ปลูกยางพาราให้สวยและทนแล้งด้วยโพลิเมอร์ Alcosorb AB3/400โพลิเมอร์ หรือ "สารอุ้มน้ำ" สำหรับปลูกพืช นวัตกรรมใหม่ที่สามารถนำมาใช้การปลูกยางพาราและพืชอื่น ๆ มากมายหลายชนิดในเขตพื้นที่แห้งแล้งไม่ว่าภาคกลาง-เหนือ-อีสาน-ใต้ ด้วยคุณสมบัติในการดูดเก็บน้ำได้มากไม่น้อยกว่า 200 เท่า จึงทำให้พื้นดินมีความชุ่มชื้นแม้ในฤดูแล้ง ส่งผลให้ต้นยางพาราเจริญเติบโตอย่างงดงามและลดอัตราการตายเนื่องจากภัยแล้งที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ในปัจจุบันนี้ แม้ว่ายางพาราจะสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่ภัยแล้งที่ค่อนข้างยาวนาน 5-6 เดือนของพื้นที่ในภาคกลาง-เหนือ-อีสาน ก็ทำให้ต้นยางที่เพิ่งปลูกต้องตายเป็นจำนวนไม่น้อย ก่อให้เกิดความกังวลใจและทำให้ผู้ปลูกยางพาราต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย ๆ นับตั้งแต่ค่าแรงปลูกซ่อมยาง, ค่าพันธุ์ยางใหม่ และการดูแลอย่างดีพิเศษเพื่อให้ต้นยางรอดตายและเจริญเติบโตทันกับต้นยางที่ล่วงหน้าไปแล้ว 1 ปี และหากไม่สามารถปลูกซ่อมให้รอดได้ภายใน 2 ปี ก็หมดสิทธิ์ที่จะทำการปลูกซ่อม(ด้วยยาง)อีกต่อไป
วันนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสรู้จักกับคุณไว มณี ชาวสวนยางพาราหัวก้าวหน้าคนหนึ่งของอำเภอจะนะ จ.สงขลา ที่ได้แนะนำและสาธิตคุณสมบัติของโพลิเมอร์ในการดูดเก็บน้ำ และนำชมสวนยางพาราที่ใช้โพลิเมอร์ Alcosorb AB3/400 ใส่ในหลุมตอนปลูกยาง ผมจึงนำความรู้เกี่ยวกับประโยชน์และคุณค่ามหาศาลของโพลิเมอร์มาถ่ายทอดต่อให้กับผู้ทำสวนยางพาราทุกท่าน ครับ
โพลิเมอร์ Alcosorb AB3/400 ก่อนแช่น้ำจะมีลักษณะเป็นเม็ดหรือเกล็ดเล็ก ๆ สีขาวดูสะอาดตา คล้าย ๆ น้ำตาลทรายขาวมาก ๆ เมื่อนำโพลิเมอร์ไปแช่น้ำ ก็จะเริ่มดูดน้ำและจะเริ่มมองเห็นก้อนคล้าย ๆ ของเหลวใส ๆ ภายใน 5 นาที เมื่อแช่ทิ้งไว้ 4 ชม. โพลิเมอร์จะดูดน้ำเข้าประมาณ ไม่น้อยกว่า 200 เท่า การนำโพลิเมอร์ที่ดูดน้ำเต็มที่แล้วไปใส่ในหลุมปลูกยางพาราตอนปลูก เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน พื้นดินแห้งแล้ง ดินก็จะดูดน้ำจากโพลิเมอร์ รากต้นยางก็จะได้น้ำหรือธาตุอาหารที่ต้องใช้น้ำเป็นตัวทำละลายจากดินอีกต่อหนึ่ง เมื่อพื้นดินได้รับน้ำเพิ่มเข้ามาก็จะถูกโพลิเมอร์ดูดเก็บไว้ใช้เมื่อพื้นดินแห้งแล้ง วนเวียนต่อไป(นานประมาณ 5- 6 ปี)
วิธีใช้โพลิเมอร์ในการปลูกยางพารา
โดยทั่ว ๆ ไป โพลิเมอร์ Alcosorb 1 กิโลกรัม ใช้ปลูกยางได้ ประมาณ 200-400 ต้น ซึ่งมีขั้นตอนเคร่า ๆ ดังนี้
แช่โพลิเมอร์ให้ดูดน้ำเข้าให้เต็มที่(โพลิเมอร์ 1 ก.ก.ต่อน้ำ 200 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 4 ชม. หรือค้างคืน)
ในวันปลูกยาง ให้รองก้นหลุมด้วยโพลิเมอร์ที่แช่น้ำแล้ว 1 กระป๋องนม
นำต้นยางลงปลูกโดยตั้งลงบนโพลิเมอร์ แล้วถมดินลงไปครึ่งหนึ่งของตุ้มดินที่หุ้มรากยางอยู่
เทโพลิเมอร์อีก 1-2 กระป๋องนมลงรอบ ๆ ตุ้มดินที่หุ้มรากยางอยู่ (ในเขตแห้งแล้งมาก ๆ ในขั้นตอนนี้แนะนำให้ใส่ 2 กระป๋องนม)
กลบและอัดดินให้แน่น ตามวิธีการปลูกยางตามปกติ
หลังจากใช้โพลิเมอร์แล้ว พื้นดินควรได้รับน้ำบ้าง 2-3 เดือนต่อครั้ง และหากทำการคลุมโคนด้วยหญ้าแห้งหรือเศษวัสดุทางการเกษตรได้ ก็จะทำให้คุณสมบัติการดูดเก็บน้ำของโพลิเมอร์ ดีมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันนี้ แม้แต่ในภาคใต้ที่ภัยแล้งมีน้อยกว่าภาคเหนือ-อีสาน แต่ชาวสวนยางพาราในภาคใต้ก็ประสบกับปัญหาต้นยางตายจากภัยแล้งมากขึ้นเช่นกัน 3 ภาพด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างของสวนยางพาราของคุณไว มณี ที่ใช้โพลิเมอร์ช่วยแก้ปัญหานี้ สวนแปลงนี้ปลูกเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2552 หรือมีอายุ 13 เดือน ต้นยางมีความสมบูรณ์ งดงามดูสม่ำเสมอและสูงประมาณ 3.5-5 เมตร(มาตรฐานความสูงของต้นยางพาราอายุ 12 เดือน ประมาณ 2 เมตร) สวนแปลงนี้ใช้ทั้งปุ๋ยสูตร 20-8-20 และสูตร 25-7-7 ด้วย) ถือได้ว่าเป็นสวนยางพาราแปลงหนึ่งที่ประสพความสำเร็จ ซึ่งนอกจากจะมาจากความขยันและตั้งใจทำสวนจริงของผู้เป็นเจ้าของแล้ว โพลิเมอร์ก็มีส่วนช่วยสวนยางแปลงนี้เป็นอย่างมาก เช่นกัน
อ้อ!! ลืมบอกไปว่า หากยังไม่ใช้หรือต้องการเก็บโพลิเมอร์ไว้ ก็สามารถเก็บไว้ได้นานมาก ๆ ถึงประมาณ 10 ปี แต่คงไม่มีใครเก็บไว้นานขนาดนั้นแน่ ครับ
หากต้องการใช้กับยางที่ปลูกแล้วก็สามารถใช้ได้เช่นกัน หลักการก็คือต้องฝังโพลิเมอร์ลงในดินบริเวณปลาย ๆ ราก หากเป็นยางที่ปลูกแล้ว 1-2 ปี ก็ควรขุดหลุมลึกประมาณ 20 ซม.(ควรทำในช่วงดินนุ่ม ๆ ) สัก 2-3 หลุม แล้วใส่โพลิเมอร์ที่แช่น้ำแล้วหลุมละ 1 กระป๋องนม แล้วกลบดิน ทำเป็นแอ่งไว้รับน้ำหน่อยก็ดี ถ้าให้ดีขึ้นอีก ก็ควรคลุมโคนก่อนเข้าหน้าแล้งด้วย ครับ
มีบางท่านถามว่า ถ้าเราเอาปุ้ยละลายน้ำ แล้วแช่กับโพลิเมอร์จะมีผลอะไรกับโพลิเมอร์บ้าง คือ ใส่ครั้งเดียวได้ทั้งน้ำและปุ้ย? คำตอบก็คือว่า ถ้าน้ำมีพวกเกลือ หินปูน หรือมีความเป็นกรด-ด่าง หรือเจือปนด้วยอย่างอื่น ก็อาจทำให้ความสามารถในการดูดน้ำของโพลิเมอร์น้อยลงได้ แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 เท่า ถ้าทดลองทำเองในจำนวนเล็กน้อยก่อนแล้วนำผลมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ก็คงดีไม่น้อย แต่อยากแนะนำว่า ถ้าเป็นการปลูกยางใหม่ ในพื้นดินก็พอจะมีธาตุอาหารอยู่บ้างแล้ว ความต้องการน้ำน่าจะเป็นสิ่งสำคัญกว่า ครับ
สำหรับต้นทุนโพลิเมอร์ หากเทียบกับการต้องลงทุนปลูกซ่อมยางแล้วนับว่าต่ำมาก คือ 2.3 -3.5 บาทต่อต้น หากท่านต้องการสอบถามเพิ่มเติม ท่านสามารถติดต่อไลฟ์รับเบอร์ได้ที่อีเมล์
rubber@live-rubber.com หรือโทร 081-097-4640 หรือ 081-690-9452 คุณวันทนา คุณารักษ์