วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพุธที่  28  พฤษภาคม  พ.ศ. 2557

[/size]ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ [/size]1. สภาพภูมิอากาศ [/size]- ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและด้านตะวันตกของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนตกร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง [/size]2. การใช้ยาง [/size]- ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมยางพาราอินเดียเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการยกเลิกเก็บเงิน CESS ในการนำเข้ายางพารา เนื่องจากอินเดียจำเป็นต้องนำเข้ายางพาราจากต่างประเทศทุกปี เพราะผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ โดยปี 2556/2557 (ปัจจุบัน) อินเดียขาดแคลนยางพาราสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ถึง 133,400 ตัน- บริษัทโตโยต้า มอร์เตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์สะสมช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 มียอดจำหน่ายรวม 297,431 คัน ลดลงร้อยละ 43.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มทรงตัว แม้ว่าสถิติดัชนีการจำหน่ายตามฤดูกาลชี้ว่าตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคมจะมียอดจำหน่ายเป็นลำดับที่ 2 ของไตรมาส 2 แต่สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และสถานการณ์การเมืองที่เข้มข้นอาจส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อผู้บริโภค และนักลงทุนที่อาจมีผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ [/size]3. เศรษฐกิจโลก [/size]- มาร์กิต ผู้ให้บริการข้อมูลการเงินสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 58.4 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2555- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเป็นมาตราวัดแผนการใช้จ่ายต้นทุนของภาคธุรกิจ เดือนเมษายนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดสั่งซื้อสินค้าด้านกลาโหม- ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ต่อนโยบายด้านเงินตราของธนาคารกลางจีน- คอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองด้านบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้านตลาดแรงงานปรับตัวขึ้นสู่ 83.0 จุด จาก 81.7 จุดในเดือนเมษายน สอดคล้องกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 83.0 จุด- ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าว่า ECB รับรู้ถึงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำในกลุ่มประเทศยูโรโซน แต่ปฏิเสธที่จะระบุให้ชัดเจนว่าธนาคารจะดำเนินมาตรการใดเพื่อจัดการรับมือกับเรื่องดังกล่าว โดยอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 1.0 มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ขณะที่ ECB กำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ร้อยละ 2.0 ดังนั้นภาวะเงินเฟ้อต่ำจึงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เนื่องจากทำให้การลดหนี้สินเป็นเรื่องยากมากขึ้น [/size]4. อัตราแลกเปลี่ยน [/size]- เงินบาทอยู่ที่ 32.64 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.07 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 101.91 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.02 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ [/size]5. ราคาน้ำมัน [/size]- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดตลาดที่ 104.11 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.24 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าสต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น และนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน [/size]6. การเก็งกำไร [/size]- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 194.7 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 0.5 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 205.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.2 เยนต่อกิโลกรัม- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 210.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.1 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม [/size]7. ข่าว [/size]- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ และเคส ซิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองของสหรัฐฯ เดือนมีนาคาปรับตัวขึ้นร้อยละ 12.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอตัวลงจากร้อยละ 12.9 ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน ชี้ให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มอ่อนแอในช่วงต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบเป็นรายเดือนปรับตัวขึ้นร้อยละ 0. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน [/size]8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ [/size]- ราคายางทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงแคบ ๆ เพราะยังมีแรงสนับสนุนที่เป็นปัจจัยเดิม ๆ เกี่ยวกับผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อย โดยผู้ประกอบการกล่าวว่า ราคายางยังคงสูงขึ้นต่อไปได้ในระยะนี้จนกว่าต้นยางได้รับน้ำฝนเต็มที่ และให้ผลผลิตเข้าสู่ภาวะปกติ แม้ว่าราคายางต่างประเทศจะไม่เคลื่อนไหว ดังนั้น ราคายางที่ซื้อขาย ณ ตลาดกลางสูงกว่าความเป็นจึงถึงกิโลกรัมละ 2 - 3 บาท [/size]แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงแคบ ๆ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานด้านผลผลิตที่ออกสู่ตลาดไม่เต็มที่ และการระบายยางในสต๊อคของรัฐบาลต้องชะลอไว้ก่อน ประกอบกับมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ และกรณีข่าวที่จีนมีนโยบายจะลดปริมาณรถเก่าเพื่อลดปัญหามลพิษ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคายางในตลาดล่วงหน้าโตเกียวค่อนข้างผันผวนในทิศทางที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อ และรอดูสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นแรงกดดันราคายางได้ในระดับหนึ่ง                                   คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง  สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา [/size] [/size]

[/td][/tr][/table]