เลาะรั้วเกษตร : จากข้าวถึงยาง ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง
หลังจากเรื่องโพลล์ ที่ชี้ว่ารัฐมนตรีคนไหน กระทรวงไหน สมควรจะปรับเปลี่ยนใหม่เงียบไป รัฐมนตรีที่มีชื่อปรากฏในโพลล์ ก็เร่งรีบทำผลงานให้เข้าตากรรมการ....รวม ทั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อำนวย ปะติเส ไล่บี้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องยางทั้งหมด ภายใต้นโยบายการแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รมช. อำนวย ปะติเส สั่งให้จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ?การบริหารจัดการสินค้ายางพารา รอบการผลิต ปี 2558/59? ระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมพึ่งบุญ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อชี้แจงการบริหารจัดการสินค้ายางพารา และแนวทางแก้ไขปัญหาสินค้ายางพาราในระดับจังหวัด พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์การผลิต และสภาวะยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง ให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง
มีผู้ที่ถูกหวยได้รับเชิญมาในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ในฐานะผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเกษตรจังหวัด (ที่มีพื้นที่ปลูกยาง) ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักตลาดกลางยางพารา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต ผู้แทนจากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และองค์การสวนยาง
รมช.อำนวย ปะติเส สร้างกลไกขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบประกอบด้วย คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการระดับต่างๆ ถึง 4 คณะด้วยกัน ได้แก่ คณะกรรมการ นโยบายยางธรรมชาติ หรือ กนย. และคณะอนุกรรมการบริหารการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนายางทั้งระบบ ศูนย์บริหารและคณะกรรมการบริหารการแก้ไขปัญหาสินค้ายางพาราอย่างเป็นระบบครบ วงจร ศูนย์บริหารและคณะกรรมการบริหารดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้ายางพาราอย่างเป็น ระบบครบวงจรระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
แค่คณะกรรมการที่ชื่อยาวๆ 3-4 คณะ ผลัดกันประชุมนี่ก็เหนื่อยแล้ว คณะกรรมการระดับบนๆ ไม่เท่าไร แค่มาช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอ ช่วยกันมโน ผิดบ้าง ถูกบ้าง ก็ว่ากันไป แต่คณะกรรมการระดับล่าง คือ ระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัดนี่สิ ต้องรับนโยบายไปปฏิบัติ ต้องเร่งแก้ปัญหาสำคัญ ถ้ามีการร้องเรียนการเข้าไม่ถึงการให้บริการ หรือ มาตรการช่วยเหลือของรัฐ จังหวัดต้องรีบสกัดก่อนมาถึงกระทรวง หรือ รัฐบาล........งานเข้าผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการระดับจังหวัด
นอกจากต้องเผชิญหน้ากับม็อบยางแล้วต้องจัดทำข้อมูลแผนการผลิตและแผนการ จำหน่ายยางพาราในปี 2558/59 ข้อมูลต้นทุนการผลิตในระดับจังหวัด โดยหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะใช้ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ ระดับจังหวัด กรม กระทรวง คณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติ โน่น
อดแปลกใจไม่ได้ว่า ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจของไทย ที่ทำรายได้ให้กับประเทศเป็นอันดับที่ 1 แทนข้าวมานานนับสิบปี ข้อมูลเหล่านี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีหรืออย่างไร หรือมีแต่ไม่ตรงกันสักหน่วยงาน อันเป็นเหตุให้ต้องมีการรวมหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องกับยางพารา เป็น ?การยางแห่งประเทศไทย? ด้วยเหตุผลว่า ?เพื่อความเป็นเอกภาพในการดำเนินงาน?
เท่านั้นยังไม่พอ รมช.อำนวย ปะติเส ยังสั่งให้จัดทำประมาณการสมดุลยางพาราของจังหวัด ราคายางพาราแยกตามชนิดยางพาราในจังหวัด โครงสร้างอุตสาหกรรมยางของจังหวัด และระบบตลาดยางในจังหวัด พร้อมทั้งขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการระดับจังหวัด มอบหมายให้คณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลยางแยกชนิด ของจังหวัดนั้นๆ รายงานให้กระทรวงเกษตรฯ ทราบภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน รวมทั้งวิเคราะห์สถานการณ์การผลิตยางพาราในระดับจังหวัดปี 2558/59 ด้วย
งานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดคงไม่ไยดีสักเท่าไร งานคงตกอยู่กับ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด และเกษตรจังหวัด คนของกระทรวงเกษตรฯ นั่นแหละ ?รัฐมนตรี สั่งให้ไปนับต้นยางในจังหวัดว่ามีเท่าไร...บ้ารึ เปล่า...? คือเสียงปรารภของผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาคนหนึ่ง
ที่น่ายุ่งเหยิงไปกว่าที่กล่าวมาคือ มาตรการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบของรัฐบาลมีถึง 16 มาตรการ แต่ละมาตรการใช้งบประมาณเท่าไร รวมทั้ง 16 มาตรการแล้วเป็นเงินเท่าไร ไม่ได้บอกไว้ ถ้ามี 16 มาตรการแล้ว สามารถแก้ปัญหาได้จริงก็รอดตัว แต่ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็คงสูญเปล่า อยากถามว่า มันต้องใช้ถึง 16 มาตรการเชียวหรือ ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ขออย่าให้ซ้ำรอย ?รับจำนำข้าว? ก็แล้วกัน
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 20 มีนาคม 2558)