ดิ้นทุกทาง! เงินเก็บก้อนสุดท้าย เปิดอู่คาสวนยาง หาเงินเลี้ยงชีวิต หลังราคาดิ่งหนัก
วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2015 เวลา 08:46 น.
เกษตรกรสวนยางพารา อ.สว่างแดนดินต้องดิ้นรน หาเงินเลี้ยงครอบครัวหลังราคายางทุกประเภทตกต่ำ จนเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์คาสวนยาง วอนยืดหยุ่นกรณีเงื่อนไข กรณีไม่มีคนค้ำขอเงินกู้กับตามโครงการ ช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางทำอาชีพเสริม
ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่เกษตรกรชาวสวนยาง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งมีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 1 หมื่นไร่ ขณะนี้กำลังประสบปัญหาราคายางตกต่ำ ทุกประเภท และยังประสบปัญหาสภาวะภัยแล้งกับช่วงฤดูกาลยางพลัดใบ ต้องปิดหน้ายางเป็นเวลากว่า 2 เดือน เพื่อป้องกันต้นยางพาราล้มตายจากการขาดน้ำ จึงต้องหยุดกรีดยางพารา หลายครอบครัวมีเงินทุนน้อยไม่สามารถลงทุนทำเกษตรอย่างอื่นได้ หัวหน้าครอบครัวต้องทิ้งภรรยาและลูกๆ ออกหารับจ้างรายวันเพื่อนำเงินมาจุลเจือครอบครัว บางรายรถยนต์ ที่ยังผ่อน ต้องถูกตามยึด ถูกทวงถาม เดือดร้อนกันอย่างหนัก
ที่บ้านเลขที่ 235 บ.หนองบัว ต.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร นางรัตดา พุมเพ็ง อายุ 37 ปี มีไร่ยางพาราจำนวน 8 ไร่ เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ซึ่งปกติจะช่วยกันกรีดยางพาราก้อนถ้วยขาย ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ลำบากมากอยู่แล้วในช่วงราคายางตกต่ำ แม้จะกรีดเองในครอบครัว เป็นการลดรายจ่าย เงินที่ได้มาก็ใช้จ่ายอย่างขัดสน และขณะนี้ ต้องปิดหน้ายางเป็นเวลา 2 เดือน จากภัยแล้งและฤดูกาลยางพลัดใบ โดยสามีต้องออกไปหารับจ้างรายวัน ส่วนตนและลูกชายเฝ้าไร่ยางที่บ้าน ลำพังจะรอสามีหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวคนเดียวไม่ได้ จึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่ยังพอมีอยู่ประมาณ 3 หมื่นบาท ลงทุนเปลี่ยนโรงเก็บยางพารา ไปซื้ออุปกรณ์ มาเปิดเป็นอู่ ปะยาง ซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยมีลูกชายที่เรียนมาเป็นช่างซ่อม
นางรัตดา พุมเพ็ง กล่าวอีกว่า ถือว่าวิกฤตที่สุดสำหรับชาวสวนยาง ในพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ที่เจอปัญหาราคายางตกต่ำ ยังดีที่ครอบครัวตนยังพอมีเงินเหลือเก็บ จึงตัดสินใจหารายได้ เสริมโดยการเปิดอู่ ปะยาง ซ่อมรถจักรยานยนต์ หลังจากเปิดให้บริการมาประมาณ 1 เดือน ก็มี ชาวสวนยางด้วยกันและประชาชนที่ผ่านไปมานำรถจักรยานยนต์มาเปลี่ยนมาซ่อม ซึ่งพอมีรายได้ต่อวัน 100-120 บาท พอได้ค่ากับข้าวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และคิดว่าจะทำอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเปิดหน้ายางและจะทำควบคู่กัน ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษากับชาวสวนยางในพื้นที่ ซึ่งเริ่มมีการทำอาชีพเสริม โดยเฉพาะการทำเกษตรผสมผสานเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันไปว่า จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรหรือไม่ แต่ยังหนักใจเรื่องเงินทุนอยู่
สำหรับโครงการรัฐที่จะช่วยเหลือเกษตกรสวนยางในการทำอาชีพเสริม โดยการขอกู้กับ ธกส.นั้นจะต้องหาคนมาค้ำประกัน ส่วนครอบครัวตนไม่มีคนค้ำประกัน ก็ขาดโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล จึงอยากฝากให้มีการยืดหยุ่นหรือหาวิธีการใดก็ได้ที่จะสามารถให้เกษตรกร กู้เงินกับเงื่อนไขที่น้อยลงเพื่อมาลงทุนทำอาชีพเสริมควบคู่กับการกรีดยางพารา
ที่มา : มติชนออนไลน์ วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12:33:01 น.