ผู้เขียน หัวข้อ: กนย.เร่งช่วยเหลือชาวสวนยาง  (อ่าน 1011 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87964
    • ดูรายละเอียด
กนย.เร่งช่วยเหลือชาวสวนยาง
« เมื่อ: มิถุนายน 05, 2015, 04:24:03 PM »
กนย.เร่งช่วยเหลือชาวสวนยาง



       ที่ประชุมกนย.มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการขับเคลื่อนด้านยางพาราเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอเกษตรกร

 นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ว่า กนย.ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2558 เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ดำเนินการขับเคลื่อนด้านยางพารา ภายใต้กรอบนโยบายเดิมโดยการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว ในปี 2557/2558 ให้สอดคล้องกับข้อเสนอของภาคเกษตรกร ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพในปี 2558/2559 ดังนี้

 โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการรวบรวมยาง (วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท) ให้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินกู้ของ ธ.ก.ส. จากสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 นอกจากนี้ ให้ขยายระยะเวลาโครงการที่สถาบันเกษตรกรต้องส่งคืนเงินกู้ออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 เป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 และโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารา (วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท) ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับ ธ.ก.ส.เร่งรัดกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินงานให้ได้ข้อยุติของแต่ละปัญหา โดยเร็ว

 ด้านโครงการสนับสนุนสินเชื่อเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพเสริม มอบให้กรมส่งเสริมการเกษตร และ ธ.ก.ส. ขยายระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการโดยเปิดรับสมัครเกษตรกรให้เต็มตามวงเงินสิน เชื่อ 10,000 ล้านบาทหากวงเงินกู้ในส่วนนี้หมด จะมีการจัดสรรให้เพิ่มเติมในภายหลัง ส่วนโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยางที่สิ้น สุดไปแล้วเมื่อเมษายน 2558 นั้น ให้รับข้อเสนอของกรรมการผู้แทนสมาคมน้ำยางข้นไทยที่จะขอให้ขยายระยะเวลา โครงการนี้ออกไปอีก 1 ปี ไปพิจารณา

 อย่างไรก็ตาม ได้ยกเลิกโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง (วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท) เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการต่อได้เพราะคุณสมบัติของผู้กู้ไม่ผ่านเงื่อนไข ตามที่ธนาคารออมสินกำหนดโดยรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ จะพิจารณาในรายละเอียดเพื่อจัดทำเป็นโครงการใหม่และให้ยกเลิกระบบเดิมใน โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางโดยดำเนินการตามบัญชาของ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กนย.ที่ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้เงินที่เหลืออยู่จากโครงการ ดังกล่าวรับซื้อยางเฉพาะจากเกษตรกรเท่านั้น

 ทั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)จะเป็นผู้ตรวจสอบ โดยไม่ใช้ระบบเดิมและให้รับข้อเสนอของกรรมการตัวแทนเกษตรกรมาศึกษาในการข้อ ชดเชยส่วนต่างราคาแทนการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรมาเก็บสต็อก

 เลขาธิการ สศก. กล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการยางพาราปี 2558มีมาตรการด้านอุปทาน โดยการลดปริมาณพื้นที่ปลูกยางพาราซึ่งมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเข้าไปควบคุมพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทำสวนยางให้เป็นไปตามกฎหมายรวม 600,000 ไร่ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โค่นยางเก่าปีละ 4 แสนตัน รวม 1 ล้านไร่ เพื่อลดปริมาณอุปทานยางในปลายปี 2558/59 รวม 1.5 - 2 แสนตันในปลายปี 2558/2559

 นอกจากนี้ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางตาม มาตรา 6 ของ พ.ร.บ. ควบคุมยาง พ.ศ. 2542 ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนโดยให้ขอความร่วมมือจากกระทรวงกลาโหมร่วมดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียน เกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยางรวมทั้งให้สภาเกษตรกรแห่งชาติเก็บรวบรวมข้อมูล เกษตรกรชาวสวนยางและคนงานกรีดยางพร้อมนี้ให้ตรวจสอบปรับปรุงคณะกรรมการที่ เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการส่งต่อการดำเนินการใหม่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รวมทั้งมอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบในเรื่องการขอปรับปรุง หลักเกณฑ์แนวทางการใช้สิทธิ์ของเกษตรกรชาวสวนยางตามโครงการชดเชยรายได้แก่ เกษตรกรชาวสวนยาง

 ทั้งนี้ ให้มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูล สถิติมาใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์ แนวโน้ม เพื่อกำหนดเป้าหมายและวางแผนการดำเนินงาน โดยให้มีความชัดเจนมากขึ้นในแต่ละช่วงระยะเวลารวมทั้งควรกำหนดเป้าหมายการ ส่งออกยางพาราในปี 2559 และระบุการเพิ่มการส่งออกเป็นตัวเลขอย่างชัดเจนโดยเชื่อมโยงถึงการหาตลาด ใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณการส่งออกด้วยตลอดจนเรื่องการใช้ยางภายในประเทศควรมี การกำหนดเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ของการส่งออกการเพิ่มปริมาณการผลิตยางพาราในโรง งานไว้ล่วงหน้าทั้งแบบรายเดือน/รายไตรมาส/รายปี โดยร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนรวมถึงสหกรณ์ ซึ่งจะได้มีมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมาตรการต่างๆจะเป็นมาตรการเชิงรุก ที่ไม่ได้ดำเนินการตามสถานการณ์โลกเพียงปัจจัยเดียว

 ส่วนการนำยางในสต๊อก (โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง)ไปผลิต ผลิตภัณฑ์ยาง ให้มีการซื้อยางพาราในราคาที่เหมาะสมและรัฐเข้าไปชดเชยในส่วนของการขาย โดยร่วมมือกันทุกกระทรวงอย่างเป็นระบบ

 สุดท้ายคือการแก้ปัญหาผลผลิตในพื้นที่ให้มีการแก้ปัญหาเป็นระบบในแต่ละ พื้นที่ โดยการลดพื้นที่ปลูกยางซึ่งในปีนี้มีการกำหนดเป้าหมาย 1 ล้านไร่และในระยะต่อไปต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ทั้งพื้นที่ในเขต นอกเขตโดยการลดพื้นที่ปลูกยางในที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ของกลุ่มที่เป็น เกษตรกรจะต้องมีการวางแผนเพื่อให้ความช่วยเหลือ เช่นจัดหาอาชีพและจัดหาที่ดินเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้การสนับสนุนการ ปลูกพืชเศรษฐกิจ และการปลูกพืชแซมในสวนยาง เช่นพืชผักสวนครัวเพื่อการบริโภคในครัวเรือนรวมทั้งการเลี้ยงสัตว์โดยยึด หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

 ส่วนด้านการลดต้นทุนการผลิต ต้องกำหนดเป้าหมายในด้านต่างๆ เช่นการใช้วัสดุอุปกรณ์ แรงงาน เป็นต้น ทั้งนี้เกษตรกรปลูกยางอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ประมาณ 2 แสนรายได้มอบหมายให้สภาเกษตรกรไปสำรวจ และรับขึ้นทะเบียนให้ชัดเจนเพื่อนำมาพิจารณาการดำเนินการแก้ปัญหาอีกครั้ง โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเข้าไปควบคุมพื้นที่ที่ถูก บุกรุกทำสวนยางให้เป็นไปตามกฎหมายรวม 600,000 ไร่ เพื่อลดปริมาณอุปทานยางในปลายปี 2558/59 ต่อไป               



   เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ (Th)