ธ.ก.ส.คาดเศรษฐกิจการเกษตรไทยครึ่งปีหลัง ขยายตัว 2.6-3.2% สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -24 ก.ค. 57 8:51: น.
นางกัญจน์นิกข์ กำเนิดเพ็ชร์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2557คาดว่าขยายตัว 2.5-3.5% เป็นการปรับตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก อันเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ ทั้งนี้เป็นผลจากความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมือง การเร่งรัดจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว ปี 2556/2557ช่วยให้ชาวนามีรายได้ใช้จ่ายลงทุนทางการเกษตรและการบริโภค เมื่อภาครัฐเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557และการอนุมัติงบประมาณปี 2558จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 1.6-2.4%ต่อปี
ส่วนเศรษฐกิจการเกษตรไทยครึ่งหลังปี 2557มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 2.6-3.2เนื่องจากการขยายตัวของผลผลิตพืชสำคัญมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง คาดว่าราคาอยู่ที่ 2.15 -2.25บาท/กิโลกรัม เพราะจีนต้องการรับซื้อไปผลิตเอทานอล แต่ยังมีมันสำปะหลังจากกัมพูชาไหลเข้ามา ทำให้ราคาไม่ปรับสูงมาก ส่วนอ้อย คาดว่ามีราคา 12.20-13.00บาท/กิโลกรัม เนื่องจากบราซิลและอินเดีย ประเทศผู้ปลูกอ้อยรายใหญ่ของโลกประสบปัญหาภัยแล้ง ไก่สดแช่แข็ง ราคา 42.80-44.00บาท/โลกกรัม มีความต้องการจากตลาดโลกสูงต่อเนื่อง เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่เข้มงวดเรื่องคุณภาพยังนำเข้าจากไทย ทำให้ต่างประเทศเชื่อมั่นการผลิตไก่สดแช่แข็งจากไทย สุกรหน้าฟาร์ม แนวโน้มราคา 69-72บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.6-1.7%เพราะผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และยังมีความเสี่ยงจากโรคปากเท้าเปื่อย โรคท้องร่วง
ส่วนราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่าราคาประมาณ 6.30-7.80บาท/กิโลกรัม ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.67%เพราะผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และโรงงานอาหารสัตว์เริ่มนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา ส่วนยางพารา คาดว่าปี 2557มีปริมาณ 3.95ล้านตัน สูงกว่าปีก่อนที่มีจำนวน 3.78ล้านตัน ราคายังสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และยังแพงกว่ายางสังเคราะห์ นอกจากนี้ ประสิทธิภาพการกรีดยางลดลงจากการปลูกในพื้นที่ไม่เหมาะสม แนวโน้มราคา 60-61บาท/กิโลกรัม สำหรับกุ้งขาวแวนนาไม ราคาลดลงเล็กน้อย สำหรับกุ้งขนาด 60ตัว ราคา 210-220บาท/กิโลกรัม แต่เมื่อเร่งแก้ปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (EMS) จึงมีแนวโน้มดี ทำให้ผลผลิตอาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตร และส่งผลต่อเนื่องให้รายได้ของภาคเกษตรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 14-15% ราคาประมาณ 7,500-9,500 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลิ 14,000-15,000 บาท/ตัน แต่เมื่อชาวนาเร่งขายและมีความชื้นสูง 20% อาจทำให้ราคาข้าวเปลือกเจ้าเหลือ 6,000-6,500 บาท/ตัน ยอมรับว่า ขณะนี้ข้าวไทยเจอคู่แข่งในตลาดโลกสูงมาก จึงต้องบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ลดลง
[/td][/tr][/table]
