คสช.ตรวจสต๊อกยาง2แสนตัน ลุยสอบแผนปล่อยข่าวกดราคา
updated: 28 ก.ค. 2557 เวลา 13:15:32 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คสช.เร่งตรวจสอบสต๊อกยาง 2 แสนตัน ลุยตรวจสอบขบวนการปล่อยข่าวยางล้นสต๊อกแก้ไขปัญหาราคายางดิ่งหนัก
นายเพิก เลิศวังพง ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกันระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และเครือข่ายชาวสวนยางทั่วประเทศ ได้ข้อสรุปว่า คสช.จะให้ทหารและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจสอบสต๊อกยางพาราในโกดังเก็บที่ ค้างอยู่จำนวน 210,000 ตันว่าจะเป็นไปตามตัวเลขหรือไม่ โดยมีรูปแบบเดียวกับการตรวจสอบโกดังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าว นอกจากนี้ ยังให้มีการตรวจสอบตัวตนองค์กรต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นเกี่ยวกับยางพาราว่าเป็นตัวจริงหรือเป็นการอุปโลกน์หรือไม่ และมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร
"เรื่องยางพาราค้างสต๊อกมีขบวน การปล่อยข่าวว่า ยางพาราล้นตลาดจนเกิดกรณีมีการซื้อยางพาราราคาที่ถูก และทำยางพาราให้ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ในข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้ล้น แต่มีการปล่อยข่าวว่ายางพาราล้น เป็นเรื่องไม่จริง โดย คสช.จะสืบสวนหาขบวนการปล่อยข่าวมาดำเนินการ ซึ่งทางทหารมีข้อมูลแล้วนอกจากการตรวจสอบสต๊อกยางพารา"
นายเพิก กล่าวว่า ระยะนี้ไม่ใช่เป็นช่วงของขาลงราคายางพารา แต่มีปัญหาเรื่องแรงงานยางพาราขาดแคลน ยางพารามีปริมาณผลผลิตน้อยลงประมาณ 30% และน้ำยางมีปริมาณน้อย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องชาวสวนยางพาราหยุดกรีด และมีแนวโน้มจะเกิดภัยธรรมชาติ จะเกิดผลกระทบกับยางพารา
อย่างไรก็ตาม ปีนี้โอกาสมีมากที่ราคายางพาราจะขยับขึ้น ขณะที่ยางที่ค้างสต๊อกอยู่จะกลายเป็นทองคำทันที โดยทหารจะต้องควบคุมไม่ให้ขายออกต่างประเทศ เนื่องจากข้อเท็จจริงแล้วยางพาราไม่ได้ล้นตลาด
นายขำ นุชิตศิริภัทรา อุปนายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยกล่าวว่า สิ่งที่ คสช.จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางพารา คือ การควบคุมราคาวัตถุดิบที่ผลิตยางพารา เช่น ปุ๋ย และยา ซึ่งราคาค่อนข้างสูงมาก ขณะนี้อยู่ที่ 65.25 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ราคายางพารายังอยู่ราว 50 บาท/กิโลกรัม
"ขณะนี้ชาวสวนยางพารา ค่อนข้างลำบากมาก ปัจจัยที่สำคัญที่เป็นเงื่อนไขทำให้ยางพาราราคาตกต่ำ มีทั้งเรื่องเศรษฐกิจโลกยางล้นตลาด ดังนั้น ควรควบคุมราคาวัตถุดิบภาคการเกษตรเพื่อสอดรับกับราคาที่ตกต่ำของยางพารา คสช.ต้องแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน"
