ปัญหาส่งออก
ความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศ มีความเข้มข้นมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจของโลก
เนื่องจากมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เอเชีย ที่ผลิตสินค้าใกล้เคียงกัน และนับวันมีการพัฒนาตัวสินค้าจนกระทั่งจี้ก้นไทยมาติด ๆ
โดยภาคเอกชน ต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกแห่งชาติ ขึ้นมา โดยการระดมกระทรวงเศรษฐกิจทั้ง 12 แห่งร่วมทำงาน และมีนายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธาน
นอกจากนี้ต้องมีภาคเอกชนที่เกี่ยว ข้องเข้ามาทำงานด้วยกัน เพื่อช่วยกันระดมความคิดแก้ปัญหาการส่งออกของไทย ที่นับวันลดลง คาดว่าไตรมาสแรกของปีนี้น่าจะติดลบประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แม้ว่าคาดการณ์ตลอดปีนี้การส่งออก จะยังสามารถขยายตัวได้ประมาณ 1-1.5 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การเรียกประชุมทูตพาณิชย์ ทั้งหมดในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากมีเวลาปรับกลยุทธ์ และแก้ปัญหาอุปสรรคการส่งออกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะเวลานี้การให้ภาคเอกชนเดินหน้าส่งออกสินค้าเช่นในอดีตอาจไม่ทันเหตุการณ์
รัฐบาลต้องเป็นหน่วยงานที่คอยสนับ สนุนหลัก และเป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ต้องยอมรับว่าเวลานี้สินค้าการเกษตรซึ่งเคยเป็นพระเอก หรืออุตสาหกรรมการประมง ไม่นับรวมภาคอุตสาหกรรม ประสบปัญหาทั้งผลผลิต ราคาตกต่ำ มีคู่แข่งมาก
นอกจากนี้ยังมีปัญหาการกีดกันทาง การค้าเกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ขณะนี้สหรัฐอเมริกาได้ปรับลดอันดับความพยายามตอบสนองต่อการค้ามนุษย์ ที่ไม่สอดคล้องกับมาตรการขั้นต่ำตามกฎหมายการค้ามนุษย์ของสหรัฐ หรือเทียร์ 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางรัฐบาลและตัวแทนภาคเอกชนจะเดินทางไปพบปะนักธุรกิจ และภาครัฐของสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้ด้วย
ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยได้พยายามแก้ปัญหาทั้ง ด้านแรงงานต่างด้าว แรงงานเด็ก และการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง จึงได้แต่ลุ้นให้สหรัฐปรับขึ้นอันดับจากเทียร์ 3 เป็น เทียร์ 2 นั่นหมายความว่าธุรกิจไทยที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาสต่อลมหายใจอีกครั้ง.
ที่มา เดลินิวส์ (17 มีนาคม 58)