ผู้เขียน หัวข้อ: รีพับลิกันแตกคอ! สภาสูงแก้ร่างกม.ภาษีทรัมป์ สวนทางสภาล่าง  (อ่าน 94 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88033
    • ดูรายละเอียด


รีพับลิกันแตกคอ! สภาสูงแก้ร่างกม.ภาษีทรัมป์ สวนทางสภาล่าง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday June 17, 2025 15:31 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การเมืองสหรัฐฯ กำลังร้อนระอุ เมื่อร่างกฎหมายลดภาษีฉบับเรือธงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลายเป็นสมรภูมิที่พรรครีพับลิกันต้องรบกันเอง หลังจากวุฒิสภาได้เสนอแก้กฎหมายในทิศทางที่สวนทางกับสภาผู้แทนราษฎร สร้างรอยร้าวภายในพรรคและอาจทำให้เป้าหมายการผ่านกฎหมายก่อนเส้นตายที่ตั้งไว้เองในวันที่ 4 ก.ค.นี้ต้องสั่นคลอน

ชนวนความขัดแย้งสำคัญอยู่ที่การปรับแก้รายละเอียดหลายประการ โดยเฉพาะการที่วุฒิสภาเสนอกดเพดานการลดหย่อนภาษีท้องถิ่นลงมาเหลือเพียง 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าฉบับของสภาล่างที่เคยอนุมัติไว้ที่ 40,000 ดอลลาร์อย่างมาก ประเด็นนี้สร้างความไม่พอใจให้สส.รีพับลิกันทันที เพราะกระทบฐานเสียงของตัวเอง นอกจากนี้ วุฒิสภายังจำกัดวงการลดหย่อนภาษีสำหรับเงินทิปและค่าล่วงเวลาให้แคบลง สวนทางกับฉบับของสภาล่างที่อนุญาตให้หักลดหย่อนรายได้จากทิปสำหรับผู้มีรายได้สูงถึง 160,000 ดอลลาร์ต่อปี

ความขัดแย้งไม่ได้มีแค่ระหว่างรีพับลิกันในสองสภา แต่ภายในวุฒิสภาเองก็มีเสียงที่แตกออกเป็นสองค่ายใหญ่ ค่ายแรกคือกลุ่มรัดเข็มขัด นำโดยสว. รอน จอห์นสัน ที่มองว่าร่างกฎหมายนี้ยังไม่จริงจังพอที่จะแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศ ขณะที่อีกค่ายคือกลุ่มปกป้องสวัสดิการสังคม ซึ่งกังวลต่อแผนการจำกัดเพดานภาษีในระบบประกันสุขภาพเมดิเคด (Medicaid) ซึ่งสว. จอช ฮอว์ลีย์ เตือนว่า "นี่คือระบบใหม่ที่จะตัดงบโรงพยาบาลในชนบทอย่างสิ้นเชิง"

สถานการณ์นี้เปรียบเหมือนการเดินบนเส้นด้ายของพรรครีพับลิกันที่มีเสียงข้างมากปริ่มน้ำในทั้งสองสภา และไม่สามารถเสียเสียงโหวตจากฝ่ายเดียวกันได้มากนัก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันมหาศาล เพราะร่างกฎหมายนี้ยังพ่วงการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะอีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งหากไม่ผ่านสภาภายในฤดูร้อนนี้ สหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์

"มันยังอยู่ในขั้นตอนการทำงาน" สว. จอห์น โฮเวน จากรัฐนอร์ทดาโคตากล่าว "ผู้คนยังคงเสนอแนวคิดเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ในแต่ละครั้ง มันจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นและพาเราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น... มันยังจะมีการเปลี่ยนแปลงอีก"