สกู๊ปพิเศษ เตาอบรมควันยางพาราประหยัดพลังงาน นวัตกรรมการผลิตยางสหกรณ์(11/04/2557)
ปัจจุบัน ปัญหาของการผลิตยางแผ่นรมควันในจังหวัดตรัง คือการแห้งของแผ่นยางที่ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากความร้อนที่เข้าสู่ห้องอบกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ร้อนมากเป็นจุด ๆ ทำให้ยางแผ่นรมควันที่ได้มีคุณภาพต่ำ และใช้เวลานานในการอบยางแต่ละครั้งทำให้สูญเสียไม้ฟืนที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง จำนวนมาก อีกทั้งปัจจุบันราคาไม้ฟืนมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ร่วมกับมหาวิทยาเทคโนโลยีมหานคร ได้ดำเนินการจัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปน้ำยางพารา (การสร้างเตาอบรมควันแบบประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม) เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทั้งพลังงานและระยะเวลาในการอบ รวมถึงเพิ่มคุณภาพยาง มั่นใจในความปลอดภัย จะช่วยเพิ่มรายได้และโอกาสการแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น
เตาอบรมควันยางพาราประหยัดพลังงาน เป็นเตาที่มีประสิทธิภาพสูงควบคุมอุณหภูมิในห้องอบยางได้ดี ทำให้ผลิตยางแผ่นรมควันที่มีคุณภาพสูงขึ้น ในเวลาที่สั้นลง เตาอบรมควันยางพาราแบบประหยัดพลังงาน เป็นเตาอบแบบที่เวียนอากาศภายในห้องอบกลับมาใช้ใหม่ได้ หลังการอบแห้งผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน โดยติดตั้งชุดดักสะเก็ดไฟที่อาจหลุดลอย เข้าสู่ห้องอบ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ ติดตั้งชุดวัดอุณหภูมิของลมร้อนที่เข้าห้องอบให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถควบคุม อุณหภูมิลมร้อนไม่ให้สูงเกินไป ทำให้มั่นใจได้ว่า อุณหภูมิในห้องอบสม่ำเสมอและไม่สูงเกินไปจนเป็นผลเสียต่อคุณภาพของยางแผ่น
ในปี พ.ศ.2556/2557 จังหวัดตรัง ได้สนับสนุนงบประมาณ งบพัฒนาจังหวัดตรัง ตามโครงการเพิ่มมูลค่าผลผลิตยางพารา กิจกรรม: เพิ่มศักยภาพการแปรรูปน้ำยางพารา (การสร้างเตาอบรมควันยางพาราแบบประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม) ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 มีสหกรณ์กองทุนสวนยาง เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์กองทุนสวนยางหนองครก จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านกาละเส จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองบ่อพัฒนา สหกรณ์กองทุนสวนยางคลองปาง จำกัด และสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านบางดี จำกัด ได้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 กำลังดำเนินการรับสมัคร สหกรณ์ที่ผลิตยางแผ่นรมควันที่มีความสนใจในการเพิ่มศักยภาพการผลิตโดยใช้เตา อบยางแผ่นรมควันแบบประหยัด อีกจำนวน 5 สหกรณ์
นายมนัส หมวดเมือง ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางหนองครก จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างเตาอบรมควันยางพาราแบบประหยัด พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 กล่าวว่า เตาอบรมควันยางพาราประหยัดพลังงาน จะช่วยให้สมาชิกสหกรณ์ชาวสวนยาง ได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะเดิมการอบยางจะต้องใช้เวลา 4 วัน บางแห่งมีเตาอบเพียง 3-4 ห้อง ต้องหมุนเวียนการอบยาง ดังนั้น หากน้ำยางมีมากเกินไป สมาชิกสหกรณ์ชาวสวนยางต้องนำน้ำยางที่เหลือไปขายเป็นน้ำยางดิบจะได้ราคาต่ำ เพราะถูกหักเรื่องความชื้นหรือเปอร์เซ็นต์ยาง แต่หลังจากมีเตาอบยางแบบประหยัด พบว่า สามารถลดระยะการอบให้เหลือเพียง 2 วันครึ่ง ทำให้รอบของการอบยางสั้นลง ชาวสวนยางสามารถเพิ่มกำลังการผลิตหรือการอบยางได้มากกว่าเดิม ลดปริมาณการขายน้ำยางดิบลงและยังประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 40 %
สำหรับ เตาอบยางแผ่นรมควันรุ่นใหม่ สามารถควบคุมและถ่ายเทความร้อนจากเตา ผ่านบานเปิด-ปิดท่อส่งความร้อนระหว่างเตากับห้องรมยาง ความร้อนจึงสม่ำเสมอกว่าทำให้ได้ยางแผ่นรมควันคุณภาพดีขึ้น สีสม่ำเสมอ อีกทั้งผลผลิตยางแผ่นรมควันยังเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ในปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้เท่าเดิม จึงช่วยลดต้นทุนการผลิต และแก้ไขปัญหาให้สหกรณ์กองทุนส่วนยางอีกหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยในการใช้เตา เพราะมีระบบป้องกันเพลิงไหม้ประหยัดเชื้อเพลิง อีกทั้งย่นระยะเวลาในการรมยาง สหกรณ์ฯ จึงสามารถเปิดรับสมาชิกได้มากขึ้น
ที่มา: สยามรัฐ(วันที่ 11 เมย.57)
