ผู้เขียน หัวข้อ: คาดหมายอากาศทั่วไป วันที่ 14 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568  (อ่าน 199 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 90163
    • ดูรายละเอียด
คาดหมายอากาศทั่วไป วันที่ 14 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

อาจเป็นรูปภาพของ แผนที่ และ ข้อความพูดว่า "Himawari Himawari1R14/11/20250500 IR R 4/11 R14/11/202505:00UTC 1/ 2025 050 1247"
ในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนและห่างฝั่งบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดกับมีลมกระโชกแรงขึ้นในระยะแรก และหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงอีก โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลงอีก 4 - 7 องศาเซลเซียสและภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นอีก โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง กับมีลมแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
ในช่วงวันที่ 16 ? 18 พ.ย. ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 17 ? 20 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง

                    สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทย และห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ในช่วงวันที่ 18 ? 20 พ.ย.
ออกประกาศ 14 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 14 ? 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 14 - 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 ? 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 20 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ? 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 ? 18 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 15 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 ? 32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 ? 35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 4 ? 7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ? 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 16 ? 17 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 40 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 14 ? 15 เมฆบางส่วน และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ? 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 2 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 19 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 32 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 14 ? 15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมแปรปรวน  ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ? 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในช่วงวันที่ 17 ? 19 พ.ย.
โดยในช่วงวันที่ 16 - 17 พ.ย.
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
โดยในช่วงวันที่ 18 - 20 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 14 ? 17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดตรังลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ? 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 14 ? 15 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 - 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ออกประกาศ 14 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2025, 03:53:06 PM โดย Rakayang.Com »