรรมการในนิติบุคคลตามข้อ 1.1 ซึ่งเป็นผู้ทำความเสียหายให้กับการยางแห่งประเทศไทย
หรือถูกการยางแห่งประเทศไทยดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญาเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว
และบริษัทต้องมีความมั่นคงเป็นที่น่าเชื่อถือนายสุนันท์ กล่าวว่า
ความคุ้มครองของการประกันภัย
สำหรับชาวสวนยางที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ กยท.ภายในวันที่ 15 ก.ค.2562
โดยคุ้มครองช่วงอายุ
1. เกษตรกรชาวสวนยาง อายุน้อยกว่า 40 ปี จำนวน 2.46 แสนราย
2. อายุระหว่าง 41-60 ปี จำนวน 7.38 แสนราย
และ 3. อายุมากกว่า 61-70 ปี จำนวน 2.65 แสนราย
และอายุมากกว่า 70 ปี จำนวน 1.82 แสนราย
ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับความสูญเสียหรือบาดเจ็บ
อันมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจากปัจจัยภายนอกร่างกาย และมีผลทำให้เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิง
ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี
ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2562 เวลา 16.30 น.
ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2563 เวลา 16.30 น.
กำหนดการยื่นซองเอกสารหลักฐาน
ณ ห้องประชุมสถลสถานพิทักษ์
อาคาร 1 ชั้น 6 การยางแห่งประเทศไทย
ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น.-12.00 น.
กำหนดเปิดซองเสนอราคาในวันที่ 13 สิงหาคม เวลา 13.00 น.เป็นต้นไปดังนั้น บริษัทไหนสนใจก็สามารถมายื่นเสนอซองได้ เปิดกว้างมาก
เพื่อให้ชาวสวนได้รับประโยชน์สูงสุด เบี้ยจ่ายต่ำสุดhttps://www.thansettakij.com/content/407487?ไทยไพบูลย์ ประกันภัย?
คว้าดีลขายประกันสวนยาง 1.4 ล้านราย17 Aug 20191.4 ล้านราย เฮ...!!!
กยท.แจกประกันสวนยาง
ตาย พิการ จ่าย 5 แสน
เผย ?ไทยไพบูลย์ ประกันภัย? คว้าดีลเป็นปีที่ 2
?ณกรณ์? ระบุปีนี้จ่ายเพิ่มคนละ 158 บาท
หลังปีที่แล้วบริษัทประกันจ่ายค่าเคลมกว่า 250 ล้าน
คุ้มครองแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไปเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
ได้คัดเลือกบริษัทประกันภัย เพื่อจัดทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มเพื่อเป็นสวัสดิการของเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ กยท.
ภายในวันที่ 15 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา
รวมทั้งสิ้น 1.4 แสนราย
กำหนดการยื่นซองเอกสาร และเปิดซอง ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ที่ผ่านมานายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการ กยท. ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิต
เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า
ในวันที่ยื่นซองเสนอราคามีบริษัทเข้ามายื่น 6 ราย
แต่ผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุดก็คือ บริษัท ไทยไพบูลย์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกตามเงื่อนไขที่กำหนดโดย กยท.
นับว่าเป็นปีที่ 2 จะให้ความคุ้มครองแก่เกษตรกรชาวสวนยางเกษตรชาวสวนยางของ กยท. ที่ขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2562
โดยให้ความคุ้มครองสำหรับความสูญเสียหรือบาดเจ็บอันมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุปัจจัยภายนอกร่างกาย
ส่งผลทำให้เสียชีวิตสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิง
และให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งบัตรเขียวและบัตรสีชมพู?เป็นไปตามระเบียบการจัดสรรงบประมาณ 49 (5)
ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง
ตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558
จำนวน 1.4 ล้านราย
มีการคุ้มครองสำหรับความสูญเสียหรือบาดเจ็บอันมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจากปัจจัยภายนอกร่างกาย และมีผลทำให้เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิง
บริษัทประกันจะจ่าย 5 แสนบาท หรือกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งขับขี่ หรือโดยสารรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์
จะจ่าย 2.5 แสนบาท และค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ 3 หมื่นบาท
สำหรับการคุ้มครองช่วงอายุ
1. เกษตรกรชาวสวนยาง อายุน้อยกว่า 40 ปี จำนวน 2.46 แสนราย
2. อายุระหว่าง 41-60 ปี จำนวน 7.38 แสนราย
และ 3. อายุมากกว่า 61-70 ปี จำนวน 2.65 แสนราย
และอายุมากกว่า 70 ปี จำนวน 1.82 แสนราย
ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับความสูญเสียหรือบาดเจ็บอันมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจากปัจจัยภายนอกร่างกาย และมีผลทำให้เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิง
ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี
ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2562 เวลา 16.30 น.ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2563 เวลา 16.30 น.นายณกรณ์ กล่าวอีกว่า
ปีนี้ของเกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มจากปีที่แล้ว คนละ 158 บาท รวมแล้ว 226 ล้านบาท
ขณะที่ปีที่แล้วจ่ายอยู่ที่คนละ 85 บาท
ประมาณ 123 ล้านบาท/ปี
แต่สมาชิกชาวสวนมีการเคลมประกันกว่า 250 ล้านบาท
จึงเป็นเหตุให้ทางบริษัทเก็บค่าเบี้ยประกันเพิ่ม
นี่สมมติฐานเอาเอง
เนื่องจากปีแรกไม่มีฐานในการเคลม
แต่ปีนี้มีฐานคิดคำนวณแล้ว
?ในส่วนนี้ ทางการยางฯ ก็พยายาม
โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ราคายางไม่ค่อยจะดีนัก มาตรการต่างๆ ที่ทำในเรื่องของการช่วยเหลือการสนับสนุนความเป็นอยู่ของสถาบันเกษตรกร
ทางการยางฯ ได้พยายามนำเงินจากกองทุนพัฒนายางที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุดในทุกรูปแบบ
ทั้งเรื่องสวัสดิการและเรื่องการประกันภัย
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มองว่าสร้างความมั่นคงให้กับชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกร?หมายเหตุ....
...แต่ปัญหาที่เป็นอยู่คือ___
1. การรับเงินประกันตามสัญญาของ กยท.กับบริษัทรับประกัน ได้รับช้ามากๆ
ชาวสวนยางบางราย เสียชีวิตตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562
จนถึงตอนนี้ (พฤศจิกายน 2562)
ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าจัดการศพ(3 หมื่นบาท) เลย
ทั้งๆที่ระยะรับประกันตามสัญญาได้สิ้นสุดไปแล้ว
(15 สิงหาคม 2562)
เรื่องนี้ กยท.ต้องติดตามและชี้แจงกับชาวสวนยาง ให้ชัดเจน
2. เป็นเรื่องที่กังขาและคาใจชาวสวนยางทั้งประเทศ
คือการซื้อประกันทั่วไปจะมีค่าคอมมิชชั่นหรือเงินทอน
ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ทราบว่าทาง กยท.ได้ดำเนินการอย่างไร
และเคยได้มีการเสนอว่าให้นำเงินส่วนนี้จากใต้โต้ะ ให้เอาขึ้นมาวางบนโต้ะเสียอย่างเปิดเผย
ซึ่งในการดำเนินการในรอบปีที่ 2
#ไม่ทราบว่าทาง กยท.ได้ปฏิบัติตามนี้หรือเปล่า ...
https://www.facebook.com/401264240245108/posts/940996086271918/อ้างอิงจาก เพจชมรมชาวสวนยางพัทลุง 
