วางเครือข่ายลุยรับเออีซี โยโกฮามาลั่นกลองรบรุกตลาดยางเดือด
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ 16 ก.ค. 2557 06:01
ศึกตลาดยางรถระอุเดือด โยโกฮามาเปิดเกมรุกรับศึกช่วงไฮซีซั่น เร่งขยายเครือข่ายเพิ่มอีก 30 แห่งภายในสิ้นปีนี้ พร้อมปลุกตลาดยางรถขนาดใหญ่รองรับเออีซี
นายซาโตชิ ฟูจิตสึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดยางรถยนต์โยโกฮามาช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) ทำยอดจำหน่ายได้กว่า 147,000 เส้น หรือลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองตลอด 5 เดือนแรกของปี 2557 แต่เมื่อย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของไตรมาสที่สอง คือ เดือน มิ.ย. ภาวะกดดันทางการตลาดด้านต่างๆ เริ่มผ่อนคลายและเห็นแนวโน้มที่สดใส หลังจากสถานการณ์การเมืองสงบนิ่ง ส่งผลให้โยโกฮามาเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเข้มมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายเครือข่ายร้านค้าผู้แทนจำหน่ายตามที่ได้วางแผนไว้
?ปัจจุบันมีดีลเลอร์หรือร้านค้าผู้แทนจำหน่ายทั้งสิ้น 323 แห่ง แบ่งเป็นดีลเลอร์ 214 ร้านค้า โมเดิร์นเทรด 109 แห่ง ในจำนวนนี้ได้ร่วมเครือข่ายโยโกฮามา หรือวายซีเอ็น (YOKOHAMA CLUB NETWORK) 23 แห่งแล้ว และภายในสิ้นปีนี้จะเปิดวายซีเอ็นอีก 13 แห่ง อีกทั้งจะเปิดดีลเลอร์ใหม่เพิ่มอีก 30 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้โยโกฮามามีเครือข่ายร้านค้ารวมกันทั้งสิ้น 366 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยได้โฟกัสพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้เป็นหลัก เนื่องจากภาคกลางและกรุงเทพฯ มีเครือข่ายครอบคลุมการให้บริการลูกค้าแล้ว?
นายฟูจิตสึกล่าวว่า สำหรับนโยบายและแผนธุรกิจในปีนี้ โยโกฮามาเน้นย้ำให้เครือข่ายร้านค้าผู้แทนจำหน่ายมุ่งนำเสนอยางรถยนต์ในกลุ่ม ADVAN รุ่นต่างๆ รวมทั้งยางรุ่นใหม่ล่าสุด ?บลูเอิร์ธ-เอส? ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นตอบสนองการใช้ขับขี่รถยนต์ในช่วงฤดูฝน รวมทั้งยางรถยนต์เพื่อรถยนต์อเนกประสงค์ ?จีโอแลนด้า? ทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์การผลักดันผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างสูงสุดในทุกๆ ด้าน ซึ่งสอดคล้องกับแผนธุรกิจบริษัท เพื่อรองรับการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ขณะเดียวกันโยโกฮาม่ายังเห็นว่าเมื่อเกิดเออีซีนั้น ประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญมาก เนื่องจากมีความพร้อมรอบด้านและเป็นศูนย์กลางสำคัญในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะโลจิสติกส์ภาคการขนส่งและกระจายสินค้า รวมถึงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในแผนการรุกตลาดยางรถยนต์ขนาดใหญ่ที่จะขับเคลื่อนต่อไป
?เออีซีจะทำให้ตลาดยางรถบรรทุกและรถบัสโดยสารของโยโกฮามาขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบัน บริษัทมีผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จำหน่ายในตลาดด้วยกัน 3 รุ่น คือ ยางรุ่น 104ZR รองรับกลุ่มรถขนาดใหญ่ที่วิ่งใช้งานไม่ไกลมากระยะทาง 300 กม.ต่อรอบการวิ่งใช้งาน, ยางรถบัสโดยสารรุ่น 107ZL รองรับรถขนาดใหญ่ที่มีรอบการวิ่งใช้งานทางไกลเกินกว่า 300 กม.ขึ้นไป รวมถึงยางในตลาด (โออีเอ็ม) ที่ติดมากับรถบรรทุก ขณะที่ยางในตลาดโออีเอ็มที่ป้อนผลิตภัณฑ์ให้กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ถือเป็นตลาดใหม่ที่โยโกฮามาเพิ่งบุกเบิกมาได้ไม่นาน แต่มั่นใจว่าตลาดยางโออีเอ็มจะมีสัดส่วนทางการตลาดเพิ่มขึ้น
นายฟูจิตสึกล่าวถึงสภาวะตลาดยางรถยนต์เมืองไทยช่วงครึ่งปีหลังว่า จะเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรง เนื่องจากปัจจัยลบทางการตลาดเริ่มผ่อนคลาย ประกอบกับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี (ต.ค.-ธ.ค.) เป็นช่วงแห่งการขายหรือไฮซีซั่น ทุกค่ายยางรถยนต์เริ่มส่งสัญญาณการผลักดันกลยุทธ์ส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ สำหรับโยโกฮามามีแผนจะนำยางบลูเอิร์ธ-เอส ขนาด 18 นิ้ว มาวางจำหน่าย ขณะเดียวกันได้เตรียมเพิ่มงบประมาณการกระตุ้นตลาดและส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น แต่จะไม่นำมาใช้เพื่อผลักดันกลยุทธ์การลดราคาอย่างแน่นอน จะเป็นเพิ่มงบตามความเหมาะสมกับสภาวะการแข่งขันของตลาดที่จะทวีความรุนแรงในช่วงไฮซีซั่น ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าวนี้ ทำให้มั่นใจว่าโยโกฮามาจะบรรลุยอดขาย 360,000 เส้นตามที่ตั้งเป้าไว้ แม้จะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายก็ตาม.